ประหยัดอย่างชาญฉลาด : ซื้อของในญี่ปุ่นอย่างไรให้คุ้มสุดๆ !

คนที่มาถึงญี่ปุ่นใหม่ๆ มักจะมีค่าใช้จ่ายจำนวนมาก ทั้งสัญญาเช่าอพาร์ตเมนต์ ค่าซื้อเฟอร์นิเจอร์และของใช้จำเป็น รวมไปถึงค่าธรรมเนียมต่างๆ โดยเฉพาะคนที่กำลังหางานทำ หรือเป็นนักเรียนที่ไม่มีเวลาทำงานพิเศษก็จะยิ่งทำให้ไม่มีรายได้ที่แน่นอนด้วย ดังนั้น หลายๆ คนคงอยากมองหาวิธีการลดค่าใช้จ่ายอยู่ ในบทความนี้ เราจะพาคุณไปดูเคล็ดลับการซื้อของที่จะช่วยให้คุณประหยัดได้ ไปดูกันเลย!
Oyraa

เคล็ดลับการซื้ออาหาร

สิ่งแรกที่ขาดไม่ได้ในชีวิตประจำวันก็คือ อาหาร ซึ่งถือเป็นรายจ่ายประจำวัน ดังนั้น คนจำนวนมากจึงอยากจะลดค่าใช้จ่ายในส่วนนี้ เราไปดูวิธีซื้ออาหารให้คุ้มค่ากันเลย

1) ซื้อของลดราคาตอนซูเปอร์ฯ ใกล้ปิด

ซูเปอร์มาร์เก็ตส่วนใหญ่จะลดราคาของที่อยากขายให้หมดในวันนั้นประมาณ 30 – 50% ในช่วง 30 นาทีถึง 1 ชั่วโมงก่อนร้านปิด เช่น อาหารสดอย่างปลาหรือเนื้อ, คาราอาเกะ (ไก่ชิ้นชุบแป้งทอด), คร็อกเก้ (มันบดไส้เนื้อสับ) รวมถึงกับข้าว เช่น ของต้ม นอกจากนี้ ซูเปอร์ฯ ที่อยู่ชั้นใต้ดินของห้างสรรพสินค้าก็มักลดราคากับข้าวเช่นกัน หรือบางครั้งก็มีส่วนลด เช่น ซื้อ 3 ชิ้นในราคา 1,000 เยน เป็นต้น

นอกจากนี้ หลังเวลาร้านเปิดใหม่ๆ อาหารที่ใกล้หมดอายุก็จะถูกจัดเป็นของใกล้ทิ้งที่มีราคาต่ำลงเช่นกัน ดังนั้น หากคุณไปซื้อของช่วงหลังร้านเปิดใหม่ๆ หรือก่อนร้านจะปิด ก็จะสามารถซื้ออาหารได้ในราคาที่ถูกลง อย่างไรก็ตาม หากซื้อมามากเกินไปเพราะเห็นว่าราคาถูกก็อาจรับประทานไม่หมดและเหลือทิ้งได้ จึงควรระวังจุดนี้ไว้และซื้อในปริมาณที่จำเป็นเท่านั้น

บางครั้ง ร้านสะดวกซื้อก็ลดราคาโอนิกิริเหลือ 100 เยน หรือลดราคาเมนูเส้น 50 เยน บ้างก็มีโปรโมชั่นลดราคาในบางช่วงอีกด้วย นอกจากนี้ หากซื้อโอนิกิริพร้อมกับเครื่องดื่มก็จะมีราคาถูกลงเช่นกัน

2) ซื้อของไพรเวทแบรนด์

ไพรเวทแบรนด์ (Private Brand) เป็นสินค้าเฉพาะที่ร้านค้าปลีกซึ่งไม่ใช่ผู้ผลิตประจำ ผลิตและจำหน่ายในร้านของตนเอง ไพรเวตแบรนด์มักจะมีจำหน่ายในซูเปอร์ฯ หรือร้านสะดวกซื้อ ของเหล่านี้มีค่าโฆษณาและต้นทุนการผลิตต่ำ ดังนั้นจึงมีราคาต่ำกว่าของคุณภาพระดับเดียวกับผู้ผลิตรายใหญ่ผลิต หรือที่เรียกว่า National Brand นั่นเอง

ปัจจุบัน ผู้ผลิตรายใหญ่ในวงการอาหารก็เริ่มบุกตลาดไพรเวทแบรนด์อยู่ ดังนั้น คุณภาพของสินค้าไพรเวทแบรนด์กับแบรนด์ใหญ่ๆ จึงแทบไม่ต่างกัน หากคุณอยากประหยัด เราขอแนะนำให้เลือกซื้อไพรเวทแบรนด์

