ในบทความวิธีการเลือกโรงเรียนสอนภาษาญี่ปุ่น เราได้แนะนำเคล็ดลับและวิธีเลือกโรงเรียนสอนภาษาญี่ปุ่นในประเทศญี่ปุ่นไป ครั้งนี้เราจะขอพาทุกคนไปชมตัวอย่างโรงเรียนสอนภาษาญี่ปุ่นน่าสนใจในโตเกียว สำหรับผู้ที่สนใจจะเรียนภาษา เพื่อให้ทุกคนได้เห็นว่าบริเวณรอบๆ โรงเรียนเหล่านี้มีสิ่งอำนวยความสะดวกอะไรบ้าง พร้อมบอกข้อมูลหลักสูตรและค่าเล่าเรียนอย่างคร่าวๆ ไว้เป็นตัวอย่างกันค่ะ
Table of Contents
1. TOYO Language School | สถานี Nishi-Kasai (西葛西)
สำหรับโรงเรียนแรก เราขอพาทุกคนไปรู้จักกับโรงเรียนสอนภาษาที่สถานี Nishi–Kasai ค่ะ อยู่ห่างจากใจกลางโตเกียวพอสมควรเลย
บรรยากาศโดยรอบ
เมื่อลงรถที่สถานี Nishi–Kasai ก็จะเจอนักเรียนที่เดินทางมาแถวนี้ด้วยเหมือนกัน สถานีมีคนเยอะแต่ไม่ถึงขั้นแออัด ถือว่าเป็นทำเลที่ดีเลยทีเดียว
เมื่อลงมาด้านล่างจะเจอร้านเบเกอรี่ชื่อ Mermaid Cafe อยู่ด้านล่างก่อนแตะบัตรออก ถึงจะไม่ใช่สถานีในเมืองใหญ่แต่ก็มีสิ่งอำนวยความสะดวกเยอะพอสมควร เมื่อแตะบัตรออกไปแล้วก็จะเจอร้านสะดวกซื้อ Lawson อยู่ในสถานีด้วย
ถึงตรงนี้ก็ขอให้เดินไปยังทางออก South Exit เลยค่ะ
ตอนเดินออกมาจากสถานี บอกตรงๆ ว่าผู้เขียนเองก็ทึ่งไม่น้อยเพราะมีร้านอาหารและร้านค้าต่างๆ เยอะเกินคาด การออกแบบผังเมืองตรงนี้ก็ดูโปร่งสบายตา มีคนเยอะแต่ไม่พลุกพล่าน รู้สึกปลอดภัยสบายใจได้พอสมควร
วันนี้เราจะพาทุกคนเดินไปค่ะ เมื่อลงมาจากทางออกก็ให้เดินตรงไปข้ามถนนเลย จากนั้นก็เลี้ยวซ้ายตรงหัวมุมที่เป็นร้านคาราโอเกะค่ะ
ร้านค้าเยอะมากระหว่างทาง มีทั้งร้านสะดวกซื้อ คาเฟ่ และยังมีร้านขายยา Matsumoto (มี Tax Free ด้วย) นอกจากนั้นยังมีร้านอาหารสำหรับครอบครัวอย่าง Saizeriya ด้วย ที่นักเรียนนักศึกษานิยมมานั่งติวหนังสือกับเพื่อนๆ กัน แล้วยังมีร้าน Kaldi Coffee Farm ร้านขายสินค้าเครื่องปรุงที่มีเครื่องปรุงอาหารไทยขายอยู่ด้วยนะ
เมื่อเดินสุดซอยแล้วเลี้ยวขวา จะพบ 4 แยกถนนใหญ่ที่มีร้านสะดวกซื้อขนาดใหญ่อีกถึง 2 แห่ง ร้านอาหาร และสวนสาธารณะที่มีครอบครัวและเด็กๆ มาวิ่งเล่น ถึงคนบางตาลงบ้างแล้ว แต่ก็ยังดีที่มีร้านสะดวกซื้อเปิด 24 ชั่วโมงอยู่ด้วย ทำให้สบายใจได้หากต้องเดินตอนช่วงเย็นๆ ค่ะ
ตรงนี้ให้ข้ามถนนไปทางร้าน Lawson แล้วเดินเข้าซอยไปค่ะ ถนนก็จะเงียบขึ้น ระหว่างทางก็พอจะมีร้านค้าและสวนสาธารณะอยู่บ้าง เดินมองได้เพลินๆ เลยค่ะ
เมื่อเดินตรงตามทางไปเรื่อยๆ สุดท้ายก็จะพบโรงเรียน TOYO Language School ค่ะ จะเห็นว่ามีป้ายรถบัสมาลงด้วย ใครขี้เกียจเดินก็สามารถนั่งบัสมาได้เช่นกัน
