1. ซื้อบัตรที่หน้างาน
ตรงตัวตามหัวข้อเลยค่ะ สำหรับที่ญี่ปุ่น บัตรคอนเสิร์ตบางประเภทจะสามารถซื้อที่หน้างานได้เลยโดยไม่ต้องจองล่วงหน้า ส่วนใหญ่มักเป็นการแสดงที่ไม่ใหญ่มาก เช่น งานที่จัดขึ้นในไลฟ์เฮาส์เล็กๆ ซึ่งมีคนดูไม่มาก ไม่จำเป็นต้องแย่งกัน นอกจากนี้ การขายตั๋วหน้างานก็ยังช่วยเพิ่มโอกาสในการดึงดูดผู้คนที่สัญจรผ่านไปมาที่อาจจะสนใจได้ด้วย เป็นการเพิ่มฐานแฟนคลับไปในตัวนั่นเอง
หากคุณเป็นแฟนคลับของวงที่จะขึ้นแสดงแบบนี้อยู่แล้ว ก็สามารถติดตามข่าวสารและตารางการแสดงได้ในโซเชียลมีเดียหรือเว็บไซต์ของทางวง จากนั้นก็ไปสถานที่จัดงานให้ตรงเวลา จ่ายเงินซื้อตั๋ว แล้วสนุกไปกับการแสดงได้เลย
นอกจากนี้ หากคุณเดินเล่นอยู่ตามถนนในเมือง แล้วเจอใบปลิวหรือโปสเตอร์การแสดงคอนเสิร์ตในรูปแบบนี้ ก็สามารถเข้าไปลองชมได้เช่นกันค่ะ อาจจะทำให้ได้พบกับศิลปินญี่ปุ่นที่ชอบโดยบังเอิญก็ได้นะ
นอกจากนี้ คอนเสิร์ตใหญ่ๆ บางงานก็อาจจะมีบัตรเหลือจาก “รอบการจองล่วงหน้า” ทำให้มีการเปิดขายในช่วงใกล้วันคอนเสิร์ตหรือขายในวันงานจริงๆ ด้วยเหมือนกัน ตรงจุดนี้ คุณอาจจะต้องซื้อบัตรผ่านทางเว็บไซต์ที่ขายตั๋วคอนเสิร์ตต่างๆ ซึ่งส่วนใหญ่ก็จะเป็นเว็บฯ เดียวกับที่ใช้จองตั๋วคอนเสิร์ตนั่นแหละค่ะ
ทีนี้ เรามาดูรายละเอียดส่วนนี้เพิ่มเติมใน “การซื้อบัตรคอนเสิร์ตแบบจองล่วงหน้า” กันดีกว่า
2. ซื้อบัตรแบบจองล่วงหน้า
สำหรับบัตรที่ต้องมีการจองล่วงหน้านั้น ส่วนใหญ่จะเป็นคอนเสิร์ตของวงดนตรีหรือศิลปินที่มีคนดูมากขึ้นหน่อยจึงต้องมีการเปิดจองก่อนถึงวันจริง ยิ่งหากเป็นศิลปินที่ได้รับความนิยมมากๆ แล้วล่ะก็ จะต้องใช้ทั้งเงินทั้งดวงเลยล่ะค่ะ! เพราะระบบที่ใช้ในการจำหน่ายบัตรเหล่านี้มักจะใช้วิธี “สุ่ม” อาจจะฟังดูใจร้ายสักหน่อย แต่ก็เป็นระบบที่ทำให้สามารถกระจายโอกาสให้กับทุกคนได้อย่างยุติธรรมนั่นเอง
แต่ถึงอย่างนั้นก็ไม่ใช่ว่าทุกคอนเสิร์ตจะขายบัตรสุ่มเหมือนกันหมดนะคะ เพราะญี่ปุ่นก็ยังมีคอนเสิร์ตที่เปิดให้จองบัตรแบบ “มาก่อนได้ก่อน” อยู่เหมือนกัน ในกรณีนี้ เราก็เพียงตรวจสอบให้ดีว่าศิลปินจะเปิดให้จองตั๋ววันไหน จดวันเวลาเอาไว้ดีแล้วเข้าไปจองให้เร็วที่สุด เพียงเท่านี้ก็จะได้บัตรมาครอบครองอย่างสบายใจแล้ว