3) ซื้อของในซูเปอร์ฯ ที่คุณเป็นสมาชิก

คุณสามารถสมัครสมาชิกกับซูเปอร์ฯ บางแห่งได้ เมื่อสมัครสมาชิกและทำบัตรสมาชิกเรียบร้อยแล้วก็จะได้รับคะแนนตามราคาของที่ซื้อ หรือไม่ก็อาจได้รับส่วนลดในการซื้อสินค้าบางชนิด แถมคะแนนที่สะสมไว้ยังสามารถนำไปใช้เวลาซื้อของได้อีกด้วย ดังนั้น หากซูเปอร์ประจำของคุณมีระบบสมาชิก เราก็ขอแนะนำให้สมัครเอาไว้เลย

4) ซื้อของที่เกียวมุซูเปอร์ (業務用スーパー)

MASA/Wikimedia Commons

ขอแนะนำให้ซื้อเครื่องปรุงหรือของที่ใช้นานๆ จากเกียวมุซูเปอร์! เกียวมุซูเปอร์เป็นซูเปอร์ที่จำหน่ายวัตถุดิบสำหรับผู้ที่ประกอบธุรกิจอาหาร ร้านอาหาร และร้านขนาดเล็กอื่นๆ อาหารแต่ละชนิดจะจำหน่ายในปริมาณมาก ซึ่งเมื่อเทียบกับวัตถุดิบที่ใช้ในบ้านทั่วไปแล้วจะถือว่ามีราคาต่อหน่วยที่ถูกกว่า

ในบางครั้ง เครื่องปรุงที่ไม่ค่อยได้ใช้ก็อาจหมดอายุก่อนจะรับประทานหมด แต่หากเป็นของที่ใช้เป็นประจำทุกวันจะถือว่าคุ้มค่ามากๆ นอกจากนี้ ยังสามารถแบ่งใส่ขวดเล็กๆ แล้วเติมเรื่อยๆ ได้ ส่วนขวดใหญ่ก็ปิดและเก็บเอาไว้ ทำให้ครัวของคุณดูดีขึ้นอีกด้วย

สุดท้ายนี้ เกียวมุซูเปอร์ยังจำหน่ายเนื้อหรือผักที่พร้อมปรุงและอาหารที่ปรุงสำเร็จด้วยเช่นกัน หากคุณไม่ค่อยมีเวลาทำอาหารก็สามารถซื้อของเหล่านี้มาเก็บเอาไว้ได้เลย

5) ใช้บริการร้านขายยา

Kirakirameister/WIkimedia Commons

ร้านขายยา นอกจากจะจำหน่ายของใช้ในชีวิตประจำวันแล้ว ก็ยังขายขนมหวานและขนมคบเคี้ยวต่างๆ ในราคาถูกด้วย นอกจากนี้ ของใช้ประจำวันอย่างน้ำยาล้างจาน แชมพู หรือครีมนวดผมแบบไซส์ใหญ่หรือแพ็คแบบเติมก็ยังมีจำหน่ายอยู่เช่นกัน หากคุณซื้อของเหล่านี้แบบถุงเติมก็จะสามารถลดขยะและรักษาสิ่งแวดล้อมไปในตัวด้วย

วิธีซื้อเสื้อผ้าให้ประหยัด

เมื่อมาถึงญี่ปุ่นใหม่ๆ หลายคนก็อาจจะมีของไม่มากนักทำให้ต้องซื้อสินค้าและเสื้อผ้าเพิ่มเติม แต่เสื้อผ้าในญี่ปุ่นนั้นมีราคาค่อนข้างสูง หากซื้อในราคาเต็มก็อาจจะเพิ่มค่าใช้จ่ายได้ ดังนั้น เราจึงรวบรวมวิธีการซื้อเสื้อผ้าในราคาประหยัดมาให้คุณลองนำไปใช้

1) ซื้อเสื้อผ้าช่วงลดราคา

เทศกาลลดราคาช่วงเปลี่ยนฤดูนั้น สินค้าอาจลดราคาสูงถึง 30 – 50% ของราคาเต็มได้ สินค้าบางอย่างก็อาจลดถึง 70% เลยทีเดียว ตามปกติแล้ว ฤดูกาลลดราคาของญี่ปุ่นจะมีปีละ 2 ครั้ง คือ ช่วงฤดูร้อนและฤดูหนาว ขอแนะนำให้รีบไปเพราะสินค้าที่ตามแฟชั่นของฤดูนั้นอยู่จะหมดเร็วมากๆ 

นอกจากนี้ สำหรับบางแบรนด์ หากคุณมีบัตรสมาชิกแล้ว อาจจะมีสิทธิ์ซื้อของลดราคาก่อนช่วงลดราคาจะเริ่มขึ้น หรืออาจจะมีช่วงลดราคาพิเศษสำหรับสมาชิกด้วย ดังนั้นหากแบรนด์ที่คุณสนใจมีบริการดังกล่าว ก็อย่ารอช้าไปสมัครบัตรสมาชิกไว้เลย

