ธุรกิจเจ้าของคนเดียวคืออะไร?
ธุรกิจเจ้าของคนเดียวเป็นรูปแบบธุรกิจที่ง่ายที่สุด คุณจะเป็นเจ้าของและรับผิดชอบธุรกิจทั้งหมด ช่วยให้เริ่มวางรากฐานสู่ความสำเร็จได้ง่าย
ในภาษาญี่ปุ่นธุรกิจที่มีเจ้าของเพียงผู้เดียวเรียกว่า 個人事業 (โคจินจิเงียว) ซึ่งแปลว่า ‘ธุรกิจส่วนตัว’ ซึ่งแตกต่างจากบริษัท 会社 (ไคชะ) หรือนิติบุคคล 法人 (โฮจิน) ซึ่งทำหน้าที่เป็นตัวแทนแยกจากคนที่ทำงานอยู่เบื้องหลัง
ใครสามารถก่อตั้งธุรกิจเจ้าของคนเดียวในญี่ปุ่นได้บ้าง?
แม้ว่าจะมีไอเดียดีๆ อยู่ แต่ไม่ใช่ว่าใครจะสามารถจัดตั้งธุรกิจเจ้าของคนเดียวในญี่ปุ่นก็ได้ หากไม่มีสัญชาติญี่ปุ่น คุณจะต้องมีสิ่งต่อไปนี้
- สมรสกับคนสัญชาติญี่ปุ่น
- วีซ่าผู้พำนักระยะยาว
- วีซ่าถาวร
- คู่สมรสของผู้ที่มีวีซ่าถาวร
- วีซ่า working holiday (แบบไม่มีข้อจำกัด)
- วีซ่าผู้ติดตาม นักเรียน หรือกิจกรรมทางวัฒนธรรมที่ได้รับอนุญาตให้มีส่วนร่วมในกิจกรรมอื่น ๆ (จะต้องยื่นขออนุญาตแยกต่างหาก)
- วีซ่าวิศวกร/ผู้เชี่ยวชาญด้านมนุษยศาสตร์ (ต้องได้รับการสนับสนุนจากบริษัทญี่ปุ่นที่อนุมัติให้ทำงานเสริม)
- วีซ่าทักษะฝีมือแรงงาน (ต้องได้รับการสนับสนุนจากบริษัทญี่ปุ่นที่อนุมัติให้ทำงานเสริม)
หากมีข้อใดข้อหนึ่งข้างต้น คุณก็พร้อมที่จะเริ่มก่อตั้งธุรกิจได้เลย!
ข้อดีของธุรกิจเจ้าของคนเดียว
ธุรกิจเจ้าของคนเดียวเหมาะสำหรับผู้ที่มีความฝันว่าจะทำงานเพื่อตัวเอง เป็นเจ้านายของตัวเอง และสร้างธุรกิจจนประสบความสำเร็จซึ่งวันหนึ่งอาจเติบโตเป็นบริษัทหรือเครือบริษัท หลายคนอาจมองว่าฟรีแลนซ์ รับจ้างทั่วไปหรือผู้รับเหมาอาจเป็นหนทางที่ดีกว่า แต่หากคุณมีไอเดียดี มีแผนธุรกิจแข็งแกร่ง และมีทักษะทางการตลาด การเป็นเจ้าของธุรกิจแต่เพียงผู้เดียวเป็นวิธีที่ยอดเยี่ยมสำหรับการเริ่มต้นธุรกิจ!
เจ้าของธุรกิจทั่วไปส่วนใหญ่จะเริ่มต้นการเป็นเจ้าของธุรกิจแต่เพียงผู้เดียว เช่น เจ้าของร้านอาหารขนาดเล็ก ครู ผู้ส่งออก นักแปล นักเขียน นักออกแบบ และที่ปรึกษา
ข้อดีอื่นๆ ของธุรกิจเจ้าของคนเดียวมีดังนี้
- เป็นเจ้าของและสามารถควบคุมดูแลธุรกิจของคุณได้อย่างสมบูรณ์
- มีศักยภาพในการขยายแบรนด์
- สามารถควบคุมรายได้และชั่วโมงทำงานของคุณ
- ความสามารถในการลดหย่อนและเรียกร้องความชดเชย (รวมถึงค่าเช่าสำหรับผู้ที่ทำงานที่บ้าน)
- ความสามารถในการจ้างคน
- การสนับสนุนวีซ่าด้วยตนเอง
- การคำนวณภาษีที่ง่ายกว่า (มากกว่าบริษัทหรือองค์กร)
แต่แน่นอนว่าไม่ใช่ทุกสิ่งที่เกี่ยวกับธุรกิจเจ้าของคนเดียวจะเป็นประโยชน์เสมอไป โดยข้อเสียส่วนใหญ่เหล่านี้มักจะเหมือนกันไม่ว่าคุณจะเริ่มต้นธุรกิจของตัวเองหรือเป็นคนทำงานอิสระ เช่น
- รายได้ไม่คงที่
- ไม่มีประกันสุขภาพหรือเงินบำนาญของบริษัท
- ต้องยื่นภาษีและติดตามการเงินด้วยตัวเอง
- ความรับผิดทั้งหมด – เจ้าของเป็นผู้รับผิดชอบทุกอย่างรวมถึงการล้มละลาย
- ไม่มีเจ้าของร่วมหรือหุ้นส่วนร่วม
ทำไมถึงไม่เริ่มต้นตั้งบริษัทไปเลย?
มีข้อดีมากมายในการเริ่มต้นสร้างบริษัทนิติบุคคล (法人) เช่นความสามารถในการสร้างพันธมิตร สร้างผลกำไรมากขึ้นโดยไม่ต้องเสียภาษีมาก และรับเงินลงทุนหรือเงินสนับสนุน อย่างไรก็ตาม สำหรับผู้ที่เริ่มต้นธุรกิจเพียงลำพังด้วยไอเดียเล็กๆ การเริ่มต้นธุรกิจเจ้าของคนเดียวจะมีความเครียดและความกดดันที่น้อยกว่ามาก เพราะบริษัทต่างๆ ต้องเจอกับข้อกำหนดมากมาย เช่น ต้องมีนักบัญชี มีเอกสารที่ซับซ้อนจำนวนมาก ต้องจัดการกับเงินบำนาญและประกันสุขภาพแห่งชาติ มีค่าใช้จ่ายในการเริ่มต้นที่สูง รวมทั้งปัญหาอื่นๆ อีกมากมาย
คนส่วนมากที่เริ่มต้นบริษัทและประสบความสำเร็จในต่างประเทศมักจะมีความสัมพันธ์วงในหรือมีหุ้นส่วนที่ช่วยงานบางอย่าง หากคุณมีความทะเยอทะยาน ความรู้ทางธุรกิจ ภาษาญี่ปุ่นที่มั่นคง เงินทุนสูง หรือพันธมิตรที่เชื่อถือได้ ก็สามารถเริ่มต้นจากการก่อตั้งบริษัทได้เลย!
แต่หากยังไม่มีสิ่งเหล่านั้น คุณอาจจะต้องเก็บแนวคิดในการเริ่มต้นบริษัทเป็นเป้าหมายในอนาคตหลังจากที่คุณได้ก่อตั้งธุรกิจเจ้าของคนเดียวอย่างมั่นคงแล้ว เพราะเมื่อรายได้จากธุรกิจเจ้าของคนเดียวเกินประมาณ 7 ล้านเยนต่อปี คุณจะต้องพิจารณาการก่อตั้งบริษัทเพื่อรับสิทธิประโยชน์ทางภาษี
ข้อกำหนดสำหรับการก่อตั้งธุรกิจเจ้าของคนเดียว
นอกจากประเภทของวีซ่าแล้ว ประเทศญี่ปุ่นไม่ค่อยมีข้อกำหนดเพิ่มเติมมากนักในการเป็นเจ้าของธุรกิจแต่เพียงผู้เดียว แต่ก็มีข้อกำหนดทั่วไปอย่างเช่น
- จะต้องมีชื่อธุรกิจซึ่งอาจเป็นชื่อของคุณเองหรือชื่อที่ตั้งขึ้นแทนก็ได้
- ต้องมีที่อยู่ของธุรกิจในญี่ปุ่นซึ่งอาจจะเป็นที่พักอาศัยของคุณ
- บัญชีธนาคารและหมายเลขโทรศัพท์ (หรือโทรศัพท์มือถือ)
ขั้นต่อไป จะต้องยื่นใบสมัครกับองค์การการค้า (Trade Register) ของญี่ปุ่น ซึ่งสามารถกรอกทางออนไลน์หรือส่งทางไปรษณีย์ก็ได้ (สามารถดูคำแนะนำโดยละเอียดได้ด้านล่าง) คุณอาจจำเป็นต้องใช้เอกสารอีกหลายฉบับ เช่น ใบอนุญาตจากกระทรวงศึกษาธิการในการเปิดโรงเรียนสอนภาษา ทั้งนี้ต่างขึ้นอยู่กับเนื้อหาของธุรกิจซึ่งจะไม่กล่าวถึงในบทความนี้
วิธีการเริ่มต้นธุรกิจเจ้าของคนเดียวในญี่ปุ่น
เมื่อตัดสินใจเกี่ยวกับชื่อและที่อยู่ของธุรกิจได้แล้ว ให้ไปที่เว็บไซต์ของสำนักงานภาษีแห่งชาติเพื่อดาวน์โหลดแบบฟอร์มใบสมัครธุรกิจเจ้าของคนเดียว (個人事業の開業届出 kojin jigyo no kaigyo todokede)
แม้ว่าเนื้อหาของแบบฟอร์มนี้จะค่อนข้างง่าย แต่ก็เป็นภาษาญี่ปุ่นทั้งหมด ดังนั้นหากไม่มั่นใจ โปรดอ่านคำแนะนำทีละขั้นตอนที่นี่ได้เลย! โปรดเตรียมรายละเอียดให้พร้อมเพื่อจะได้กรอกไปพร้อมกัน
เนื่องจากรัฐบาลญี่ปุ่นค่อนข้างยึดติดกับระบบเอกสารสมัยเก่า การกรอกแบบฟอร์มบนคอมพิวเตอร์ของคุณ แล้วค่อยพิมพ์ออกมา และส่งทางไปรษณีย์จึงเป็นวิธีที่ง่ายที่สุด
วิธีการกรอกแบบฟอร์มใบสมัครธุรกิจเจ้าของคนเดียว
- วงกลมหรือไฮไลต์คำว่า “開業” ซึ่งแปลว่าคุณอยากจะเริ่มต้นธุรกิจ (ซึ่งตรงข้ามกับ “廃業” ซึ่งแปลว่าคุณจะปิดธุรกิจ)
- เขียนชื่อสำนักงานสรรพากรของคุณ ซึ่งสามารถค้นหาได้โดยกรอกที่อยู่ธุรกิจในเว็บไซต์นี้ จากนั้นให้ใส่วันที่ที่จะส่งแบบฟอร์มนี้ไว้ที่ด้านล่าง
- กรอกที่อยู่ธุรกิจและหมายเลขโทรศัพท์ หากเป็นที่อยู่บ้านของคุณ ให้เลือกคำว่า “住所地” หากเป็นสำนักงานหรือร้านค้า ให้เลือกคำว่า “事務所等” หากไม่ได้อาศัยอยู่ในญี่ปุ่นในขณะนี้ แต่จะก่อตั้งธุรกิจในญี่ปุ่น ให้เลือกคำว่า “居所地”
- สำหรับช่องที่ 4 จะกรอกเฉพาะในกรณีต่อไปนี้: 1.หากใช้บ้านเป็นที่อยู่ธุรกิจเพื่อประโยชน์ทางด้านภาษี แต่ดำเนินธุรกิจจริงๆ ที่อื่น ให้กรอกที่ดำเนินธุรกิจนี้ลงในช่อง 4 และที่อยู่บ้านของคุณในช่อง 3 หรือ 2.หากที่อยู่ธุรกิจเป็นสำนักงานที่ไม่ใช่บ้านของคุณเพื่อประโยชน์ทางด้านภาษี ให้เขียนที่อยู่ของสำนักงานนี้ในช่อง 3 และที่อยู่บ้านของคุณในช่อง 4
- กรอกรายละเอียดส่วนบุคคลของคุณในช่องนี้ เช่นชื่อ วันเกิด “หมายเลขส่วนบุคคลของคุณ” (My Card Number, 個人番号) อาชีพ และชื่อทางการค้าของธุรกิจเจ้าของคนเดียวของคุณ สามารถใส่ 会社員 หรืออะไรทำนองนั้นเป็นอาชีพของคุณก็ได้ หลังจากพิมพ์แบบฟอร์มแล้ว ถ้ามีตราประทับส่วนตัว (hanko) ให้ประทับตราไว้ที่นี่ด้วย
- เลือกคำว่า “開業” แล้วป้อนชื่อและที่อยู่ของคุณอีกครั้ง สามารถข้ามส่วนที่เหลือได้เลย
- กรอกวันเริ่มต้นธุรกิจของคุณ สามารถกรอกเป็นวันที่ที่กรอกแบบฟอร์มหรือวันที่ที่เริ่มทำงานจริงก็ได้ แต่อย่าใช้วันที่ในอดีตเกินหนึ่งเดือน จากนั้นสามารถข้ามสองส่วนถัดไปได้ เนื่องจากเป็นส่วนสำหรับผู้ที่จะขยาย ย้าย หรือปิดธุรกิจเท่านั้น
- ในช่องนี้คุณสามารถเลือกได้ว่าจะส่งเอกสารเพิ่มเติมพร้อมกับใบสมัครหรือไม่ โดยทั่วไป จะต้องเลือก “有” เพื่อส่ง “青色申告” ซึ่งเป็นใบสมัครสำหรับโครงการ ”คืนภาษีสีฟ้า” (Blue Tax Return) ที่มีสิทธิประโยชน์มากมาย (ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ด้านล่าง)
- ให้กรอกภาพรวมโดยย่อของธุรกิจของคุณเป็นภาษาญี่ปุ่น ตัวอย่างเช่น หากจะเปิดธุรกิจการแปล ให้เขียนบางอย่างเช่น “和英翻訳” (แปลภาษาญี่ปุ่นและอังกฤษ) และเขียนรายละเอียดเพิ่มเติม
- ในช่องที่ 10 ให้กรอกจำนวนพนักงาน หากมีเพียงคุณ ให้เขียน 0 และข้ามส่วนที่เหลือของแบบฟอร์มได้เลย
อย่าลืมแนบสำเนาบัตรยืนยันตัวตนที่ถูกต้องด้วยล่ะ!
คุณจะต้องส่งสำเนาบัตรหมายเลขส่วนบุคคล (My Number Card) เพื่อให้เจ้าหน้าที่สามารถยืนยันตัวตนของคุณได้
หากไม่มีบัตรหมายเลขส่วนบุคคล ให้ส่งสำเนาใบแจ้งหมายเลขส่วนบุคคล (Tsuchi Card, 通知カード) หรือทะเบียนบ้าน (Juminhyo, 住民票) ที่มีหมายเลขส่วนบุคคลของคุณอยู่ (個人番号) (ไม่ใช่ทุกคนจะมีหมายเลขนี้ ดังนั้นคุณจะต้องตรวจสอบอีกครั้ง) พร้อมกับแนบสำเนาของข้อใดข้อหนึ่งต่อไปนี้:
- ใบขับขี่
- หนังสือเดินทาง (พาสปอร์ต)
- บัตรประจำตัวชาวต่างชาติ (Zairyu Card, 在留カード)
ข้อกำหนดด้านภาษีสำหรับธุรกิจเจ้าของคนเดียว
เนื่องจากธุรกิจของคุณไม่ใช่นิติบุคคลที่แยกจากคุณอย่างชัดเจน คุณจะต้องรับผิดชอบภาษีต่างๆ ของธุรกิจ เช่น ภาษีเงินได้ ภาษีเจ้าของธุรกิจ และภาษีที่อยู่ โดยปีภาษีเงินได้บุคคลธรรมดานั้นเริ่มตั้งแต่ 1 มกราคมถึง 31 ธันวาคมและจำเป็นต้องยื่นภาษีแสดงก่อนวันที่ 15 มีนาคมของปีถัดไป
เมื่อยื่นภาษีเงินได้ จะมีแบบฟอร์มสองประเภทให้เลือก: สีขาวและสีฟ้า หากคุณไม่สมัครโครงการคืนภาษีสีฟ้า คุณจะได้แบบฟอร์มสีขาวโดยอัตโนมัติ
แม้ว่าจะมีกระบวนการที่ซับซ้อนเล็กน้อย แต่โครงการคืนภาษีสีฟ้า (青色申告) มีประโยชน์หลายประการ โดยเฉพาะความสามารถในการลดหย่อนภาษีเงินได้ ซึ่งลดหย่อนได้มากสูงสุดถึง 650,000 เยน หากคุณเก็บบันทึกรายการซ้ำและแนบใบแจ้งยอดรายได้และยอดคงเหลือพร้อมกับการคืนภาษีครั้งต่อไป
ด้วยเหตุผลนี้ เราจึงแนะนำให้คุณสมัครโครงการขอคืนภาษีสีฟ้า ตอนที่ยื่นแบบฟอร์มใบสมัครธุรกิจเจ้าของคนเดียวพร้อมกันไปเลย
วิธีการสมัครโครงการขอคืนภาษีสีฟ้า
คุณสามารถดาวน์โหลดแบบฟอร์มใบสมัครโครงการขอคืนภาษีสีฟ้าได้ ที่นี่
ในสองช่องแรกนั้นแทบจะเหมือนกันกับแบบฟอร์มใบสมัครธุรกิจเจ้าของคนเดียวทุกประการ ซึ่งไม่น่ามีปัญหาในการกรอกข้อมูลเหล่านี้
ส่วนต่อไปนั้นมี 6 ขั้นตอน โดยก่อนเริ่มต้น ให้เขียนปีภาษีปัจจุบันที่ด้านบน (ตามปฏิทินจักรวรรดิญี่ปุ่น):
- ถ้าธุรกิจของคุณมีที่ตั้งหลายแห่ง เขียนที่ตั้งทั้งหมดไว้ที่นี่ แต่ถ้ามีเพียงที่ตั้งเดียว ก็สามารถเว้นว่างช่องนี้ไว้ได้
- เลือกคำว่า “事業所得” (รายได้จากธุรกิจ)
- หากเคยสมัครขอคืนภาษีสีฟ้ามาก่อน ให้เลือกคำว่า “有” แล้วเลือก “取消し” หากเคยถูกปฏิเสธ หรือเลือก “取りやめ” หากโดนยกเลิก และเขียนวันที่ที่เกิดขึ้น แต่หากนี่เป็นครั้งแรก ให้เลือกคำว่า “無”
- หากเริ่มธุรกิจหลังจากวันที่ 16 มกราคมของปีปัจจุบัน ให้เขียนวันที่ก่อตั้ง แต่หากคุณเริ่มธุรกิจก่อนหน้านี้ ให้เว้นว่างไว้
- หากได้รับธุรกิจเป็นมรดก ให้เขียนวันที่ที่ได้รับมรดก หรือเลือก “無” ถ้าไม่ใช่
- หากต้องการขอคืนภาษีจำนวน 650,000 เยน ให้เลือกคำว่า “複式簿記” (การทำบัญชีแบบละเอียด) แต่หากต้องการขอคืนภาษีแค่ 100,000 เยน ให้เลือกคำว่า “簡易簿記” (การทำบัญชีแบบย่อ)
- สำหรับการขอคืนภาษีจำนวน 650,000 เยน ให้เลือกคำว่า “現金出納帳・売掛帳・買掛帳・経費帳・固定資産台帳・預金出納帳・総勘定元帳 และ 仕訳帳” แต่สำหรับการขอคืนภาษีจำนวน 100,000 เยน ให้เลือกแค่คำว่า “現金出納帳”
ในการสมัครขอคืนภาษี 650,000 เยน คุณจะต้องเก็บบันทึกรายรับ รายจ่าย บัญชีลูกหนี้ บัญชีเจ้าหนี้ สินทรัพย์ถาวร เงินฝาก การชำระบัญชี และรูปแบบการทำบัญชีอื่นๆ อย่างละเอียด หากคุณยังไม่รู้ว่าสิ่งเหล่านี้คืออะไร คุณควรจะไปศึกษาข้อมูลอย่างละเอียดในเว็บไซต์ข้อมูลภาษี และหากคุณวางแผนที่จะขอคืนภาษีจำนวนมาก คุณควรจะไปปรึกษาเจ้าหน้าที่ภาษีก่อนยื่นแบบฟอร์มนี้
คุณจะต้องส่งแบบฟอร์มใบสมัครขอคืนภาษีสีฟ้าภายใน 2 เดือนหลังจากเริ่มต้นธุรกิจ ขอแนะนำให้ยื่นสมัครเริ่มต้นธุรกิจเจ้าของคนเดียวและโครงการขอคืนภาษีสีฟ้าทั้งสองอย่างพร้อมกันไปเลย
การส่งใบสมัคร
เมื่อคุณตรวจสอบเอกสารทุกอย่างเรียบร้อยแล้ว ให้ซื้อซองจดหมายแบบญี่ปุ่นและประทับตราไปรษณีย์ จากนั้นรวบรวมและใส่เอกสารต่อไปนี้ให้เรียบร้อย
- แบบฟอร์มใบสมัครธุรกิจเจ้าของคนเดียว (個人事業の開業・廃業等届出書)
- สำเนา (控用) แบบฟอร์มใบสมัครธุรกิจเจ้าของคนเดียว (สำเนาเพิ่มเติมนี้จะถูกกรอกโดยอัตโนมัติอยู่ในรูปแบบ PDF)
- สำเนาบัตรหมายเลขส่วนบุคคลหรือสำเนาบัตรประจำตัวอื่นๆ
- ซองจดหมายเพิ่มเติมพร้อมตราประทับและชื่อ/ที่อยู่ของคุณเพื่อให้สำนักงานสรรพากรส่งเอกสารกลับไปให้คุณ
จากนั้น ให้เขียนข้อความต่อไปนี้ในแนวตั้ง (Japanese tategaki vertical writing) ที่ด้านหน้าของซองหลัก:
- ที่อยู่ของสำนักงานสรรพากรของคุณ
- ชื่อของสำนักงานสรรพากรโดยมีรูปแบบดังนี้: (ชื่อสำนักงานสรรพากร) + 税務署 御中 (เช่น 渋谷税務署 御中)
- ชื่อของแบบฟอร์มด้วยปากกาแดงโดยมีรูปแบบดังนี้: 個人事業の開業届出 在中
เมื่อปิดผนึกซองจดหมายแล้ว ให้ใส่ลงในตู้ไปรษณีย์ เท่านี้ก็เรียบร้อย! หากไม่ต้องการส่งด้วยไปรษณีย์ คุณสามารถยื่นเอกสารได้โดยตรงที่สำนักงานสรรพากร โดยสามารถนำเอกสารและบัตรประจำตัวทั้งหมดมาในช่วงเวลาทำการ หรือจะการใส่ซองปิดผนึกในกล่องจดหมายของสำนักงานในเวลาใดก็ได้ทั้งกลางวันและกลางคืน
สรุปส่งท้าย
คุณสามารถใช้บทความนี้เป็นแนวทางในการเปิดธุรกิจในญี่ปุ่นของคุณเอง! แน่นอนว่าสำหรับคำแนะนำอย่างละเอียดในด้านการเงิน ภาษี และธุรกิจ คุณควรปรึกษาโดยตรงกับที่ปรึกษาที่มีความชำนาญเฉพาะด้านเสมอ สุดท้ายนี้เราขอให้คุณประสบความสำเร็จในการทำธุรกิจที่ประเทศญี่ปุ่น!
หากมีคำถาม คำแนะนำ หรือข้อเสนอแนะใดๆ เกี่ยวกับบทความของเรา สามารถติดต่อและติดตามเราผ่านทางเฟซบุ๊กได้เลย !
เนื้อหาในบทความนี้ อัพเดทล่าสุด ณ วันที่เผยแพร่