หากคุณอยากมาทำงานในประเทศญี่ปุ่น คุณก็อาจจะสงสัยว่าสามารถทำเงินได้มากสักแค่ไหน ในบทความนี้ เราได้ยกข้อมูลจากแบบสำรวจค่าแรงในญี่ปุ่นประจำปี 2020 ที่จัดทำโดยกระทรวงสาธารณสุข แรงงานและสวัสดิการ มาวิเคราะห์ให้คุณได้ทราบกันอย่างคร่าวๆ ว่าชาวต่างชาติในญี่ปุ่นจะทำงานได้เงินประมาณเท่าไร
การทำงานในญี่ปุ่น
การหางานทำในต่างประเทศอาจเป็นเรื่องที่น่ากังวล นอกจากขั้นตอนยุ่งยากในการย้ายที่อยู่ ปรับตัวเข้ากับวัฒนธรรมใหม่ รวมถึงเรียนรู้ภาษาและวิถีชีวิตใหม่แล้ว สิ่งสำคัญที่คุณควรคำนึงถึงที่สุดก็คงไม่พ้นเรื่องการหางานทำอยู่ดี
เมื่อพูดถึงเรื่องการทำงาน แต่ละประเทศมักมีระบบที่แตกต่างกันไม่มากก็น้อย และแน่นอนว่าค่าแรงก็จะต่างกันไปด้วยเช่นกัน ในกรณีของชาวต่างชาติอย่างเราๆ การมองค่าแรงในญี่ปุ่นเป็นจำนวนเงินเยนนั้นถือเป็นเรื่องที่น่าสับสนมากเพราะค่าครองชีพในประเทศเราและญี่ปุ่นนั้นต่างกัน อีกทั้งเงินเยนยังมีแนวโน้มที่จะดูมีตัวเลขเยอะกว่าสกุลเงินอื่นๆ อีกด้วย ตัวอย่างเช่น หากทำงานประจำในญี่ปุ่นก็การันตีได้เลยว่าจะได้รับเงินหลักล้านต่อปี ซึ่งสำหรับเราอาจดูมากโข แต่สำหรับชาวญี่ปุ่นแล้วนี่ถือเป็นเรื่องที่ปกติมาก
ในบทความนี้ เราจะพาคุณไปดูกันว่าคนญี่ปุ่นส่วนใหญ่ได้ค่าแรงเฉลี่ยประมาณเท่าไร ทั้งแบบภาพรวมและแยกตามประเภทธุรกิจ จากนั้นค่อยนำจำนวนเงินดังกล่าวไปเปรียบเทียบในธุรกิจการสอนภาษาอังกฤษ ซึ่งเป็นงานที่ชาวต่างชาติที่รู้ภาษาอังกฤษนิยมทำกันในญี่ปุ่น หลังจากนั้นคุณก็จะพอเห็นภาพว่าคนญี่ปุ่นส่วนใหญ่มีรายได้ประมาณเท่าไร และรู้ว่าคุณจะได้เงินประมาณเท่าไรหากตัดสินใจอยู่อาศัยและทำงานในประเทศญี่ปุ่น แต่อย่าลืมว่าที่ญี่ปุ่นยิ่งทำงานได้เงินเยอะ ก็ต้องเสียภาษีเยอะเช่นกัน
ค่าแรงเฉลี่ยในญี่ปุ่นประจำปี 2019
ข้อมูลจากกระทรวงสาธารณสุข แรงงานและสวัสดิการ ทำให้เรารู้ว่าในปี 2019 ค่าแรงเฉลี่ยต่อปีของคนญี่ปุ่นอยู่ที่ประมาณ 3,077,000 เยน* ซึ่งคิดเป็นประมาณ 256,416 เยนต่อเดือน หากแปลงค่าเงินเป็นดอลลาร์สหรัฐ (ตามอัตราแลกเปลี่ยนเงินโดยเฉลี่ยของปี 2019) ก็เป็นจำนวนเงินประมาณ 28,227 ดอลลาร์ต่อปี หรือ 2,352 ดอลลาร์ต่อเดือน แรงงานญี่ปุ่นมีอายุเฉลี่ยอยู่ที่ 43.1 ปี และมีระยะการทำงานเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 12.4 ปี
ค่าแรงเฉลี่ยที่กล่าวมานี้อาจดูน้อย แต่ก็ไม่ควรลืมว่าตัวเลขนี้เป็นค่าเฉลี่ยของทุกสายงาน หากแบ่งตามสายงานแล้วเราก็จะเห็นภาพที่ต่างออกไปเล็กน้อย ซึ่งแสดงถึงรายละเอียดที่มีความสำคัญบางประการอยู่
* ลิงก์แบบสำรวจ (ภาษาญี่ปุ่น)