เมื่อศิลปินที่เราชื่นชอบจะจัดคอนเสิร์ต ก็จะมีการกระจายข่าวผ่านทางโซเชียลมีเดียต่างๆ หรือเว็บไซต์ของเจ้าตัวเอง นอกจากนี้ก็ยังมีเว็บไซต์อื่นที่คอยกระจายข่าวสารในวงการบันเทิงให้เราได้ติดตามกันด้วย แถมเว็บไซต์ที่เป็นตัวกลางการจองบัตรหลายๆ เจ้าก็ยังมีการส่งข้อมูลการแสดงใหม่ๆ ที่จะจัดให้กับผู้ใช้ที่สมัครรับข่าวสารทางอีเมลด้วย ดังนั้น หากคุณไม่อยากพลาดก็ลองสมัครรับข้อมูลแบบนี้กันได้นะคะ
โดยปกติ เวลาที่มีการจัดคอนเสิร์ตก็มักจะมีการเปิดจองบัตรหลายๆ รอบ โดยจะให้สิทธิ์ผู้ที่มีคุณสมบัติตรงตามเงื่อนไขที่แตกต่างกันในแต่ละรอบ เช่น ผู้ที่เป็นสมาชิกรายเดือน/รายปีของเว็บไซต์แฟนคลับศิลปิน, ผู้ที่เคยซื้อแผ่นคอนเสิร์ตหรืออัลบั้มของศิลปินไปก่อนหน้านี้ เป็นต้น
คนที่มีคุณสมบัติตรงตามเงื่อนไขเหล่านี้จะได้จองตั๋วก่อนคนทั่วไป ดังนั้น หากคุณเป็นสมาชิกแฟนคลับของศิลปินอยู่แล้วก็จะมีสิทธิ์ได้จองตั๋วรอบแฟนคลับก่อนแน่นอน และถึงแม้จะโชคร้ายเจอระบบสุ่มที่ทำให้พลาดขึ้นมา ก็ยังสามารถไปลุ้นในรอบบุคคลทั่วไปได้อีกด้วยค่ะ เพราะฉะนั้น หากคุณมีศิลปินที่ชอบและอยากไปชมการแสดงของเขามากๆ การสมัครเว็บไซต์แฟนคลับของศิลปินเหล่านั้นเอาไว้ก็จะช่วยเพิ่มโอกาสในการซื้อบัตร และโอกาสที่จะได้รับข้อมูลข่าวสารของศิลปินคนนั้นเมื่อมีคอนเสิร์ตใหม่ๆ ด้วย
หากคุณตรวจสอบแล้วพบว่ามีคุณสมบัติตรงตามเงื่อนไข ก็สามารถทำการจองได้เลยค่ะ โดยทำการจองผ่านเว็บไซต์สำหรับจองตั๋วคอนเสิร์ต ศิลปินบางกลุ่มอาจมีการใช้เว็บไซต์ของตัวเอง แต่บางกลุ่มก็อาจจะใช้เว็บไซต์ที่ให้บริการจองตั๋วการแสดงเหล่านี้โดยเฉพาะ เช่น Lawson Ticket (ลอว์สัน ทิคเก็ต), e+ (อีพลัส), Ticket Pia (ทิกเก็ต ปิอะ), CN Play Guide (ซีเอ็น เพลย์ไกด์) เป็นต้น ส่วนจะเป็นเว็บไซต์ไหนนั้น ก็ขึ้นอยู่กับว่าศิลปินที่เราต้องการชมเปิดให้จองตั๋วผ่านช่องทางไหนนั่นเองค่ะ
ขั้นตอนการจองตั๋วผ่านเว็บไซต์เหล่านี้อาจจะมีความแตกต่างกันเล็กน้อย แต่โดยทั่วไปจะคล้ายๆ กันหมดค่ะ โดยขั้นตอนที่ต้องทำจะมีดังนี้:
- สมัครสมาชิกเว็บไซต์ขายตั๋ว (บางกรณีก็ไม่จำเป็นต้องสมัคร)
- เลือกคอนเสิร์ตที่ต้องการชม
- เลือกรอบวันและเวลาที่ต้องการ
- เลือกประเภทบัตร
บางคอนเสิร์ตจะสามารถเลือกได้ว่าต้องการที่นั่งที่อยู่ใกล้เวทีมากแค่ไหน ซึ่งจะแบ่งตามรูปแบบที่นั่ง เช่น ที่นั่ง S, A, B หรือไม่ก็อาจจะแบ่งเป็นชั้น เช่น ที่นั่งชั้น 1และ ชั้น 2 ซึ่งมักจะพบตามงานแสดงในฮอลล์คอนเสิร์ตขนาดใหญ่ที่มีที่นั่งหลายชั้น (ยิ่งอยู่ใกล้เวทีมากเท่าไรก็จะยิ่งเห็นได้ชัดและราคาบัตรก็จะแพงขึ้นด้วย)
