* หมายเหตุ : บทความนี้เป็นภาคต่อของบทความ รีวิวร้านอาหารไทยรอบโตเกียว และ พาชม 5 ร้านอาหารไทยในโตเกียว รับมือโควิด19 อย่างไร? ใช้พ้อยต์ Go To Eat ได้ด้วย!
1. Blue Papaya [Kyobashi 京橋]
มาเริ่มกันที่ร้านแรก Blue Papaya Thailand ร้านอาหารไทยชื่อดังที่มีสาขามากมาย วันนี้เราแวะมาที่สาขา Kyobashi Edogrand ที่อยู่ในตึกหรูสุดชิลล์อย่าง Edogrand และอยู่ใกล้สถานีรถไฟมากมายไม่ว่าจะเป็น Tokyo, Kyobashi, Takaracho
ภายในร้านกว้างขวางและบรรยากาศดีสุดๆ เหมาะกับการมานั่งชิลล์และกินดื่มสังสรรค์กับเพื่อนๆ (แต่ช่วงนี้อาจจะต้องงดการสังสรรค์ไว้ก่อนเนอะ) เมนูอาหารก็เยอะมากๆ อยากทานอะไรสั่งเชฟได้เลยค่ะ ที่นี่มีเมนูคอร์ส และบุฟเฟ่ต์อาหารไทยด้วยนะ!
สำหรับครั้งนี้เรามาในช่วงอาหารเย็น เลยจะขอลองสั่งอย่างจุใจกันหน่อยค่ะ
รับมือโควิด19 อย่างไรบ้าง?
หลังจากเข้าร้านมาก็รู้สึกได้เลยว่าร้านสะอาดมาก มีแอลกอฮอล์วางทุกโต๊ะ แถมยังระบายอากาศดีและวางโต๊ะห่างกันอีกด้วย สามารถเข้าไปรับประทานกันได้อย่างสบายใจเลยค่ะ นอกจากนี้ ยังมีบริการเทคเอาท์และเดลิเวอรี่อย่างครบครัน (มีออเดอร์จาก Uber eats เข้ามาไม่ขาดสายเลย)
มารีวิวอาหารกันบ้าง ความประทับใจแรกเลย คือ แต่ละจานให้เยอะมากๆ คุ้มค่าเกินราคา ส่วนรสชาติก็อร่อยแบบไทยแท้ด้วยฝีมือของเชฟคนไทย ครั้งนี้เราได้ลองสั่งมาหลายเมนู มีทั้ง ลาบวุ้นเส้น แหนม ปลาราดพริก และโป๊ะแตก (ครึ่งไซส์) รสจัดจ้านประทับใจทุกจาน ทานกับข้าวเหนียวก็ยิ่งฟินขึ้นไปอีก~
สำหรับเมนูที่ประทับใจที่สุดขอยกให้แหนมสดเลยค่ะ เพราะหาทานยากมาก และอร่อยมากๆ อีกด้วย นอกจากนี้ช่วงที่เราไปยังมีโปรโมชั่นพิเศษ วันเสาร์ – พฤหัส ช่วง 17:00 – 19:00 น. อร่อยกับเบียร์สด ไวน์ และไฮบอลได้ในราคาแก้วละ 350 เยนเท่านั้น!
