1.สถานภาพการพำนักที่จำเป็นสำหรับการทำงานโรงแรม
หากอยากเป็นพนักงานประจำของโรงแรมจะต้องมีสถานภาพการพำนักแบบไหน? มาดูงานที่คุณสามารถทำได้โดยไม่ขัดต่อสถานภาพการพำนักของคุณกันเลย
〇 วีซ่าทำงาน “วิศวกรรม มนุษยศาสตร์ งานระหว่างประเทศ” (技術・人文知識・国際業務)
กลุ่มชาวต่างชาติที่ทำงานในโรงแรมส่วนใหญ่จะถือสถานภาพการพำนักนี้ โดยวีซ่านี้จำเป็นจะต้องมีวุฒิการศึกษาและประสบการณ์การทำงานจึงไม่สามารถใช้กับแรงงานทั่วไปได้ เป็นวีซ่าที่ไม่มีการจำกัดระยะเวลาในการพำนัก และสามารถต่ออายุได้
ตัวอย่างงาน
・ พนักงานต้อนรับ
・ เจ้าหน้าที่ธุรการฝ่ายขาย, ฝ่ายบัญชี, ประชาสัมพันธ์ ฯลฯ
・ ผู้จัดการ, รองผู้จัดการ ฯลฯ
แม้แต่พนักงานต้อนรับก็จำเป็นจะต้องมีทักษะภาษาญี่ปุ่น ภาษาแม่ หรือภาษาอื่นๆ โดยเฉพาะสำหรับโรงแรมในเครือต่างประเทศที่มีลูกค้าต่างชาติจำนวนมากซึ่งคุณอาจจะต้องมีทักษะล่ามในระดับหนึ่งเลยทีเดียว เพราะในบางสถานการณ์ ภาษาญี่ปุ่นที่ใช้ในชีวิตประจำวันก็อาจไม่เพียงพอต่อการสื่อสาร และด้วยความที่เป็นวีซ่าทำงานที่อาจถูกว่าจ้างในตำแหน่งบัตเลอร์ (ผู้ดูแลส่วนตัว) การขอวีซ่าจึงไม่ง่ายนัก และหากคุณเป็นผู้จัดการโรงแรมแล้วล่ะก็ อาจจะมีบางครั้งที่คุณต้องใช้วีซ่าทำงานแบบ “ธุรกิจ / การจัดการ” ด้วย
〇 วีซ่าทำงาน “ทักษะเฉพาะทาง 1 (ธุรกิจที่พัก)” (特定技能1号 (宿泊業))
วีซ่าทำงานแบบใหม่ที่เริ่มใช้ในเดือนเมษายนปี 2019 หลังมีการแก้ไขกฎหมายควบคุมคนเข้าเมือง คุณสามารถขอได้ด้วยการเข้ารับ “การทดสอบทักษะธุรกิจที่พัก” (宿泊業技能測定試験) ซึ่งมีทั้งในญี่ปุ่นและต่างประเทศ วีซ่านี้จะทำให้คุณทำงานแบบแรงงานทั่วไปได้ ต่างจากวีซ่า “วิศวกรรม มนุษยศาสตร์ งานระหว่างประเทศ” ตามด้านล่างนี้
ตัวอย่างประเภทงาน
・ พนักงานต้อนรับ
・ พนักงานเสิร์ฟร้านอาหาร
・ งานปูเตียง / ทำความสะอาด
อย่างไรก็ตาม ผู้ที่อยู่ในสถานภาพการพำนักนี้จะถูกห้ามไม่ให้ทำงาน “เฉพาะทาง” เช่น หากเป็นพนักงานต้อนรับกับทำความสะอาด คุณก็จะสามารถทำงานด้วยวีซ่า “ทักษะเฉพาะทาง 1” ได้ แต่ในกรณีที่เป็นพนักงานทำความสะอาดอย่างเดียวก็อาจจำเป็นต้องได้รับการประเมินทักษะเฉพาะทางด้านการทำความสะอาดอาคาร (ไม่ใช่ธุรกิจที่พัก) และอีกสิ่งหนึ่งที่ลืมไม่ได้เลยก็คือ วีซ่านี้มีระยะเวลาในการพำนักไม่เกิน 5 ปี ซึ่งต่างจากวีซ่า “วิศวกรรม มนุษยศาสตร์ งานระหว่างประเทศ”
〇 วีซ่าพิเศษ “ทักษะชำนาญการ” (技能)
เป็นวีซ่าของผู้ที่มีทักษะชำนาญการพิเศษ ส่วนมากจะออกให้กับเชฟประกอบอาหารต่างประเทศ
ตัวอย่างประเภทงาน
・พนักงานประกอบอาหารในร้านอาหาร
การจะได้วีซ่านี้ต้องเป็นผู้มีประสบการณ์การทำงานในฐานะพนักงานประจำหรือลูกจ้างตามสัญญาในร้านอาหารต่างประเทศมานานกว่า 10 ปี แต่หากคุณมีเพียงประสบการณ์การทำงานที่เกี่ยวข้องกับร้านอาหารที่เสิร์ฟอาหารหลากหลายประเภทก็อาจทำให้ขอสถานภาพการพำนักได้ยากกว่า ดังนั้น ในระหว่างการสัมภาษณ์งาน ผู้สมัครจึงมักจะถามผู้ว่าจ้างอยู่บ่อยๆ ว่าตนจะได้รับสถานภาพการพำนักก่อนเริ่มงานไหม
2. เงินเดือนโดยเฉลี่ยของงานแต่ละประเภท
ต่อไป เราจะมาดูเงินเดือนเฉลี่ยของพนักงานโรงแรมที่แบ่งตามประเภทงานกัน
・ พนักงานต้อนรับ: ประมาณ 200,000 – 250,000 เยน
・ เจ้าหน้าที่สำนักงาน: ประมาณ 160,000 – 180,000 เยน
・ งานเกี่ยวกับการแต่งงาน (เช่น นำทางให้คู่บ่าวสาว ทำใบเสนอราคา จัดงานแต่งงาน ฯลฯ): ประมาณ 200,000 – 250,000 เยน
・ ผู้มีตำแหน่งสูง เช่น ผู้จัดการหรือรองผู้จัดการ: 200,000 – 400,000 เยน
・ พนักงานดูแลห้องพัก: 180,000 – 200,000 เยน
・ พนักงานเสิร์ฟ พนักงานต้อนรับในร้านอาหาร: 180,000 – 200,000 เยน
・ พ่อครัว แม่ครัว ผู้ช่วยในครัว: 180,000 – 200,000 เยน
ทั้งนี้ เงินเดือนอาจแตกต่างกันไปตามประเภทของงาน แต่โดยทั่วไปแล้วรายได้เฉลี่ยต่อปีในอุตสาหกรรมโรงแรมจะอยู่ที่ประมาณ 3 – 4 ล้านเยน
3.ทักษะและประสบการณ์ที่ต้องมี
〇 ทักษะที่ช่วยให้เพิ่มโอกาสในการจ้างงาน
ในอุตสาหกรรมการโรงแรมอาจมีงานบางส่วนที่ต้องการทักษะเฉพาะทางอย่างการทำอาหารหรือบัญชี แต่สำหรับงานที่ต้องมีปฏิสัมพันธ์กับลูกค้าโดยตรง เช่น พนักงานต้อนรับ ทักษะที่สำคัญมากจะมีอยู่ 3 อย่างดังต่อไปนี้:
① ทักษะภาษา
หากเป็นตำแหน่งที่ต้องจัดการกับอีเมลภาษาญี่ปุ่น เช่น การจองและสอบถามข้อมูล ตลอดจนการสนทนา ก็จำเป็นจะต้องมีทักษะภาษาญี่ปุ่นระดับ N2 เป็นอย่างต่ำ แต่ในบางกรณีก็สามารถใช้ระดับ N3 และ N4 ได้เช่นกันโดยขึ้นอยู่กับเนื้อหางาน ดังนั้นจึงควรตรวจสอบรายละเอียดการรับสมัครให้ดี
นอกจากนี้ คะแนน TOEIC ก็อาจถูกกำหนดให้เป็นหนึ่งในคุณสมบัติการสมัครงานด้วย โดยเฉพาะโรงแรมในเครือต่างประเทศ เนื่องจากโรงแรมที่เป็นที่นิยมหรือโรงแรมในเมืองนั้นจะมีลูกค้าชาวต่างชาติมากเป็นพิเศษ ทักษะภาษาอังกฤษจึงเป็นสิ่งที่คุณควรมีติดตัวไว้ และหากคุณมีภาษาแม่ที่ไม่ใช่ภาษาอังกฤษ ก็อย่าลืมบอกไปตอนสมัครงานด้วยล่ะ
② ทักษะในการสื่อสาร