อย่างไรก็ตาม บางคอนเสิร์ตอาจไม่อนุญาตให้เลือกประเภทที่นั่ง และจะใช้เป็นระบบสุ่มทั้งหมด คุณจะได้ที่นั่งดีแค่ไหนก็ขึ้นอยู่กับโชคล้วนๆ แล้วค่ะ - เลือกจำนวนที่นั่ง และ เลือกว่าต้องการที่นั่งติดกันหรือไม่
ในการจอง 1 ครั้ง คุณอาจจะสามารถเลือกจำนวนได้ตั้งแต่ 1 – 4 ที่นั่ง ขึ้นอยู่กับงาน อย่างไรก็ตาม ในช่วงสถานการณ์โควิดแบบนี้ก็อาจจะมีการบังคับว่าให้เลือกได้เพียง 1 ที่นั่งอยู่ด้วย ส่วนเรื่องการเลือกว่าต้องการที่นั่งติดกันหรือไม่นั้น จะพบในกรณีที่จองหลายที่นั่งในครั้งเดียวค่ะ ตรงนี้หากเลือกว่าที่นั่งไม่จำเป็นต้องติดกัน ก็อาจจะทำให้มีโอกาสได้บัตรมากขึ้นด้วย
- เลือกวิธีการชำระเงิน
ปกติจะมีให้เลือกทั้งแบบจ่ายด้วยบัตรเครดิต, โอนเงินผ่านธนาคาร, จ่ายด้วยเงินอิเล็กทรอนิกส์ต่างๆ, จ่ายที่ร้านสะดวกซื้อ เป็นต้น - เลือกวิธีการรับบัตร
มีให้เลือกหลักๆ 2 แบบ คือ พิมพ์ที่ร้านสะดวกซื้อ หรือ ขอรับทางไปรษณีย์ และในช่วงหลังมานี้ก็เริ่มมีการใช้บัตร e-ticket โดยรับบัตรทางแอพพลิเคชั่นแล้วด้วยค่ะ - กรอกข้อมูลส่วนตัว เช่น ชื่อ-นามสกุล, ที่อยู่, เบอร์โทรศัพท์, อีเมล ซึ่งบางครั้งหากสมัครสมาชิกเว็บไซต์ไปแล้วจะไม่จำเป็นต้องกรอก นอกจากนี้ รายละเอียดที่ต้องกรอกก็อาจจะต่างกันไปตามเว็บไซต์
เมื่อทำครบทุกขั้นตอนแล้วก็ถือเป็นอันเสร็จ จากนี้ หากเป็นการจองแบบสุ่ม คุณก็จะได้รับอีเมลจากทางเว็บไซต์เพื่อบอกผลว่าคุณโชคดีได้รับสิทธิ์ในการซื้อบัตรหรือไม่ หากได้ก็ทำการจ่ายเงินภายในระยะเวลาที่กำหนดให้เรียบร้อย แต่หากเป็นการจองตั๋วแบบมาก่อนได้ก่อน เมื่อคุณจองเสร็จแล้วจะสามารถจ่ายเงินได้ทันทีโดยไม่ต้องรอผลค่ะ
ส่งท้าย
เป็นอย่างไรกันบ้างคะ? เราหวังว่าบทความนี้จะเป็นประโยชน์สำหรับคนที่อยากไปดูคอนเสิร์ตของศิลปินที่ชื่นชอบสักครั้งแต่ไม่แน่ใจว่าควรทำอย่างไร แล้วก็หวังว่าทุกคนจะได้พบกับศิลปินที่รักและสนุกไปกับช่วงเวลาแห่งความฝันในงานคอนเสิร์ตกันนะคะ
หากมีคำถาม คำแนะนำ หรือข้อเสนอแนะใดๆ เกี่ยวกับบทความของเรา สามารถติดต่อและติดตามเราผ่านทางเฟซบุ๊กได้เลย !
เนื้อหาในบทความนี้ อัพเดทล่าสุด ณ วันที่เผยแพร่