ทีนี้มาดูความสะดวกรอบโรงเรียนกันอีกสักหน่อยว่าสะดวกไหม แถวนี้ถือว่ามีคนไม่เยอะค่ะ รอบๆ ก็เป็นสวน ใครชอบธรรมชาติอาจจะถูกใจเลยค่ะ หากเดินเลยโรงเรียนไปจนสุดหัวมุมแล้วเลี้ยวซ้ายก็จะเจอร้านสะดวกซื้อของเซเว่นค่ะ ถือว่าสะดวกใช้ได้จริงๆ
ค่าเล่าเรียนและรูปแบบคอร์ส
จุดที่น่าสนใจของโรงเรียนนี้ คือ หลักสูตรการสอนที่ชัดเจน โดยมีแพลนอยู่ด้วยกันทั้งหมด 5 หลักสูตรด้วยกัน คือ
- หลักสูตรสำหรับเข้าโรงเรียนสอนวิชาชีพ (Professional Training College)
- หลักสูตรสำหรับเข้ามหาวิทยาลัย (University)
- หลักสูตรสำหรับเข้ามหาวิทยาลัยศิลปะ (Art University)
- หลักสูตรเตรียมตัวสำหรับการหางานในประเทศญี่ปุ่น
สิ่งที่ผู้เขียนได้ทราบจากข้อมูลในเอกสารและจากการคุยกับเจ้าหน้าที่ คือ หลักสูตรเหล่านี้ไม่ได้เน้นแต่การปรับพื้นฐานภาษาของผู้เรียนเท่านั้น แต่ยังมีการให้ข้อมูลนักเรียนและเตรียมความพร้อมสำหรับการสอบที่จำเป็นด้วย เช่น หลักสูตรโรงเรียนสอนวิชาชีพ ก็จะมีการแนะนำเรื่องการสอบ พาชมโรงเรียน ฝึกซ้อมการสัมภาษณ์ เตรียมใบสมัครและจดหมายที่ต้องใช้ด้วย
สำหรับหลักสูตรเข้ามหาวิทยาลัยก็จะมีการสอนทำข้อสอบข้อเขียนแบบ Academic ซึ่งจะใช้ในการสอบเข้า นอกจากนี้ ยังมีการช่วยนักเรียนหาหัวข้องานวิจัย สอนเขียน Research Plan และเตรียมใบสมัครด้วย ส่วนแพลนวิทยาลัยศิลปะก็จะมี Mock Exam ที่เป็นการเลียนแบบการสอบจริงให้นักเรียนได้ซ้อมก่อนไปสอบจริงกันด้วย ในขณะที่หลักสูตรหางานก็มีการแนะนำระบบหางานในญี่ปุ่นแบบลงลึกถึงรายละเอียด มีการสอนเขียน เรซูเม่ และ PR ตัวเอง พร้อมฝึกสัมภาษณ์และสอนวิธีพูด ไปจนถึงการปฏิบัติตัวที่ถูกต้องเลยค่ะ
ส่วนหนังสือเรียนของที่นี่จะเป็นหนังสือที่โรงเรียนทำขึ้นเองค่ะ
ชื่อ : | TOYO Language School |
เวลาทำการ : | 9:00 – 21:00 น. |
วันหยุด : | วันอาทิตย์ |
รอบการสมัคร : | ปีละ 4 รอบ (มกราคม – เมษายน – กรกฎาคม – ตุลาคม) |
ค่าใช้จ่ายเริ่มต้น : | 468,000 เยน (6 เดือน รวมค่าแรกเข้า) รอบต่อๆ ไป ราคา 368,000 เยน * แบ่งจ่ายทีละ 3 เดือนได้ |
ที่อยู่ : | 7-6-3 Nishikasai Edogawa-ku Tokyo 134-0088 Google Maps |
วิธีเดินทาง : | จากสถานี Nishi-Kasai เดินประมาณ 9 นาที |
เว็บไซต์ : | tls-japan.com/en |
2. Human Academy Japanese Language School | สถานี Takadanobaba (高田馬場)