เนื่องจากหน้าที่หลักของงานอุตสาหกรรมโรงแรม คือ การบริการลูกค้า คุณจึงควรมีรูปแบบการสื่อสารที่ทำให้ลูกค้ารู้สึกสะดวกใจที่จะพูดคุยด้วย เช่น มีใบหน้ายิ้มแย้ม วิธีพูดที่ร่าเริง หรือการตอบสนองที่จริงใจ
③ ทักษะในการสังเกต
โรงแรมมีแขกทุกเพศทุกวัยมาเข้าพัก คุณจึงควรมีความสามารถในการสังเกตลูกค้าและเข้าใจสิ่งที่พวกเขากำลังมองหาโดยไม่ต้องรอให้ถูกถาม เช่น คาดเดาว่าแขกมาเข้าพักเพื่อท่องเที่ยวหรือทำธุรกิจโดยพิจารณาจากเสื้อผ้าและพฤติกรรม หรือแนะนำสถานที่ท่องเที่ยวด้วยการสนทนาแบบเป็นกันเอง เป็นต้น
〇 ประสบการณ์ที่ช่วยให้คุณมีโอกาสได้รับการจ้างงานมากขึ้น
แน่นอนว่าโอกาสได้รับการจ้างงานจะสูงขึ้นหากคุณมีประสบการณ์ในการทำงานสายเดียวกันมาก่อน แต่หากคุณเปลี่ยนสายมาจากงานอื่นในแวดวงอุตสาหกรรมโรงแรม ก็มักต้องสัมภาษณ์เกี่ยวกับงานก่อนหน้าและผลงานที่ผ่านมาอย่างละเอียดด้วย ดังนั้น อย่าลืมเตรียมพรีเซนต์ผลงานของตัวเองเอาไว้ด้วย ถึงแม้ว่าคุณจะไม่มีประสบการณ์การทำงานที่โรงแรม แต่หากมีประสบการณ์ในอุตสาหกรรมที่พักอย่าง “เรียวกัง” หรืออุตสาหกรรมการบริการ เช่น ร้านอาหาร ก็สามารถใช้อ้างอิงได้เช่นกัน หากคุณเคยผ่านงานเหล่านี้มาก่อนก็อย่าลืมเขียนลงไปเพื่อแสดงถึงความกระตือรือร้นด้วย!
4. คนแบบไหนที่เหมาะกับงานในอุตสาหกรรมโรงแรม ?
อย่างที่ได้กล่าวไปแล้วว่างานในโรงแรมมักจะมองหาทักษะทางภาษาและทักษะการบริการเป็นส่วนใหญ่ โดยเฉพาะตำแหน่งพนักงานต้อนรับ ดังนั้นจึงไม่ค่อยมีข้อกำหนดอื่นมากนัก นับว่าเป็นอาชีพแนะนำสำหรับชาวต่างชาติที่กำลังอยู่ในช่วงหางานเลยทีเดียว
เนื่องจากพนักงานญี่ปุ่นอาจไม่ถนัดเรื่องการรับรองลูกค้าชาวต่างชาติเพราะมีความแตกต่างด้านวัฒนธรรมประเพณี หากมีพนักงานต่างชาติอยู่ด้วยก็จะช่วยให้สามารถเข้าใจความต้องการและความชอบของลูกค้าได้ง่ายขึ้น ยิ่งไปกว่านั้น ยังมีอีกหลายสถานการณ์ที่จำเป็นต้องมีพนักงานชาวต่างชาติที่สื่อสารภาษาอื่นๆ ได้เพื่อช่วยแก้ปัญหาหรือช่วยให้การเช็คอินราบรื่นยิ่งขึ้น
ผู้ที่เหมาะกับงานในอุตสาหกรรมโรงแรมนั้น นอกจากจะต้องเป็นคนที่สดใสร่าเริงและมีจิตใจดีแล้ว ยังต้องมีร่างกายที่แข็งแรงด้วยเช่นกัน เพราะคุณอาจจะต้องช่วยลูกค้าขนสัมภาระ และเดินนำพวกเขาไปตามที่ต่างๆ ในโรงแรม นอกจากนี้ การทำงานยังมีการแบ่งเวลาเป็นช่วงกลางวันและกลางคืนซึ่งอาจทำให้นาฬิกาชีวิตผิดแปลกไปจากเดิมด้วย ดังนั้น ผู้สมัครจึงจำเป็นต้องมีสุขภาพร่างกายที่แข็งแรงพอจะรับงานเหล่านี้ได้
สิ่งที่สำคัญอีกอย่างหนึ่ง คือ ความสามารถในการปรับตัวเข้ากับสถานการณ์ เพราะบางครั้งพนักงานหนึ่งคนก็อาจจะต้องจัดการงานหลายๆ อย่าง เช่น รับฟังความต้องการของลูกค้าระหว่างที่ยืนอยู่หน้าเคาน์เตอร์, ทำเรื่องยืนยันการจอง, จัดเตรียมรถแท็กซี่ ฯลฯ ด้วยความที่พวกเขาจะต้องคอยรับมือและแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าตลอดเวลา งานนี้จึงไม่เหมาะสำหรับผู้ที่ยึดติดหรือจดจ่อกับสิ่งใดสิ่งหนึ่งมากเกินไป
ส่งท้าย
อุตสาหกรรมโรงแรมมีข้อเสียอยู่ตรงที่เงินเดือนไม่ค่อยสูง และอาจไม่มั่นคงเท่าอาชีพอื่น เนื่องจากเป็นงานที่ได้รับผลกระทบจากความผันผวนของการท่องเที่ยวที่มักจะเปลี่ยนไปตามสถานการณ์ของบ้านเมืองและสังคม เช่น การแพร่ระบาดของไวรัส COVID-19 แต่อย่างไรตาม จำนวนนักท่องเที่ยวที่มาเยือนญี่ปุ่นนั้นเคยเพิ่มขึ้นทุกๆ ปี ก่อนจะมีการระบาดของไวรัสดังกล่าว ส่งผลให้ญี่ปุ่นมองเห็นความสำคัญของพนักงานชาวต่างชาติที่มีทักษะด้านภาษาและการสื่อสารต้อนรับขึ้นมา
ประโยชน์อีกอย่างหนึ่งที่พนักงานต่างชาติอย่างพวกเราจะได้รับก็คือ โอกาสในการเรียนรู้ทักษะภาษาเพิ่มเติม ซึ่งได้มาจากการฝึกโต้ตอบกับลูกค้าชาวญี่ปุ่นและชาวต่างชาติจำนวนมากที่ไม่ได้ใช้ภาษาแม่ของตัวเอง และยังจะได้ความภูมิใจทุกครั้งที่ได้รับคำ “ขอบคุณ” จากลูกค้าอีกด้วย
ในปัจจุบันได้มีการคาดการณ์ว่าหากสถานการณ์ดีขึ้นก็อาจจะมีจำนวนนักท่องเที่ยวเดินทางมายังญี่ปุ่นเพิ่มขึ้นในอนาคต ด้วยเหตุนี้ อาชีพที่เกี่ยวกับงานโรงแรมจึงถือเป็นทางเลือกที่ดีทีเดียว หากคุณอ่านบทความนี้แล้วคิดว่านี่คืองานที่เหมาะกับตัวคุณแล้วล่ะก็ ลองมองหางานในอุตสาหกรรมโรงแรมดูสิ!
「APARTMENT HOTEL MIMARU」กำลังรับสมัครพนักงานต้อนรับอยู่！
ขณะนี้โรงแรมสุดหรู “APARTMENT HOTEL MIMARU” ที่เน้นลูกค้าในกลุ่มครอบครัวและนักเดินทางจากต่างประเทศกำลังเปิดรับสมัครพนักงานต้อนรับอยู่ โรงแรมนี้ดำเนินงานภายใต้แนวคิด “การเข้าพักที่ราวกับอยู่อาศัย” ในปัจจุบันมีสาขาทั้งหมด 19 แห่ง ส่วนใหญ่ตั้งอยู่ในเขตมหานครอย่างโตเกียว โอซาก้า และเกียวโต
หากคุณสนใจที่จะใช้ประโยชน์จากทักษะภาษาและการบริการเพื่อสร้างความประทับใจให้กับลูกค้าต่างชาติแล้วล่ะก็ ลองเข้าไปดูรายละเอียดการสมัครได้ที่ลิงก์ด้านล่างนี้เลย!
คลิกที่นี่! เพื่อดูรายละเอียดงานที่ APARTMENT HOTEL MIMARU
หากมีคำถาม คำแนะนำ หรือข้อเสนอแนะใดๆ เกี่ยวกับบทความของเรา สามารถติดต่อและติดตามเราผ่านทางเฟซบุ๊กได้เลย !
เนื้อหาในบทความนี้ อัพเดทล่าสุด ณ วันที่เผยแพร่
