หลังจากที่เรารีวิว วิธีการเดินทางกลับประเทศไทยในช่วงโควิด19 ไปแล้ว มาวันนี้ได้มีความจำเป็นต้องเดินทางกลับมาที่ญี่ปุ่นอีกครั้งหนึ่ง ซึ่งการเดินทางกลับเข้าประเทศญี่ปุ่นนั้นจะไม่ยุ่งยากเท่าเดินทางกลับเข้าประเทศไทย (สำหรับผู้ที่มีถิ่นฐานพักอาศัยอยู่ในญี่ปุ่น) เนื่องจากสามารถจองตั๋วเครื่องบินกลับมาที่ญี่ปุ่นเมื่อไหร่ก็ได้ตามที่เราต้องการ (ไม่ต้องติดต่อทางสถานทูต) มีสายการบินรองรับเกือบทุกวัน เช่น Japan Airlines, ANA และอื่นๆ ที่เปิดเที่ยวบินบินเข้าประเทศญี่ปุ่น
เมื่อได้วันเดินทางและจองตั๋วเครื่องบินเข้าประเทศญี่ปุ่นเรียบร้อยแล้ว สิ่งที่เราต้องทำคือดูแลสุขภาพให้ดี ห้ามป่วยโดยเด็ดขาด (ถ้าป่วยทางสายการบินจะไม่อนุญาติให้ขึ้นเครื่องบิน) ***สำคัญ เนื่องจากวันที่รีวิวในบทความนี้คือวันที่ 5 ธันวาคม 2020 ทางญี่ปุ่นยกเว้นใบผลการตรวจโควิด19 ก่อนเดินทาง 72 ชั่วโมงสำหรับประเทศไทย แต่เนื่องจากในปัจจุบันที่ประเทศไทยมีผู้ติดเชื้อเพิ่มมากขึ้น ก่อนวันเดินทางกรุณาตรวจสอบกับทางกรมตรวจคนเข้าเมืองญี่ปุ่นอีกครั้ง ว่าต้องการผลตรวจโควิด19 ก่อนเดินทาง 72 ชั่วโมง หรือไม่***
เมื่อเดินทางมาถึงที่สนามบิน เข้าทำการเช็คอินได้ตามปกติ และสายการบินจะแจ้งมาตรการต่างๆ ในการรับมือกับโควิด19 เช่น ผู้โดยสารต้องสวมใส่หน้ากากอนามัยตลอดเวลาขณะอยู่บนเครื่องบิน (ยกเว้นตอนรับประทานอาหาร และหากท่านใดไม่สามารถสวมใส่หน้ากากอนามัยได้ตลอดเวลา ต้องมีใบผลตรวจโควิดก่อนบิน 72 ชั่วโมงมายื่นให้กับทางสายการบิน) เป็นต้น และในส่วนของ Duty Free ของผู้โดยสารขาออกต่างประเทศ เนื่องจากมีผู้มาใช้บริการไม่มากนัก ร้านค้าส่วนมากจะไม่ได้เปิดให้บริการสักเท่าไหร่ ร้านขายของกินของใช้ยังพอเปิดให้บริการอยู่บ้าง
ได้เวลาบอกลาประเทศไทย แล้วพบกันใหม่โอกาสหน้า!!
เมื่อเดินทางมาถึงประเทศญี่ปุ่น ทันทีที่ลงจากเครื่องบินและเดินเข้าสู่อาคารผู้โดยสาร จะมีพนักงานมารับให้เดินไปที่ที่กรมตรวจคนเข้าเมืองจัดไว้ ซึ่งจะแยกเป็น 2 กลุ่ม คือ กลุ่มที่ต้องการเข้าประเทศญี่ปุ่น และกลุ่มที่ต้องการมาต่อเครื่องเพื่อเดินทางไปประเทศอื่น
เดินแถวเรียง 1 ไปยังส่วนอาคารผู้โดยสารเข้าประเทศญี่ปุ่น ซึ่งตลอดทางจะมีพนักงานคอยกำกับและคอยนับเช็คคนอยู่ตลอดเวลา และรักษาระยะห่าง
เมื่อเดินมาจนถึงที่ที่จัดเตรียมไว้จะมีเก้าอี้ให้นั่งแยกกันเป็นแต่ไฟล์บิน (คล้ายกับตอนที่เดินทางเข้าประเทศไทย) จากนั้นรอคิวเรียกเข้าไปสัมภาษณ์ด้านสุขภาพ และแผนการกักตัว เช่น กักตัวที่บ้าน หรือกักตัวที่โรงแรม (ระบุชื่อโรงแรม) เป็นต้น และสุดท้ายคือการเดินทางจากสนามบินกลับสถานที่พัก ซึ่งห้ามใช้บริการขนส่งสาธารณะ (รถไฟ รถบัส รวมถึงรถแท๊กซี่ด้วย) ต้องใช้บริการเช่ารถ, ให้เพื่อนมารับ หรือบริการขนส่งจากบริษัทที่รับส่งจากสนามบินโดนเฉพาะ เช่น เช่ารถลิมูซิน (มีคนขับให้) ซึ่งค่าบริการจะค่อนข้างสูง
เมื่อผ่านการสัมภาษณ์ทั้งหมดแล้ว เราจะได้รับใบผ่านการตรวจคนเข้าเมือง (ใบสีฟ้า) เท่านี้ก็สามารถเดินทางเข้าเมืองได้ตามปกติแล้ว จากนั้นก็เข้าสู่กระบวนการกักตัว 14 วัน เป็นการจบการรีวิว ขอบคุณทุกท่านที่อ่านจนจบและหวังว่าจะเป็นประโยชน์ไม่มากก็น้อย คราวหน้าจะนำรีวิวอะไรมาฝากอีกก็รอติดตามชมกันได้เลย
หากมีคำถาม คำแนะนำ หรือข้อเสนอแนะใดๆ เกี่ยวกับบทความของเรา สามารถติดต่อและติดตามเราผ่านทางเฟซบุ๊กได้เลย !
เนื้อหาในบทความนี้ อัพเดทล่าสุด ณ วันที่เผยแพร่