อร่อยคุ้มขนาดนี้จะพลาดได้อย่างไร แถมที่นี่ยังเข้าร่วมแคมเปญ Go To Eat อีกด้วย ใครแวะมาแถวใจกลางโตเกียวก็ไปลองกันให้ได้เลยนะคะ
ชื่อ: | Blue Papaya THAILAND Kyobashi Edogrand (ブルーパパイアタイランド) | |
เวลาทำการ: | วันจันทร์ – ศุกร์ 11:00 – 15:00 น., 17:00 – 23:00 น. วันเสาร์ – อาทิตย์, วันหยุด 11:00 – 15:00 น., 17:00 – 22:00 น. บุฟเฟ่ต์อาหารกลางวัน (เฉพาะวันเสาร์ – อาทิตย์และวันหยุด) 11:00 – 17:00 น. | |
วันหยุด: | ช่วงปีใหม่ | |
ที่อยู่: | B1F Kyobashi Edogrand 2-2-1 Kyobashi, Chuo, Tokyo | |
วิธีเดินทาง: | ลงรถไฟสถานี Kyobashi เดินประมาณ 1 นาที หรือ ลงรถไฟสถานี JR Tokyo เดินประมาณ 5 นาที หรือ ลงรถไฟใต้ดินสถานี Takaracho เดินประมาณ 3 นาที | |
เว็บไซต์ (ภาษาญี่ปุ่น): | http://www.bluepapaya.jp/ | |
หมายเหตุ: | เข้าร่วมแคมเปญ Go To Eat |
2. Lanna Thai Cuisine [Gotanda 五反田]
ร้านที่ 2 นี้ขอมาที่สถานีในสาย Yamanote กันบ้างค่ะ กับร้าน ล้านนา (Lanna Thai Cuisine) ร้านอาหารไทยสุดโลคอลใกล้สถานี Gotanda เดินมาไม่ไกล โดยตัวร้านจะอยู่ใต้ดิน สังเกตได้ง่ายๆ จากธงไทยเลยค่ะ ที่หน้าร้านเองก็มีเมนูอาหารไทยแปะอยู่มากมาย ลองส่องๆ ก่อนได้เลยค่ะว่ามีอะไรน่ากินบ้าง~
เราไปถึงตั้งแต่ตอนร้านเปิด บรรยากาศในร้านดีมากก ตกแต่งสวยและดูสะอาดสะอ้าน มีไวไฟให้ใช้ แถมตรงทางเข้ายังมีขายของไทยๆ ทั้งเครื่องปรุง ของฝาก ไปจนถึงเหล้าไทยอีกด้วยค่ะ
ร้านนี้มีเมนูอาหารกลางวันให้เลือกค่อนข้างเยอะ ในราคาเดียว 980 เยน เราจึงเลือกมารีวิวในมื้อเที่ยงกันค่ะ
รับมือโควิด19 อย่างไรบ้าง?
ร้านนี้เป็นอีกร้านที่เรารู้สึกว่ามีมาตรการรับมือการระบาดของโรคโควิด19 ที่ดี ทั้งความสะอาด ไปจนถึงบริการเดลิเวอรี่และเทคเอาท์ โดยสามารถสั่งเทคเอาท์ทุกเมนูกลับไปทานที่บ้านได้ หรือจะโทรไปสั่งก่อนก็ได้เหมือนกัน แถมยังเข้าร่วมแคมเปญ Go To Eat ด้วยค่ะ
ส่วนเรื่องอาหารก็ประทับใจมากๆ เพราะนอกจากจะมีเมนูอาหารกลางวันเยอะแล้ว ยังมีเมนูหายากที่เปลี่ยนไปทุกวันด้วย ในเซ็ตก็จะรวมทั้งซุป สลัด และของหวานมาให้อย่างครบครัน
ครั้งนี้เราได้สั่งเย็นตาโฟ (ขายเฉพาะวันพุธ – พฤหัส) ที่ไม่เคยเห็นในร้านอาหารไทยร้านอื่นมาก่อน! และแน่นอนว่าอร่อยมากกก เครื่องเยอะแถมมีเกี๊ยวกรอบให้ด้วย
อีกเมนูที่สั่ง คือ เซ็ตแกงมัสมั่นไก่ ซึ่งให้เยอะมากและอร่อยสุดๆ กะทิเน้นๆ รวมกับเครื่องแกงชั้นดี บอกได้คำเดียวว่าเกินคุ้ม
อีกจุดที่ชอบมากๆ คือ ในช่วงอาหารกลางวันจะมี Drink Bar ให้บริการฟรี! มีเครื่องดื่มให้เลือกเยอะมากทั้งชา กาแฟ ไปจนถึงเครื่องดื่มไทยๆ อย่างชาไทยและน้ำมะตูม อะไรจะดีขนาดนี้~
แอบดูเมนูอาหารเย็นก็มีเยอะมากเหมือนกันค่ะ ทางร้านจะมีเมนูแนะนำเป็นเสือร้องไห้ เซ็ตจิ้มจุ่ม ยำผักบุ้งกรอบ และคอหมูย่าง ไว้ต้องมาลองให้ได้เลย!