ห้างสรรพสินค้าบางแห่ง เช่น Lumine หรือ Marui ก็สามารถสมัครสมาชิกได้เช่นกัน ซึ่งบางครั้งจะมีเทศกาลลด 10% สำหรับสมาชิก เป็นต้น

2) เลือกสินค้าที่ซื้อหลายชิ้นแล้วได้ลดราคา

สินค้าบางชนิด เช่น ถุงเท้า, กางเกงใน, เสื้อเชิ้ต หากซื้อหลายๆ ชิ้น จะมีราคาถูกกว่าการซื้อแยกชิ้น ยิ่งหากเป็นถุงเท้าหรือกางเกงในที่เป็นสินค้าประเภทใช้แล้วเสื่อมเร็วนั้น เราก็ขอแนะนำให้ซื้อทีละหลายๆ ชิ้นเลยดีกว่า

3) ซื้อถุงโชคดีตอนต้นปี

Yoko Lost in Japan / Shutterstock.com

ร้านค้าหรือห้างสรรพสินค้าต่างๆ จะจัดจำหน่ายถุงโชคดีในช่วงต้นปี ภายในถุงจะมีสินค้าที่ราคาสูงกว่าราคาถุงอยู่ หากคุณโชคดีก็จะได้สินค้าที่ราคาแพงกว่าราคาถุงหลายๆ เท่าก็ได้!

ตามปกติ คุณจะไม่สามารถเช็กของในถุงได้ว่ามีอะไรบ้าง ดังนั้น บางครั้งก็อาจมีสินค้าที่คุณไม่ได้ใช้งาน หรือสินค้าที่ไซส์ไม่ตรงกับคุณรวมอยู่ด้วย บางครั้งถุงโชคดีที่ซื้อมาก็อาจจะกลายเป็นการเสียเงินเปล่า ไม่ได้โชคดีอย่างที่คิดก็ได้ ดังนั้นจึงต้องระวังในจุดนี้เอาไว้ด้วย

ในช่วงหลังมานี้ ถุงโชคดีก็มีหลายประเภทมากขึ้น หลายที่ก็ประกาศเอาไว้ว่าภายในถุงโชคดีจะมีสินค้าอะไรบ้าง บางที่ก็จัดถุงโชคดีแบบใสที่คุณสามารถเห็นได้ว่าภายในมีอะไรอยู่ หรือบางครั้งคุณก็อาจจะเลือกได้เลยว่าต้องการสินค้าอะไรข้างในถุง อย่างไรก็ตาม หากจะซื้อหลายๆ ถุง เพราะคิดว่าราคาถูก ก็อาจกลายเป็นการเพิ่มค่าใช้จ่ายโดยใช่เหตุได้ ดังนั้นจึงควรคิดให้ดีก่อนซื้อด้วย!

4) ซื้อของที่เอาท์เล็ต

ในแต่ละภูมิภาคจะมีเอาท์เล็ตขนาดใหญ่ที่รวมร้านค้าทั้งเล็กและใหญ่เอาไว้ สินค้าในร้านก็อาจจะเป็นสินค้าที่ไม่ผ่านมาตรฐานการขายปกติ หรือที่เรียกว่าสินค้าเกรด B บ้างก็เป็นสินค้าที่ขายในฤดูกาลก่อนหน้า ทำให้ราคาถูกลง เอาท์เล็ตที่ตั้งอยู่นอกเมืองจะมีร้านค้ามากมาย ทั้งกลุ่มแฟชั่นและสินค้าโรงงานต่างๆ ซึ่งราคาก็ถูกกว่าปกติ ดังนั้น เรามาซื้อของในเอาท์เล็ตอย่างชาญฉลาดกันดีกว่า

บทสรุป

อาหารจะมีราคาถูกลงตามช่วงเวลา และการใช้บริการลดราคาของซูเปอร์ฯ แต่ละแห่งก็จะช่วยให้คุณจับจ่ายใช้สอยอย่างชาญฉลาดได้ นอกจากนี้ คุณยังควรคิดถึงเมนูที่อยากทำไว้และเตรียมรายการของที่จำเป็นสำหรับการช็อปปิ้งแต่ละครั้งเพื่อลดค่าใช้จ่ายสุรุ่ยสุร่าย และในส่วนของเสื้อผ้า การซื้อเสื้อผ้าในช่วงลดราคาของแต่ละฤดูกาล ซื้อทีละหลายๆ ชิ้น หรือซื้อที่เอาท์เล็ตก็ล้วนแต่เป็นวิธีการที่ช่วยให้คุณประหยัดได้เช่นกัน

หากมีคำถาม คำแนะนำ หรือข้อเสนอแนะใดๆ เกี่ยวกับบทความของเรา สามารถติดต่อและติดตามเราผ่านทางเฟซบุ๊กได้เลย !

เนื้อหาในบทความนี้ อัพเดทล่าสุด ณ วันที่เผยแพร่

Oyraa
0 Shares: