บทความนี้ tsunaguLocal จะพาไปเจาะลึกไก่ทอด 5 แบรนด์ดัง ทั้งรสชาติ ราคา จำนวนสาขา และจุดเด่นของแต่ละแบรนด์ ที่สำคัญคือทุกร้านมีบริการให้เทคเอาต์กลับไปทานที่บ้านได้อย่างปลอดภัยในสถานการณ์โควิด19 นี้ด้วย ลองแวะซื้อไก่ทอดเหลืองกรอบกลับไปทานพร้อมเบียร์เย็นๆ หลังวันทำงานที่เหน็ดเหนื่อย บอกได้คำเดียวว่าฟิน!
1. Karaage no Tensai ไก่ทอดจากอัจฉริยะคาราอาเกะ

ชื่อร้าน Karaage no Tensai (唐揚げの天才) แปลเป็นภาษาไทยได้ว่า “อัจฉริยะแห่งคาราอาเกะ” เพราะร้านไก่ทอดแบรนด์ดังร้านนี้มีจุดเริ่มต้นมาจากการที่คุณ Teruo Ito ได้ไปทานไก่คาราอาเกะในร้านเหล้าแห่งหนึ่ง แล้วพบว่าเป็นไก่ทอดที่หนังกรอบ เนื้อนุ่มชุ่มฉ่ำ แถมยังหอมซอสที่ใช้หมักมากๆ ราวกับว่าคนทำต้องเป็นอัจฉริยะของวงการคาราอาเกะ จึงเกิดความคิดว่าอยากให้ไก่ทอดคุณภาพดีๆ อย่างนี้เป็นที่รู้จักไปทั่วประเทศญี่ปุ่นขึ้นมา

สำหรับไก่ทอดของร้านนี้จะมีรสชาติหลักๆ อยู่ 3 รสชาติ แบ่งตามสีคือ
สีขาว – รสโชยุและน้ำซุปปลาแห้ง
สีดำ – รสโชยุดำสูตรลับเฉพาะ
สีแดง – รสคารามิโสะ หรือมิโสะรสเผ็ดที่เคลือบแป้งข้างนอกด้วยเกล็ดพริกแห้ง
ในบรรดาสามรสที่เราได้ลิ้มลอง สีแดงเป็นรสที่ถูกปากมากที่สุด เพราะรสชาติของคารามิโสะที่เค็มอมหวาน พร้อมมีรสเผ็ดร้อนแทรกเล็กๆ จากพริกแห้ง เข้ากันได้ดีกับเนื้อไก่ที่หมักมาจนหอมกรุ่น ส่วนสีดำที่หมักมาในโชยุดำแบบเฉพาะของทางร้าน ทำให้ได้รสชาติโชยุที่เข้มข้นอร่อยเช่นกัน ขณะที่ใครชอบกลิ่นโชยุอ่อนๆ บวกกับความกลมกล่อมจากน้ำซุปปลาแห้งน่าจะชอบสีขาวเป็นพิเศษ

นอกจากไก่ทอดที่ขึ้นชื่อแล้ว ด้วยความที่บ้านเกิดของคุณ Ito เป็นร้านขายไข่ทามาโกะยากิแบบเฉพาะทาง คุณ Ito จึงได้นำทามาโกะยากิสูตรลับเฉพาะมาเป็นหนึ่งในเมนูของร้าน Karaage no Tensai ใครจะไปคิดว่าไข่ม้วนสไตล์ญี่ปุ่นกับไก่คาราอาเกะมันจะเข้ากันได้ขนาดนี้!
สำหรับไก่คาราอาเกะของที่นี่ยังมีราคาย่อมเยามากๆ อยู่ที่ชิ้นละ 99 เยนเท่านั้น แต่ละชิ้นให้มาไซส์แบบเบิ้มๆ ไม่มีหวงเลย นอกจากนี้ทางร้านยังมีจำหน่ายแบบเป็นเซต เช่น เซ็ต 3 ชิ้น เซ็ต 4 ชิ้น เซ็ตทามาโกะยากิ
หรือจะสั่งเป็นเบ็นโตะที่มีข้าวมาให้ด้วยก็ได้เช่นกัน เช่น เซ็ตที่เป็นที่นิยมที่สุดคือเซ็ตที่ประกอบไปด้วยไก่ทอด 3 ชิ้น ทามาโกะยากิ 2 ชิ้น และข้าว สนนราคาเพียงแค่ 498 เยนเท่านั้น! ส่วนใครติดใจทามาโกะยากิสูตรลับของทางร้าน ก็มีจำหน่ายแยกในราคากล่องละ 650 เยนเช่นกัน
สาขาของ Karaage no Tensai มีอยู่เยอะมากๆ ทั้งในภูมิภาคคันโต และภูมิภาคคันไซ ซึ่งรวมถึงเมืองใหญ่ๆ อย่างโตเกียว เกียวโต และโอซาก้าด้วย โดยจะมีบางสาขาเท่านั้นที่มีที่นั่งในร้านให้สั่งกินได้ ส่วนบางสาขาจะเป็นแบบเทคเอาต์ให้คุณได้สั่งกลับไปทานที่บ้านอย่างปลอดภัย เรียกได้ว่าเป็นหนึ่งในร้านไก่ทอดเจ้าดังที่หิวไก่ทอดเมื่อไหร่ก็แวะไปฝากท้องได้ในราคาย่อมเยาจริงๆ
2. Karari Shoten ร้านไก่ทอดที่คนรักโชยุคาราอาเกะห้ามพลาด