ต่อไป เราจะหาทุกคนไปที่สถานี Takadanobaba กันบ้าง เป็นสถานีที่ถือว่าอยู่ใกล้ย่านใหญ่ๆ พอสมควร เพราะอยู่ห่างจากสถานีชินจูกุและอิเคะบุคุโระเพียง 2 สถานีเท่านั้น แถวนี้เป็นย่านนักเรียนนักศึกษา จึงมีโรงเรียนสอนพิเศษอยู่มากมาย
บรรยากาศโดยรอบ
เมื่อเดินผ่านประตูตรวจบัตรออกมา ก็จะพบกับร้านสะดวกซื้อ KIOSK และพอเดินออกจากตัวสถานีไป ก็จะเจอภาพเพนต์กำแพงขนาดใหญ่ที่ถือเป็นกิมมิคของสถานีนี้ค่ะ ตรงนี้ให้หันซ้ายแล้วเดินตรงไปเรื่อยๆ
ถ้าเดินถูกทางจะเจอร้านกาแฟแบบในภาพซ้ายค่ะ และเมื่อเดินพ้นใต้สะพานออกมาก็จะพบถนนสายเดียวที่เรียงรายไปด้วยร้านอาหาร และสถานที่สำหรับไปกินดื่มปาร์ตี้สังสรรค์กันอยู่มากมาย สมกับเป็นย่านเที่ยวหลังเลิกเรียนจริงๆ
นอกจากร้านอาหารแล้ว แถวนี้ยังมีร้านขายยาอย่าง Kusuri no Fukutaro ค่ะ และ Suruha รวมถึงธนาคาร SMBC ด้วย
และนี่ก็คือโฉมหน้าตึกของโรงเรียนสอนภาษา Human Academy ค่ะ ใครต้องการติดต่อเจ้าหน้าที่ก็ขึ้นลิฟท์ไปชั้น 5 ได้เลย
นอกจากนี้ ใกล้ๆ กับตึกเรียนก็ยังมีทั้งร้านขนม ร้านขายของมือสอง และร้านขายของแนวน่ารักๆ ให้ไปเดินดูเล่นๆ หลังเลิกเรียนด้วยค่ะ ถือว่าเป็นย่านที่มีคนพลุกพล่านพอสมควรทีเดียว
ค่าเล่าเรียนและรูปแบบคอร์ส
โรงเรียนนี้มีอยู่เพียง 3 สาขาทั่วญี่ปุ่น คือ ในโตเกียว,โอซาก้า, ซากะ จุดที่น่าสนใจของที่นี่ คือ มีคอร์สเรียนที่หลากหลายและพยายามซัพพอร์ตผู้เรียนอย่างเต็มที่
คอร์สระยะสั้น (สำหรับคนที่มีวีซ่าอยู่แล้ว)
มีทั้งแบบเรียนกลุ่ม, เรียนเป็นคลาส, เรียนเดี่ยว และคลาสเรียนออนไลน์ เช่น
- หลักสูตรเร่งรัดสำหรับการสอบ JLPT มีคลาสเรียนในวันเสาร์ เหมาะสำหรับคนทำงาน
- หลักสูตรภาษาญี่ปุ่นสำหรับการใช้งานทางธุรกิจ (Business Japanese Course)
- หลักสูตรเตรียมสอบ EJU ที่ต้องใช้ในการเข้ามหาวิทยาลัยญี่ปุ่น
- หลักสูตรสอนวาดการ์ตูนญี่ปุ่นด้วย (Illustration and Character Design Course)
คอร์สระยะยาว (สำหรับคนที่ต้องการให้โรงเรียนช่วยขอวีซ่า)
หลักสูตรเน้นการเตรียมตัวสำหรับเข้าเรียนในมหาวิทยาลัย โรงเรียนสอนวิชาเฉพาะทาง และเข้าทำงานในบริษัทญี่ปุ่นเป็นหลัก
หลักสูตรอื่นๆ
- หลักสูตรสอนภาษาและวัฒนธรรมญี่ปุ่น
- หลักสูตรเรียนภาษาผ่านการ์ตูนและภาพยนตร์
- ฯลฯ
ชื่อ : | Human Academy Japanese Language School |
เวลาทำการ : | 9:00 – 18:00 น. |
วันหยุด : | วันอาทิตย์ |
รอบการสมัคร : | ปีละ 4 รอบ (มกราคม – เมษายน – กรกฎาคม – ตุลาคม) * อาจต้องสมัคร 3 – 6 เดือนล่วงหน้า กรุณาตรวจสอบกับทางโรงเรียน |
ค่าใช้จ่ายเริ่มต้น : | คอร์สเรียนระยะสั้น x0,000 – 100,000 เยน (ขึ้นอยู่กับหลักสูตรและจำนวนชั่วโมง) คอร์สเรียนระยะยาว เริ่มต้นที่ 987,250 เยน (1 ปี 3 เดือน ไม่รวมค่าลงทะเบียน) * ยิ่งระยะเวลานาน ราคาจะยิ่งถูกลง |
ที่อยู่ : | Waseda Yobiko Bldg. 13ji Hall 5F, 4-9-9 Takadanobaba, Shinjuku-ku Tokyo Google Maps |
วิธีเดินทาง : | จากรถไฟ JR / Seibu Shinjuku-line / Tozai สถานี Takadanobaba เดินประมาณ 3 นาที |
เว็บไซต์ : | https://hajl.athuman.com/e/?code=130071 |
3. ABK College | สถานี Sengoku (千石)
มาต่อกันที่โรงเรียนสอนภาษาที่ค่อนข้างเป็นที่รู้จักในประเทศไทย ที่นี่มีคนไทยมากเป็นอันดับที่ 2 และมักจะมีบริษัทญี่ปุ่นติดต่อมาเมื่อต้องการหาคนไทยที่อยากทำงานในบริษัทญี่ปุ่นด้วย โรงเรียนนี้ตั้งอยู่ที่สถานี Sengoku ห่างจากตัวเมืองพอสมควรแต่ก็สามารถเดินทางไปได้อย่างสะดวกด้วยรถไฟใต้ดินสาย Mita Line
บรรยากาศโดยรอบ
เมื่อลงรถไฟแล้วให้ใช้ทางออก A1 ซึ่งจะอยู่ใกล้โรงเรียนมากที่สุด ระหว่างทางในตัวสถานีก็มีตู้ ATM ของเซเว่นให้ใช้ด้วย ใครลืมพกเงินสดมาก็ไม่ต้องกังวลเลยค่ะ
เมื่อเดินขึ้นมาก็จะถนนกว้างโล่งๆ แบบนี้เลยค่ะ อย่างที่บอกว่าย่านนี้อยู่ห่างจากตัวเมืองจึงดูเงียบสงบกว่าโรงเรียนก่อนหน้านี้พอสมควร
ตรงทางออกนี้ หากคุณเลี้ยวซ้ายก็จะเจอร้านแฟรนไชส์ข้าวกล่องราคาประหยัดชื่อ Kitchen Origin และร้านสะดวกซื้อ Family Mart และตู้ถ่ายรูปอัตโนมัติให้บริการ ถือว่ามีความสะดวกครบครันทีเดียว
แต่สำหรับโรงเรียนที่เราจะไป จะต้องเลี้ยวขวาแล้วเดินเข้าซอยไปค่ะ
ซอยของโรงเรียนก็ค่อนข้างสงบเช่นกัน มีสนามกีฬาอยู่ทางฝั่งซ้ายมือ และเมื่อเดินไปเรื่อยๆ ก็จะเจอร้านสะดวกซื้อเซเว่นอยู่ระหว่างทางค่ะ
เดินตรงมาเรื่อยๆ ไม่เกิน 5 นาทีก็จะเจอโรงเรียนตั้งอยู่ทางขวามือค่ะ
ค่าเล่าเรียนและรูปแบบคอร์ส
หลักสูตรของโรงเรียนนี้จะเน้นการพัฒนาและฝึกฝนภาษาญี่ปุ่นโดยเฉพาะ มีคอร์สเรียนอยู่ทั้งหมด 5 แบบซึ่งจะแตกต่างกันไปตามระยะเวลาเรียนและความสามารถทางภาษาของผู้เรียน เนื่องจากเป็นคอร์สเรียนระยะยาวทั้งหมด ทางโรงเรียนจึงสามารถช่วยเหลือนักเรียนในการขอวีซ่าได้
หลักสูตรสำหรับผู้ที่ไม่มีพื้นฐานภาษาญี่ปุ่น
- 1 ปี
- 1 ปี 6 เดือน
- 2 ปี
หลักสูตรสำหรับผู้ที่มีพื้นฐานภาษาญี่ปุ่น
- 1 ปี 3 เดือน
- 1 ปี 9 เดือน
- สามารถลงเรียนหลักสูตรสำหรับผู้ที่ไม่มีพื้นฐานได้ทุกคอร์ส
ทุกหลักสูตรจะมีการฝึกภาษาอย่างเข้มข้นทุกทักษะ ทั้งฟัง – พูด – อ่าน – เขียน เพื่อเตรียมความพร้อมนักเรียนที่สำหรับการสอบต่างๆ เช่น JLPT, EJU, BJT (สอบวัดระดับภาษาญี่ปุ่นที่ใช้เชิงธุรกิจ) และการสอบเข้ามหาวิทยาลัย มีสอนทั้งการเขียนเชิงวิชาการ, การประชุม, การนำเสนองานและการสัมภาษณ์เข้าสถาบันการศึกษาต่างๆ นอกจากนี้ ยังมีการแนะแนวทางเตรียมสอบเข้าสถาบันการศึกษาอย่างวิธีเขียนแผนงานวิจัย, การหาอาจารย์ที่ปรึกษา ฯลฯ อีกมากมายด้วย
โรงเรียนนี้มีการเรียนการสอนทุกวันตั้งแต่จันทร์ – ศุกร์ วันละ 4 คาบ คาบละ 45 นาที เริ่ม 9 โมงเช้าถึง 5 โมงเย็น และใช้หนังสือเรียนที่ทำขึ้นเองในการสอนซึ่งก็จัดว่าเป็นหนังสือที่ค่อนข้างดีทีเดียว อย่างเช่น TRY หนังสือเตรียมสอบภาษาญี่ปุ่นยอดนิยมที่ได้รับการแปลเป็นภาษาไทย ก็เป็นหนังสือของสถาบันแห่งนี้ค่ะ
ชื่อ : | ABK College |
เวลาทำการ : | วันจันทร์ – ศุกร์ 9:00 – 17:00 น. วันเสาร์ 9:00 – 14:00 น. |
รอบการสมัคร : | ปีละ 4 รอบ (เมษายน – กรกฎาคม – ตุลาคม – มกราคม) |
ค่าใช้จ่ายเริ่มต้น : | 720,000 เยน (1 ปี รวมค่าสอบเข้าและค่าแรกเข้า) * แบ่งจ่ายทีละครึ่งได้ในราคา 310,000 เยนต่อครั้ง |
วันหยุด : | วันอาทิตย์ |
ที่อยู่ : | Honkomagome 2-12-12, Bunkyo-ku, Tokyo, 113-0021 Google Maps |
วิธีเดินทาง : | จากรถไฟใต้ดินสาย Toei Mita Line สถานี Sengoku เดินประมาณ 3 นาที |
เว็บไซต์ : | https://www.abk.ac.jp/english/ |
4. Kudan Japanese Language School | สถานี Suidobashi (水道橋)
สำหรับโรงเรียนที่ 4 นี้ เราจะขอพาทุกคนเขยิบใกล้ตัวเมืองเข้าไปอีกสักหน่อย โรงเรียนนี้ตั้งอยู่ที่สถานี Suidobashi ซึ่งอยู่ไม่ไกลจาก “โตเกียวโดม” สถานที่จัดงานอีเวนต์ยอดนิยมแห่งหนึ่งเลย เมื่อลงจากรถไฟแล้ว ขอให้เดินไปฝั่งทางออก East Exit ค่ะ
บรรยากาศโดยรอบ
หลังออกจากช่องตรวจบัตรของสถานีมาแล้ว ก็จะเจอร้านสะดวกซื้อ Newdays เล็กๆ ตั้งอยู่ในบริเวณสถานี ใกล้ๆ กันมีตู้กดน้ำและตู้ขายร่มเผื่อกรณีฝนตกด้วย
บริเวณหน้าสถานีนี้อยู่ใต้สะพานค่ะ ดังนั้น เมื่อเดินออกไปก็ยังอยู่ในร่ม ย่านนี้มีบรรยากาศที่ค่อนข้างเงียบแต่ก็มีคนสัญจรไปมากันอยู่ตลอด โดยเฉพาะช่วงเย็นที่จะมีทั้งนักเรียนและเหล่ามนุษย์เงินเดือนมาขึ้นรถไฟกันมากพอสมควร
สำหรับโรงเรียนที่เราจะไป เมื่อเดินออกจากตัวสถานีมาแล้วให้เลี้ยวขวาแล้วข้ามถนนไปค่ะ
จากนั้นให้เดินตรงไปเรื่อยๆ ระหว่างทางจะเจอร้านสะดวกซื้อ Family Mart และเมื่อเดินต่อไปอีกเรื่อยๆ ก็จะเจอคาเฟ่ ร้านอาหารและร้านขายข้าวกล่อง รวมถึงร้านขายยาเล็กๆ ค่ะ
เมื่อมาถึงหัวมุมร้านขายยานี้ก็เลี้ยวขวาเดินเข้าซอยไปได้เลย
ในซอยนี้ถือว่าเงียบพอสมควรเลยค่ะ ไม่ค่อยมีผู้คนผ่านไปมา ระหว่างทางมีร้านขายแว่นและร้านขายข้าวดงบุริอยู่ตรงมุมด้วย ถึงตรงนี้ให้เลี้ยวซ้ายค่ะ
สำหรับซอยนี้จะมีจุดสังเกตเป็นร้าน Family Mart ขนาดใหญ่อยู่บนฝั่งตรงข้าม ซึ่งตึกเรียนของ Kudan Japanese Language School จะอยู่ทางซ้ายของร้านค่ะ
ที่หน้าตึกจะมีป้ายนี้อยู่ เข้าไปแล้วก็เลี้ยวซ้ายเดินเข้าโรงเรียนไปได้เลย เป็นห้องเล็กๆ ไม่ใหญ่มาก แต่ด้านในจะมีการแบ่งโซนห้องเรียนต่างๆ เอาไว้ค่ะ
ค่าเล่าเรียนและรูปแบบคอร์ส
โรงเรียนนี้มีคอร์สเรียนที่หลากหลายพอสมควรซึ่งทั้งหมดจะเน้นจุดประสงค์ในการใช้งานเป็นหลัก เช่น
หลักสูตรพื้นฐาน
- Conversation Course สำหรับฝึกการสนทนาและการเตรียมตัวเพื่อสัมภาษณ์สมัครงานต่างๆ ทั้งงานพิเศษและงานประจำ
- Intensive Course สำหรับผู้ที่ต้องการหางานทำในบริษัทญี่ปุ่น หรือ ผู้ที่แต่งงานกับคนญี่ปุ่นและคนที่จำเป็นจะต้องใช้ทักษะการเขียน – อ่านในเอกสารทางการ เอกสารทางการแพทย์ต่างๆ หรือติดต่อกับสถาบันและองค์กรต่างๆ
- Hiragana & Katakana Course และ Kanji Course สำหรับผู้ที่ต้องการเรียนรู้คำศัพท์และตัวอักษรญี่ปุ่นโดยเฉพาะ
หลักสูตรเพิ่มเติม (Special Course)
เป็นหลักสูตรที่น่าสนใจของโรงเรียนนี้เลยก็ว่าได้ โดยจะมีการแยกย่อยลงไปตามหัวข้อเฉพาะทาง เช่น
- คอร์สสอนวาดการ์ตูนญี่ปุ่น
- คอร์สพิธีชงชาญี่ปุ่น
- คอร์สเรียนทำอาหาร
- คอร์สภาษาญี่ปุ่น 160 ชั่วโมงสำหรับผู้เริ่มต้น (ออนไลน์)
นอกจากนี้ ยังมี Job Hunting Support & Business Japanese Course เป็นหลักสูตรออนไลน์ที่จะช่วยซัพพอร์ตการหางานในประเทศญี่ปุ่นอย่างเข้มข้น โดยจะเรียนทั้งหมด 3 เดือน สัปดาห์ละ 3 วัน (รวม 6 คาบ) ราคาคอร์สรวมตำราเรียนแล้วจะอยู่ที่ 94,000 เยน สอนทั้งการใช้ภาษาสุภาพ, มารยาทการปฏิบัติในวงการธุรกิจ, ประเภทวีซ่าสำหรับคนหางาน, การนำเสนอไอเดียและการติดต่อเจรจาต่างๆ รวมถึงให้การซัพพอร์ตในการเขียนเรซูเม่สมัครงานและเตรียมตัวสัมภาษณ์ด้วย ถือว่าน่าสนใจมากทีเดียว
ชื่อ : | Kudan Japanese Language School |
เวลาทำการ : | 9:00 – 18:00 น. |
วันหยุด : | วันเสาร์ – อาทิตย์, วันหยุดนักขัตฤกษ์ |
รอบการสมัคร : | หลักสูตรพื้นฐาน ปีละ 4 รอบ (เมษายน – กรกฎาคม – ตุลาคม – มกราคม) * ที่เหลือขึ้นอยู่กับหลักสูตร |
ค่าใช้จ่ายเริ่มต้น : | 94,000 เยน (คอร์ส) |
ที่อยู่ : | Teito Misakicho Building 2-7-10 Misakicho, Kanda, Chiyoda-ku, Tokyo, 101-0061 Google Maps |
วิธีเดินทาง : | จากรถไฟ JR Sobu Line สถานี Suidobashi เดินประมาณ 4 นาที จากรถไฟใต้ดินสถานี Jimbocho ทางออก A4 เดินประมาณ 8 นาที จากรถไฟใต้ดินสถานี Kudanshita ทางออก 5 เดินประมาณ 9 นาที จากรถไฟใต้ดินสาย Toei Mita Line สถานี Suidobashi ทางออก A2 เดินประมาณ 5 นาที |
เว็บไซต์ : | https://www.kudan-japanese-school.com/ |
5. Genki Japanese Language and Culture School | สถานี Shinjuku–sanchome (新宿三丁目)
สำหรับโรงเรียนสุดท้ายนี้ เราจะขอพาทุกคนไปที่ย่านชินจูกุค่ะ เป็นโรงเรียนเล็กๆ ที่อยู่ในย่านเมืองใหญ่ โรงเรียนนี้อยู่ใกล้กับศาลเจ้าฮานะโซโนะที่มีชื่อเสียง สามารถนั่งรถไฟใต้ดิน Tokyo Metro ไปลงที่สถานี Shinjuku–sanchome แล้วใช้ทางออก C7 หรือ E2 ก็ได้
บรรยากาศโดยรอบ
หากคุณใช้ทางออก C7 จะเดินนานกว่าเล็กน้อย แต่ก็มีสิ่งอำนวยความสะดวกมากมาย ทั้งตู้ ATM ในบริเวณสถานี และร้านรวงต่างๆ บนถนน เริ่มจากร้านสะดวกซื้อ Family Mart และเมื่อเดินตรงไปยังถนนใหญ่ก็จะได้เห็นร้านสะดวกซื้อ Starbucks รวมถึงร้านขายรองเท้า ABC–Mart อยู่บนฝั่งตรงข้ามด้วย ตรงนี้หากคุณไม่ได้ข้ามถนนไปก็สามารถเลี้ยวขวาเข้าซอย ก่อนจะข้ามทางม้าลายไปยังฝั่งตรงข้ามที่เป็นตึก Nomura ได้เลยค่ะ
เข้าซอยมาแล้วก็เดินตรงไปเรื่อยๆ ตรงนี้จะมีจุดสังเกตอยู่ที่ป้ายสีแดงของ Nomura ค่ะ เมื่อเห็นป้ายนี้ก็ให้เลี้ยวซ้ายเข้าซอยแล้วเดินตรงไปจนสุดทาง (ก่อนถึงบริเวณทางเดินของศาลเจ้า) ตึกของโรงเรียนจะอยู่ทางขวามือค่ะ
* ในกรณีที่คุณใช้ทางออก E2 จะมาออกแถวนี้พอดีค่ะ เมื่อออกมาแล้วให้เลี้ยวขวา เดินประมาณ 1 – 2 นาทีก็จะพบซอยนี้เลย อย่างไรก็ตาม ซอยนี้ค่อนข้างเงียบสนิทและมืด ดังนั้น หากใครไม่สะดวกใจกับบรรยากาศเช่นนี้ เราขอแนะนำให้หาเวลาเรียนเป็นช่วงเช้า – กลางวันค่ะ
และนี่ก็คือโฉมหน้าของตึกเรียนค่ะ มาถึงก็กดลิฟท์ขึ้นไปชั้น 3 ได้เลย
ค่าเล่าเรียนและรูปแบบคอร์ส
คอร์สเรียนของโรงเรียนนี้ถูกออกแบบมาสำหรับนักเรียนต่างชาติที่มีใจรักในวัฒนธรรมญี่ปุ่นโดยเฉพาะค่ะ เพราะจะมีการเรียนภาษาแบบเน้นเนื้อหาเกี่ยวกับวัฒนธรรมญี่ปุ่นทั้งแบบดั้งเดิมและ Pop Culture เป็นการเรียนภาษาผ่านประสบการณ์และกิจกรรมต่างๆ ที่ทางโรงเรียนจัด โดยจะเน้นการ Input (เช่น เรียนแกรมม่า) และ Output (ฝึกพูด – เขียน) เป็นหลักเพื่อให้เกิดการเรียนรู้ทางภาษาอย่างสมดุลและสามารถนำไปใช้ในชีวิตประจำวันได้ แต่จะไม่เน้นการติวสอบมากเท่าโรงเรียนที่เราแนะนำไปก่อนหน้านี้ค่ะ
คอร์สเรียนที่นี่แบ่งเป็น 3 ประเภท คือ
- Core Japanese Language Course เน้นการเรียนแกรมม่าและพัฒนาทักษะการฟัง – พูด – อ่าน – เขียน ราคา 33,000 เยนต่อสัปดาห์
- Modules & Add – Ons มีทั้งสอนแบบตัวต่อตัว และเลือกเรียนตามวัฒนธรรมที่สนใจ ราคาเริ่มต้น 10,000 เยนต่อสัปดาห์
- แพ็กเกจและคอร์สเรียนแบบระยะยาว สำหรับผู้ที่ต้องการฝึกภาษาอย่างจริงจัง หรือผู้ที่ต้องการทำงานพิเศษหรือหาประสบการณ์ระหว่างอยู่ที่ญี่ปุ่นด้วย (นานสุด 1 ปี 6 เดือน)
- คอร์สเรียนซัมเมอร์ สำหรับน้องๆ ที่สนใจมาเรียนในโรงเรียนสอนภาษาที่ญี่ปุ่น ราคาเริ่มต้นที่ประมาณ 590,000 เยน (6 เดือน)
นอกจากนี้ โรงเรียนนี้ยังมีนักเรียนต่างชาติจากโซนตะวันตกค่อนข้างมาก ดังนั้น หากคุณลงเรียนกลุ่มและเข้าร่วมกิจกรรมบ่อยๆ ก็มีโอกาสที่จะได้เพื่อนต่างชาติกลับไปด้วยเช่นกัน
ชื่อ : | Genki Japanese Language and Culture School |
เวลาทำการ : | 9:00 – 18:00 น. |
รอบการสมัคร : | ขึ้นอยู่กับหลักสูตร |
ค่าใช้จ่ายเริ่มต้น : | 10,000 ต่อสัปดาห์ (หลักสูตร Modules & Add Ons) * ราคาขึ้นอยู่กับหลักสูตรหรือจำนวนชั่วโมง |
วันหยุด : | วันเสาร์ – อาทิตย์ |
ที่อยู่ : | Hanazono Building 3F, 5-17-6 Shinjuku Shinjuku-ku, Tokyo 160-0022 Google Maps |
วิธีเดินทาง : | จากรถไฟใต้ดินสาย Marunouchi สถานี Shinjuku-sanchome เดินประมาณ 6 นาที จากสถานี Shinjuku เดิน 10 นาที |
เว็บไซต์ : | www.genkijacs.com |
ส่งท้าย
จบกันไปแล้วกับการพาชม 5 โรงเรียนสอนภาษาญี่ปุ่นที่น่าสนใจในโตเกียว ทุกคนคงเห็นแล้วว่าทั้งทำเลที่ตั้งและรูปแบบคอร์สเรียนมีผลต่อราคาค่าเรียนขนาดไหน หากเป็นโรงเรียนที่อยู่นอกตัวเมืองก็จะมีราคาถูกกว่า แต่ยังมีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครันและทุกคนสามารถมั่นใจได้ว่าจะไปเรียนกันได้อย่างสบายใจ เราขอแนะนำให้เลือกโรงเรียนที่มีหลักสูตรที่สามารถเตรียมความพร้อมให้คุณไปถึงเป้าหมายในอนาคตได้ดีที่สุด และมีความสุขกับการเก็บเกี่ยวประสบการณ์การใช้ชีวิตในญี่ปุ่นได้อย่างเต็มที่นะคะ
ส่วนใครที่อยู่นอกโตเกียวหรือรู้สึกว่าโรงเรียนทั้ง 5 แห่งนี้ยังไม่ตรงใจ ก็สามารถตามไปอ่านบทความ คู่มือเลือก “โรงเรียนสอนภาษาญี่ปุ่น” ในญี่ปุ่น เพื่อดูข้อควรรู้ สิ่งที่ต้องนำมาพิจารณาในการเลือกโรงเรียน และเคล็ดลับประหยัดเงินกันได้ค่ะ
แล้วพบกันใหม่ในบทความหน้านะคะ 🙂
หากมีคำถาม คำแนะนำ หรือข้อเสนอแนะใดๆ เกี่ยวกับบทความของเรา สามารถติดต่อและติดตามเราผ่านทางเฟซบุ๊กได้เลย !
เนื้อหาในบทความนี้ อัพเดทล่าสุด ณ วันที่เผยแพร่