ชื่อ: | Lanna Thai Cuisine (ラーンナー タイレストラン) | |
เวลาทำการ: | 11:00 – 15:30 น., 17:00 – 23:00 น. | |
วันหยุด: | 31 ธันวาคม – 3 มกราคม | |
ที่อยู่: | B103 1-7-1 Nishigotanda, Shinagawa, Tokyo | |
วิธีเดินทาง: | ลงรถไฟสถานี Gotanda เดินประมาณ 2 นาที | |
เว็บไซต์ (ภาษาญี่ปุ่น): | https://lannathai-cuisine.com/ | |
หมายเหตุ: | เข้าร่วมแคมเปญ Go To Eat |
3. Thai Yatai 999 [Hibiya 日比谷]
นั่งรถไฟสาย Yamanote ไปอีกนิดก็จะถึงร้านที่ 3 ของเราในครั้งนี้ แค่หน้าร้านก็เด่นมากๆ แล้ว ร้านนี้ชื่อว่า เก้า เก้า เก้า (999) เป็นร้านอาหารไทยชื่อดังติดอันดับในเว็บไซต์รีวิวอาหารหลายเว็บ แถมยังมีสาขามากมายในญี่ปุ่น แถมทุกสาขายังเข้าร่วมแคมเปญ Go To Eat ด้วยนะคะ
สาขาที่เราไปในครั้งนี้ คือ สาขา Hibiya อยู่บริเวณโซนร้านอาหารใต้รางรถไฟ Hibiya Gourmet Zone นั่นเองค่ะ
ร้านนี้เราขอยกให้เป็นร้านอาหารไทยที่เราชอบการตกแต่งมากที่สุดค่ะ โดยคอนเซปต์ของร้านนี้ คือ การแนะนำเอกลักษณ์และรสชาติของ “สตรีทฟู้ดไทย” นั่นเอง ทั้งโต๊ะ เก้าอี้ การจัดจาน บรรยากาศ ไปจนถึงรสชาติ
บอกเลยว่าเราชอบเพลย์ลิสต์เพลงที่เปิดคลอมากค่ะ ชวนให้คิดถึงร้านสตรีทฟู้ดที่ไทยจริงๆ
รับมือโควิด19 อย่างไรบ้าง?
เปิดประตูเข้าร้านมาก็จะมีเจลแอลกอฮอล์ให้ใช้ทันที แถมพนักงานทุกคนยังใส่ถุงมือและแมสก์อย่างเคร่งครัด มีการทำความสะอาดโต๊ะและระบายอากาศสม่ำเสมอ เรียกได้ว่ามาใช้บริการอย่างสบายใจกันได้ค่ะ แถมยังมีบริการเดลิเวอรี่อีกด้วย
ในครั้งนี้เรามาช่วงก่อนบ่าย 3 โมงพอดีจึงยังสามารถสั่งเมนูอาหารกลางวันได้อยู่ มีให้เลือกหลากหลายเมนู โดยทุกอย่างราคา 900 เยน น่าทานไปหมด เลือกยากจริงๆ ค่ะ
และในครั้งนี้เราก็เลือกลิ้มลองเมนูที่หายากมากๆ อย่างเซ็ตข้าวขาหมู และเมนูแนะนำของร้านซึ่งก็คือ ข้าวมันไก่ ในเซ็ตมีอาหารหลากหลายมากทั้งสลัด ซุป ก๋วยเตี๋ยวลุยสวนนึ่ง เต้าหู้กุยช่าย และเครื่องเคียงตามฤดูกาล (ครั้งนี้เป็นไข่ตุ๋น) มีเยอะและหลากหลายมากๆ แถมยังมาในจานแบบสไตล์สตรีทฟู้ดไทยสุดๆ ด้วย
ในส่วนของรสชาติ เราประทับใจทุกเมนูเลยค่ะ อร่อยทั้งเนื้อ, น้ำจิ้ม, เครื่องเคียง แถมยังใช้ข้าวไทย ให้อารมณ์ข้าวราดแกงไทยสุดๆ เมนูที่เราชอบมากๆ คือ ก๋วยเตี๋ยวลุยสวนค่ะ รู้สึกว่าอร่อยกว่าร้านอื่นๆ แต่ก็ยังรู้สึกว่าให้เนื้อน้อยไปนี้ดดนึงค่ะ
ในเซ็ตอาหารกลางวันยังรวม Drink Bar เป็นชาหลากประเภทให้เติมกันได้ไม่อั้นด้วย ที่เด็ดสุด คือ น้ำเก๊กฮวย สดชื่นเข้ากับอาหารไทยสุดๆ ไปเลยค่ะ
นอกจากนี้ เราก็ขอแนะนำให้ทุกคนมาในช่วงมื้อเย็นกันด้วยค่ะ เพราะมีเมนูอาหารไทยมากมาย เครื่องดื่มไทยหลากชนิด แถมยังมีหมูกระทะอีกด้วย ถ้ามีโอกาส เราจะทำรีวิวมาฝากทุกคนกันนะคะ~
ชื่อ: | Thai Yatai 999 Hibiya (タイ屋台999 日比谷店) | |
เวลาทำการ: | 11:30 – 22:00 น. (สั่งเมนูอาหารกลางวันได้ถึง 15:00 น.) | |
วันหยุด: | ไม่มีวันหยุด | |
ที่อยู่: | 1-7-20 Uchisaiwaicho, Chiyoda, Tokyo | |
วิธีเดินทาง: | ลงรถไฟสถานี Hibiya เดินประมาณ 5 นาที หรือ ลงรถไฟสถานี JR Yurakucho เดินประมาณ 7 นาที หรือ ลงรถไฟใต้ดินสถานี Uchisaiwaicho เดินประมาณ 7 นาที | |
เว็บไซต์ (ภาษาญี่ปุ่น): | https://www.thailand999.com/ | |
หมายเหตุ: | เข้าร่วมแคมเปญ Go To Eat |
4. Baan Phu-Thai [Narita 成田]
บทความก่อนๆ พาไปดูร้านอาหารไทยในโตเกียวกันเป็นส่วนใหญ่ ครั้งนี้เราขอขยับออกมาที่จังหวัดใกล้เคียงอย่างชิบะกันบ้างค่ะ ร้านนี้มีชื่อว่า บ้านภูไทย (Baan Phu-Thai) เป็นร้านอาหารไทยไซส์เล็กน่ารักอยู่ในที่เที่ยวชื่อดังอย่างถนนคนเดินสุดชิค Naritasan Omotesando ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากสนามบินนาริตะ เรียกได้ว่าใกล้สถานี Narita มากๆ และวิวดีสุดๆ เลยทีเดียวค่ะ
ร้านนี้มีบรรยากาศอบอุ่นเหมือนอยู่บ้านสมกับชื่อร้าน แถมยังมีไวไฟให้ใช้ เจ้าของเป็นคนไทย และเมนูก็เอาใจคนไทยสุดๆ ด้วย ครั้งนี้เรามาในช่วงเที่ยง จึงเสิร์ฟเป็นเซ็ตเมนูอาหารกลางวันราคาย่อมเยา 890 เยนทุกเมนู มีให้เลือกทั้งเมนูข้าว แกง เส้น (แต่เมนูตอนเย็นก็น่ามาลองเหมือนกันนะ!)
รับมือโควิด19 อย่างไรบ้าง?
สถานการณ์โควิด19 ทำให้นักท่องเที่ยวรวมถึงชาวญี่ปุ่นไม่สามารถเดินทางข้ามประเทศได้ แน่นอนว่าส่งผลให้คนมาเที่ยวแถวนาริตะลดลง ลูกค้าเองก็พลอยลดลงไปด้วย ทางร้านจึงมีการติดป้ายหน้าร้านเขียนมาตรการรับมืออย่างชัดเจน ทั้งการรักษาความสะอาดและการระบายอากาศ
แม้จะยังไม่มีบริการเดลิเวอรี่ แต่ก็สามารถสั่งเมนูเทคเอาท์ได้ในราสุดคุ้มแค่ 600 เยนเท่านั้น! ถูกและน่าทานจนอยากสั่งกลับไปลองที่บ้านเลยล่ะค่ะ
มาถึงรีวิวอาหาร ครั้งนี้เราได้สั่งเซ็ตพะแนงหมู มีไข่ดาวเยิ้มๆ ฟองโตโปะมาด้วย ในเซ็ตมีซุป สลัด ของหวาน และถ้าเพิ่มเครื่องดื่มด้วยก็บวกราคาแค่ 210 เยนเท่านั้นค่ะ
สำหรับรสชาติถือว่าน่าประทับใจเลยล่ะค่ะ เครื่องแกงหอมมาก มีความเผ็ดเล็กน้อย ให้ปริมาณที่ทานกับข้าวได้พอดี แถมยังแปะป้ายบอกว่าใช้ข้าวหอมมะลิตราหงส์ทองอีกด้วย ไข่ดาวก็เยิ้มอร่อยสุดๆ จานนี้เราขอบอกว่าคุ้มราคาค่ะ
แต่สิ่งที่เราประทับใจที่สุดก็คงหนีไม่พ้นขนมหวานที่ไม่ค่อยจะเจอในญี่ปุ่นอย่าง กล้วยบวชชี ที่รวมอยู่ในเซ็ต อร่อยจนอยากสั่งเพิ่มเลย
อีกเมนูที่เราเห็นแปะอยู่บนผนังร้านและคิดว่าน่าลอง คือ หมูปิ้ง 3 ไม้ 600 เยน และ ชานม (ไทย) ไข่มุก ครั้งหน้าถ้ามีโอกาสก็อยากจะมาลองให้ได้ค่ะ ใครที่อยู่แถวนี้หรือแวะมาก่อนไปสนามบินนาริตะ ก็อย่าลืมไปลองกันนะคะ~
ชื่อ: | Baan Phu-Thai (バーン・プータイ) | |
เวลาทำการ: | 11:30 – 14:30 น., 17:00 – 22:00 น. | |
วันหยุด: | วันอาทิตย์ | |
ที่อยู่: | 533-12 Hanazakicho, Narita, Chiba | |
วิธีเดินทาง: | ลงรถไฟสถานี Narita เดินประมาณ 3 นาที หรือ ลงรถไฟสถานี Keisei-Narita เดินประมาณ 4 นาที | |
หมายเหตุ: | ไม่เข้าร่วมแคมเปญ Go To Eat |
5. Gapao Shokudo [Shibuya 渋谷]
มาถึงร้านสุดท้ายแล้วขอไปที่ย่านใหญ่อย่างชิบูย่ากันบ้าง กับร้าน Gapao Shokudo ร้านแห่งกะเพราโดยชาวญี่ปุ่นที่มีใจรักในอาหารไทย หลายคนอาจจะกังวลเรื่องความแออัด แต่ร้านนี้อยู่ในบริเวณที่ไม่ค่อยมีคนพลุกพล่านมาก ดังนั้น สบายใจได้ค่ะ ครั้งนี้มาเราในช่วงกลางวัน ก็จะมีหม้อแกงตักเสิร์ฟแบบเทคเอาท์อยู่ด้วย
แม้จะเป็นร้านของชาวญี่ปุ่นแต่ก็มีบรรยากาศสบายๆ แบบไทยๆ เหมือนกัน ทั้งเพลงไทยเพราะๆ และพนักงานร้านที่พูดภาษาไทยได้นิดหน่อย แม้จะบ่ายแล้วก็ยังมีลูกค้าเข้ามาเรื่อยๆ สังเกตดูแล้วส่วนใหญ่จะเป็นชาวญี่ปุ่นค่ะ
ได้ใบเมนูอาหารกลางวันมาแล้ว ก็สั่งอาหารกันเลยดีกว่า
รับมือโควิด19 อย่างไรบ้าง?
อย่างที่ได้กล่าวไปแล้วว่าร้านนี้ค่อนข้างป็อปปูล่าร์ในหมู่คนญี่ปุ่น แถมยังอยู่ในย่านใหญ่อย่างชิบูย่า แน่นอนว่าจะต้องมีมาตรรับมือเข้มงวดเป็นพิเศษ เริ่มจากการลดเวลาเปิดร้าน ทำความสะอาดและมีฉากกั้นให้แต่ละโต๊ะ เพิ่มบริการเดลิเวอรี่ และตั้งโต๊ะขายเบนโตะตักร้อนๆ ห่อกลับบ้านกันไปได้ในราคา 700 เยนเท่านั้น
ใครอยากรู้ว่าเมนูอาหารกลางวันมีอะไรบ้างก็ดูในภาพได้เลย~
ขึ้นชื่อว่าเป็นร้านเซนมงผัดกะเพราแล้วก็ต้องสั่งข้าวกะเพรามาลองสักหน่อย ครั้งนี้จึงได้ลองเซ็ตอาหารกลางวันเป็นกะเพราหมู + แกงเขียวหวานถ้วยเล็ก (เพิ่ม 150 เยน) กับดงบุริลาบหมู ซึ่งเป็นเมนูออริจินัลของร้านมาลองค่ะ
ปริมาณที่ให้นับว่าเยอะใช้ได้เลยทั้งกับและข้าว ไข่ดาวเองก็ฟองใหญ่สุดๆ แต่ส่วนตัวคิดว่ารสชาติยังไม่ค่อยจัดจ้านเท่าไร รสเผ็ดอ่อนๆ อาจจะถูกปากชาวญี่ปุ่นมากกว่าค่ะ
ที่ประทับใจมากเป็นพิเศษ คือ ใส่ใบกะเพรามาค่อนข้างเยอะ และไข่ดาวที่กรอบอร่อย แถมไข่แดงยังเยิ้มอร่อยสุดๆ ปริมาณโดยรวมก็จุใจ ทานหมดก็อิ่มพอตัวเลยล่ะค่ะ
สุดท้ายก็ขอฝากร้านนี้ไว้เผื่อใครอยากแวะไป หรือพาคนญี่ปุ่นที่อยากลองกินอาหารไทยไปดู เป็นไอเดียที่ไม่เลวเลยล่ะค่ะ
ชื่อ: | Gapao Shokudo (ガパオ食堂) | |
เวลาทำการ: | 11:30 – 14:30 น., 18:00 – 22:00 น. | |
วันหยุด: | ไม่มีวันหยุดประจำ | |
ที่อยู่: | 1F 14-10 Sakuragaokacho, Shibuya, Tokyo | |
วิธีเดินทาง: | ลงรถไฟสถานี Shibuya เดินประมาณ 6 นาที | |
เว็บไซต์ (ภาษาญี่ปุ่น): | https://www.gapao-shokudo.com/ | |
หมายเหตุ: | เข้าร่วมแคมเปญ Go To Eat |
รักษาสุขภาพแล้วไปอร่อยกับอาหารไทยกันนะคะ
จบไปแล้วนะคะกับ 5 ร้านอาหารไทยแสนอร่อยในโตเกียว (แถมในจังหวัดชิบะให้ด้วย) ตอนนี้หลายๆ ร้านก็เข้าร่วมแคมเปญ Go To Eat ให้ทุกคนสามารถใช้พ้อยต์กันได้แล้ว แถมยังมีการออกมาตรการรับมือกับโรคโควิด19 อย่างเต็มที่ เพื่อที่ทุกคนจะได้อุ่นใจและไปใช้บริการกันได้อย่างปลอดภัย ส่วนใครที่ยังไม่อยากออกไปไหน ก็ลองใช้บริการเดลิเวอรี่ได้เช่นกัน อยู่บ้านนานๆ อาจจะเหงาคิดถึงประเทศไทย มาทานอาหารไทยให้หายเศร้ากันดีกว่านะคะ~
สำหรับครั้งนี้ต้องขอลาไปก่อน แต่รับรองว่าเราจะมีรีวิวร้านอาหารไทยอร่อยๆ มาให้ทุกคนอ่านกันทุกเดือนแน่นอน รอติดตามได้เลยค่ะ! หากใครมีร้านไหนอยากแนะนำ ก็ตามไปบอกกันทางเฟซบุ๊กได้เลยนะคะ!
สำหรับรีวิวของเดือนก่อนๆ สามารถตามไปอ่านได้ที่บทความด้านล่างนี้เลยค่ะ!
- [ภาค 4] พาชม 5 ร้านอาหารไทยในโตเกียว รับมือโควิด19 อย่างไร? ใช้พ้อยต์ Go To Eat ได้ด้วย!
- [ภาค 3] พาชมร้านอาหารไทยในโตเกียว รับมือโควิด19 อย่างไร? เมนูแปลกๆ เพียบ!
- [ภาค 2] พาชมร้านอาหารไทยในโตเกียว รับมือโควิด19 อย่างไร? มีหมูกระทะด้วยนะ!
- พาไปดูร้านอาหารไทยรอบโตเกียว รับมือโควิด19 อย่างไรบ้าง?
หากมีคำถาม คำแนะนำ หรือข้อเสนอแนะใดๆ เกี่ยวกับบทความของเรา สามารถติดต่อและติดตามเราผ่านทางเฟซบุ๊กได้เลย !
เนื้อหาในบทความนี้ อัพเดทล่าสุด ณ วันที่เผยแพร่