สีสันของร้านที่สะดุดตา บวกกับแถวของลูกค้าที่มักต่อจนล้นออกมาจากตัวร้าน ทำให้ Karari Shoten (からり商店) มักตกเป็นที่สนใจของผู้คนที่เดินผ่านมาผ่านไปอยู่เสมอ
จุดเด่นของร้านไก่ทอดร้านนี้ที่ไม่พูดถึงไม่ได้เลยคือ ”ชิโมะอุสะโชยุ (下総醤油)” ซึ่งถือเป็นโชยุชั้นเลิศจากจังหวัดชิบะ มีกลิ่นหอมโดดเด่นเป็นเอกลักษณ์ ชิโมะอุสะโชยุนี้หากซื้อเป็นขวดแยกจะมีราคาสูงถึงขวดละหนึ่งถึงสองพันเยนเลยทีเดียว!

เมนูไก่ทอดของร้านนี้จะมีรสชาติหลักๆ ได้แก่รสเกลือซึ่งถือเป็นรสชาติมาตรฐาน และรสโชยุ ซึ่งทั้งสองรสจะใช้เนื้อไก่ส่วนสะโพกที่ถูกนำไปหมักในกระเทียมและซอสโชยุคุณภาพสูงตามแบบฉบับของทางร้าน ทำให้ไม่ว่าจะรสไหนก็ได้ไก่ทอดหอมกรุ่นรสชาติเข้มข้นทั้งนั้น โดยเน้นว่าหากเลือกรสโชยุจะได้รสและกลิ่นของโชยุที่เข้มข้นขึ้นจากรสชาติแป้งที่เคลือบอยู่นั่นเอง
อีกรสชาติหนึ่งที่แม้จะถูกวางขายมาทีหลังแต่ได้รับความนิยมไม่แพ้สองรสแรกคือรส “อามะดาเระ (甘だれ)” ซึ่งเป็นการนำคาราอาเกะรสเกลือมาชุบด้วยซอสเค็มตัดหวานชุ่มๆ ที่ยังคงความหอมของโชยุไว้ได้อย่างครบถ้วน แต่มีรสหวานเข้ามาเสริมให้กลมกล่อมยิ่งขึ้นไปอีก

หลังจากได้ลองชิม บอกได้เลยว่าความหอมของโชยุร้านนี้สมคำร่ำลือจริงๆ กลิ่นโชยุและกระเทียมที่หมักมา ช่วยส่งให้เนื้อสะโพกไก่ที่นุ่มชุ่มฉ่ำทวีความอร่อยขึ้นไปอีกหลายเท่า

โดยไก่คาราอาเกะของที่นี่จะขายตามน้ำหนัก ราคาสำหรับรสเกลือและรสโชยุเริ่มต้นอยู่ที่ 120 กรัม 270 เยน (เทียบเท่ากับคาราอาเกะชิ้นใหญ่ 2 ชิ้น) และ 290 เยนสำหรับรสอามะดาเระ
ส่วนใครอยากทานพร้อมข้าว บอกเลยว่าเบนโตะของที่นี่คุ้มสุดๆ เพราะเริ่มต้นที่เพียง 480 เยน ก็ได้ไก่ชิ้นโตสามชิ้นพร้อมข้าวมาในกล่อง ถ้าใครอยากทานไก่เพิ่มขึ้นก็สามารถเพิ่มเป็น 4 หรือ 5 ชิ้นได้โดยเพิ่มเพียงชิ้นละ 100 เยนเท่านั้น
นอกจากเมนูคาราอาเกะแล้ว ที่นี่ยังมีปีกไก่อามะดาเระทอด (5 ปีก 500 เยน) และเมนูชิกเก้นนัมบังสูตรไข่ข้น (เฉพาะไก่ 550 เยน, เบนโตะ 670 เยน) จำหน่ายอีกด้วย โดยราคาทั้งหมดอาจแตกต่างกันเล็กน้อยตามทำเลของสาขา แม้ว่าสาขาของเจ้านี้จะยังไม่เยอะมาก แต่หลังจากได้ลิ้มลองและจากปริมาณลูกค้าที่มาเข้าคิวแล้วเรามั่นใจมากว่า Karari Shoten จะได้ขยายสาขาออกไปอีกมากอย่างแน่นอน!
3. Karayoshi no Karaage ไก่ทอดรสดีที่มีสาขาทั่วญี่ปุ่น

ทุกคนรู้จักร้านอาหารสไตล์ครอบครัว Gusto กันไหมคะ? ร้าน Karayoshi no Karaage (から良しの唐揚げ) เป็นหนึ่งในร้านอาหารในเครือบริษัท Skylark ซึ่งเป็นเครือเดียวกับร้าน Gusto นั่นเอง นั่นทำให้ร้านไก่ทอดของเครือบริษัทยักษ์ใหญ่แห่งนี้มีสาขาทั่วประเทศญี่ปุ่นไปในพริบตา เพราะร้าน Gusto กว่า 300 สาขาทั่วประเทศได้กลายมาเป็นครัวที่เสิร์ฟไก่ทอดสดใหม่ของ Karayoshi ให้ไปในตัว
เรียกว่าอยู่ที่ไหนในญี่ปุ่นก็หาซื้อไก่ทอดของเจ้านี้ทานได้แน่นอน

จุดขายของคาราอาเกะที่นี่ คือเป็นไก่ทอดซอสโชยุที่ได้รับรางวัลเหรียญทองจากสมาคมคาราอาเกะแห่งประเทศญี่ปุ่นติดต่อกันถึงสามปีซ้อน! โดยทางร้านรับประกันว่าไก่คาราอาเกะของที่นี่ทุกชิ้นจะมีหนังกรอบและเนื้อนุ่มชุ่มฉ่ำไม่แพ้ใคร
รสชาติหลักๆ ของที่นี่ได้แก่ รสออริจินัล รสเกลือพริกไทย และรสซอสหวาน นอกจากนี้ยังมีรสชาติพิเศษที่จะสับเปลี่ยนหมุนเวียนไปตามช่วงเวลา เช่น รสซอสมิโสะ เป็นต้น ส่วนของไก่ที่ทางร้านเลือกใช้เป็นหลักคือส่วนสะโพก แต่ก็มีทั้งส่วนอก ปีก และเอ็นข้อไก่ทอดให้สั่งเป็นเมนูเสริมได้เช่นกัน
จากที่เราได้ลอง จุดเด่นของคาราอาเกะร้านนี้คือเนื้อที่ทอดมาได้ชุ่มฉ่ำมากๆ เรียกได้ว่าเนื้อข้างในสุกได้พอดิบพอดี นอกจากนี้รสชาติพิเศษอย่างรสซอสมิโสะที่เข้ากับซอสรสหวานและไก่เนื้อฉ่ำได้เป็นอย่างดี ช่วยทำให้คาราอาเกะของร้านนี้มีความโดดเด่นเป็นเอกลักษณ์ของตัวเองขึ้นมา

ร้าน Karayoshi มีให้บริการทั้งสำหรับลูกค้าที่มารับประทานในร้านและซื้อกลับ โดยหากรับประทานในร้าน ก็จะสามารถสั่งเป็นเซ็ต ที่จะเสิร์ฟมาพร้อมข้าวสวย ซุปมิโสะ และกระหล่ำปลีซอย หรือจะสั่งเป็น “ด้ง” หรือข้าวราดหน้าไก่ทอดหลากรสชาติที่ราคาย่อมเยากว่าก็ได้เช่นกัน ส่วนลูกค้าที่ซื้อกลับบ้าน ทางร้านจะแพ็กลงในกล่องเบนโตะให้พกกลับได้สะดวก แต่จะไม่มีซุปมิโสะแถมมาให้เหมือนทานในร้านนั่นเอง
4. Karayama ร้านไก่ทอดเมนูหลากหลาย อยากกินส่วนไหนต้องได้กิน!

ร้านไก่ทอด Karayama (からやま) เป็นหนึ่งใน “คาราอาเกะสามแบรนด์ใหญ่” ที่คนญี่ปุ่นบางคนขนานนามให้ ร่วมกับร้าน Karaage no Tensai และ Karayoshi ด้วยจำนวนสาขาที่มีมากกว่า 100 สาขา ทำให้ไก่ทอดของร้าน Karayama เข้าถึงได้ง่ายในทั่วทั้งประเทศญี่ปุ่น

สิ่งที่ทำให้ Karayama แตกต่างจากร้านไก่ทอดอื่นๆ คือการเลือกใช้ซอสหมักจากเบสโชยุเพียวๆ โดยไม่ใช้กระเทียมหรือขิงเป็นส่วนประกอบเลย ทำให้ได้ไก่ทอดที่ดึงรสชาติของวัตถุดิบคุณภาพดีออกมาได้อย่างไม่มีรสชาติอื่นเจือปน
นอกจากนี้ Karayama ยังมีส่วนของไก่ให้เลือกได้เยอะกว่าร้านอื่นๆ ทั้งส่วนสะโพกซึ่งเลือกได้ว่าอยากได้แบบหนังกรอบกรุบ หรือแบบเนื้อนุ่มชุ่มฉ่ำ ส่วนเนื้อสันใน ส่วนปีก และเอ็นข้อไก่ รวมทั้งยังมีเมนูยากิโทริ หรือไก่ย่างสไตล์ญี่ปุ่นก็มีให้เลือกเช่นกัน

สิ่งหนึ่งที่สังเกตได้คือส่วนสะโพกแบบหนังกรอบของ Karayama จะหั่นชิ้นเนื้อเป็นชิ้นที่ค่อนข้างแบน แต่กว้าง ทำให้ได้พื้นที่สัมผัสของหนังเยอะขึ้น เกิดเป็นชิ้นไก่ที่กรุบกรอบสะใจ ในขณะที่หากสั่งแบบเนื้อนุ่ม จะได้ชิ้นเนื้อที่หนากว่า ทำให้ส่วนเนื้อยังรักษาความชุ่มฉ่ำได้อย่างเต็มที่ ด้วยความที่มีหลากหลายส่วนให้เลือกสั่งได้ ทำให้สามารถสลับทานเพื่อเปลี่ยนเนื้อสัมผัสได้แบบไม่เบื่อเลย

สำหรับเมนูของร้าน Karayama จะมีทั้งสั่งแยกชิ้นตามน้ำหนัก ซึ่งราคาจะแตกต่างกันไปตามส่วนและขนาด เช่น ส่วนสะโพกและสันในราคา 240 เยน ต่อ 100 กรัม
นอกจากนี้ยังสามารถสั่งเป็นเซ็ตพร้อมข้าวและซุปมิโสะ หรือสั่งเป็นด้งแบบราดข้าวก็ได้เช่นกัน ถือเป็นอีกหนึ่งตัวเลือกร้านไก่ทอดที่น่าสนใจ และน่าจะหาทานได้สะดวกทั่วประเทศญี่ปุ่น
5. Crispy Chicken n’ Tomato ร้านไก่ทอดเกาหลีที่โด่งดังในญี่ปุ่น

ทั้งสี่ร้านที่แนะนำมาข้างบนนี้ ทั้งหมดเป็นไก่ทอดสไตล์ญี่ปุ่นหรือ “คาราอาเกะ” แต่ในญี่ปุ่นตอนนี้มีร้านไก่ทอดอีกร้านหนึ่งที่กำลังเป็นกระแสและเป็นที่นิยมมากๆ คือ Crispy Chicken n’ Tomato ร้านไก่ทอดสไตล์เกาหลีที่เข้ามาเปิดสาขาในญี่ปุ่นร้านนี้นี่เอง
ความน่าสนใจของ Crispy Chicken n’ Tomato คือเป็นร้านที่เน้นการเทคเอาต์กลับไปทานที่บ้านหรือจัดส่งแบบเดลิเวอรี ทำให้ Crispy Chicken n’ Tomato สามารถขยายสาขาได้โดยที่ไม่ต้องมีหน้าร้าน แต่ใช้โมเดลการ “ฝากครัว” กับร้านอาหารอื่นๆ ที่สามารถปรุงไก่ได้ตามมาตรฐานของ Crispy Chicken n’ Tomato
ทำให้หากคุณจะไปซื้อไก่ทอดของที่นี่ถึงที่ร้าน คุณอาจจะพบว่าสาขาของร้านนี้เป็นเฉพาะครัวปรุงอาหาร เป็นร้านชาบู หรือร้านพิซซ่าก็เป็นได้

ความดีงามของไก่ทอดที่นี่คือไก่ที่ทอดมาสีเหลืองทองเท่ากันทุกชิ้น และซอสที่มีให้เลือกมากมาย ตั้งแต่ซิกเนเจอร์ของทางร้านอย่างชีสแอนด์โทมาโทที่ได้รสเปรี้ยวหวานของซอสโทมาโทตัดกับความเค็มและมันของชีสได้เป็นอย่างดี
นอกจากนี้ยังมีซอสหม่าล่า ซอสยังนัมหรือซอสหวานแบบเกาหลี ซอสสไปซี่ฮ็อต ซอสฮันนี่บัตเตอร์ และซอสอื่นๆ อีกมากมายนับไม่ถ้วน เรียกว่าใครถนัดแบบไหนก็จัดได้ตามอัธยาศัย

เนื่องจากทางร้านเน้นบริการที่ให้ลูกค้าซื้อกลับไปทานที่บ้าน หรือสั่งแบบเดลิเวอรี ทางร้านจึงได้จัดแยกซอสและตัวไก่ทอดมาให้ เพื่อให้ไก่ทอดยังคงความกรอบอยู่ได้จนถึงบ้านคุณ คุณสามารถอุ่นซอสหรือชีสในไมโครเวฟตามคำแนะนำที่ทางร้านระบุมาแล้วราดลงบนไก่ทอดได้เลย

แม้ว่าไก่ทอดของ Crispy Chicken n’ Tomato จะมีราคาเริ่มต้นสูงกว่าร้านอื่นๆ ที่เราได้แนะนำมาอยู่สักหน่อย แต่ปริมาณที่ได้ก็เรียกว่าคุ้มค่า ยิ่งบวกความอร่อยจากซอสที่เราเลือกได้ตามชอบใจแล้ว ถือเป็นการให้รางวัลตัวเองจากการทำงานหนักเป็นครั้งคราวที่ดีมากๆ ส่วนใครที่อยู่คนเดียวหรือสองคน ก็ยังสามารถสั่งขนาดครึ่งหนึ่งได้ หมดปัญหาเรื่องจะกินไม่หมดแน่นอน (แม้ว่าปริมาณครึ่งหนึ่งก็ยังให้มาเยอะเกินไปสำหรับคนเดียวอยู่ดี >_<)
ไก่ทอดถือเป็นคอมฟอร์ตฟู้ดยอดนิยมที่ไม่ว่าชนชาติไหนก็หลงรัก นอกจากนี้ยังเป็นเมนูง่ายๆ ราคาไม่แพงที่สามารถซื้อกลับไปกินที่บ้านได้อย่างสบายใจ บทความนี้ได้พาทุกคนไปรู้จักกับไก่ทอดเจ้าดังในญี่ปุ่นทั้ง 5 แบรนด์กันแล้ว ใครลองไปทานที่ไหนมาอย่าลืมนำมาแบ่งปันที่เพจ tsunaguLocal ให้ฟังกันบ้างนะคะ!
หากมีคำถาม คำแนะนำ หรือข้อเสนอแนะใดๆ เกี่ยวกับบทความของเรา สามารถติดต่อและติดตามเราผ่านทางเฟซบุ๊กได้เลย !
เนื้อหาในบทความนี้ อัพเดทล่าสุด ณ วันที่เผยแพร่