หากนำเรื่องค่าครองชีพมาพิจารณาด้วย ค่าแรงเฉลี่ยนี้ถือว่าเป็นจำนวนที่เหลือเฟือ เพียงพอแม้แต่ในพื้นที่ที่มีค่าครองชีพสูงในญี่ปุ่น อย่างค่าใช้จ่ายรายเดือนในโตเกียว ของคนอายุ 20-30 ปี จะหมดเงินประมาณ 50,000 – 70,000 เยนไปกับค่าเช่า 5,000 เยนไปกับค่าเดินทาง 20,000 เยนไปกับข้าวของเครื่องใช้ และ 30,000 เยนไปกับค่าอาหาร
หากรวมค่าเข้าสังคมอื่นๆ เข้าไปแล้ว ค่าใช้จ่ายรายเดือนจะอยู่ที่ประมาณ 145,000 เยน ซึ่งเกินครึ่งของค่าแรงเฉลี่ยมาเพียงนิดเดียว ทำให้คนส่วนใหญ่สามารถใช้ชีวิตได้อย่างสบายๆ และมีเงินเก็บสำหรับรายจ่ายก้อนใหญ่ๆ เช่น ท่องเที่ยวหรือซื้อสินค้าราคาแพง
สายงานที่เงินดีและไม่ดีที่สุด (รายได้ต่อปี)
สายงานที่เงินดีที่สุด
เมื่อดูจากค่าเฉลี่ยด้านบนจะเห็นได้ว่าสายงานไหนจ่ายดีที่สุด สำหรับผู้ชาย สายงานที่ดีที่สุดในกรณีที่คุณอยากได้ค่าตอบแทนสูงๆ คือ “ไฟแนนซ์/ประกัน” รองลงมาคือ “การศึกษา” ซึ่งมีตัวเลขใกล้เคียงกันมาก ตามด้วย “งานวิจัย” “บริการข้อมูล” และ “ขายปลีก/ส่ง” ไล่ลงมาตามลำดับ
สำหรับผู้หญิง ลำดับงานที่มีค่าตอบแทนสูงจะแตกต่างไปเล็กน้อย โดยสายงานที่ผู้หญิงจะได้รับค่าแรงมากที่สุด คือ “การศึกษา” ตามมาด้วย “งานวิจัย” “บริการข้อมูล” และ “ไฟแนนซ์/ประกัน”
สายงานที่เงินไม่ดีที่สุด
ในส่วนของงานที่เงินไม่ดี สายงานที่จ่ายน้อยที่สุดสำหรับทั้ง 2 เพศ คือ “งานบริการ/บริการด้านอาหาร” จากจุดนี้อันดับงานที่เงินน้อยจะแตกต่างไปตามเพศ ในกรณีของผู้ชาย งานที่จ่ายเงินน้อยที่สุดอันดับถัดมา คือ “การบริการ/อื่นๆ” และ “ขนส่ง/คมนาคม” ส่วนผู้หญิงจะเป็น “การผลิต” และ “ไลฟ์สไตล์/ความบันเทิง”
บทบาทของเพศในเรื่องค่าแรง
ค่าแรงเฉลี่ยในญี่ปุ่นทำให้เราเห็นว่าประเด็นเรื่องเพศมีบทบาทสำคัญมาก ในที่ทำงานส่วนใหญ่ในญี่ปุ่น ผู้หญิงมักได้รับค่าแรงน้อยกว่าผู้ชายมาก
สิ่งนี้สามารถพบได้ในทุกสายงาน โดยสายงานที่ชายหญิงมีค่าแรงใกล้เคียงกันที่สุด คือ “การบริการ/อื่นๆ” ตามมาติดๆ ด้วย “การขนส่ง/ไปรษณีย์/คมนาคม” และจะค่อยๆ ห่างออกไปในสายงานที่เหลือ จนมาสิ้นสุดที่ “ไฟแนนซ์/ประกัน” ซึ่งมีความไม่เท่าเทียมสูงที่สุด โดยผู้ชายจะได้รับค่าแรงมากกว่าผู้หญิงถึง 1,810,000 เยนต่อปีเลยทีเดียว
ทำไมผู้หญิงถึงได้เงินน้อยกว่า?
สาเหตุของความไม่เท่าเทียมนี้มีอยู่หลายข้อ แต่สาเหตุหลักๆ เลยก็คือ การบริหารแบบชายเป็นใหญ่ที่แฝงอยู่ในแทบทุกภาคส่วนของระบบเศรษฐกิจ ซึ่งเป็นผลมาจากบทบาททางเพศในอดีตที่ยังคงเป็นเรื่องปกติในสังคมญี่ปุ่น โดยเฉลี่ยแล้วผู้ชายจะทำงานได้หลายชั่วโมงและหลายปีมากกว่าผู้หญิง อีกทั้งระบบการเลื่อนตำแหน่งในบริษัทญี่ปุ่นยังให้ความสำคัญกับระยะเวลาที่ได้ทำงานให้บริษัท ส่งผลให้ผู้หญิงส่วนใหญ่ซึ่งถูกคาดหวังให้ทำงานบ้านไปด้วยต้องตกอยู่ในสถานะที่เสียเปรียบ
เนื่องจากผู้หญิงมักไม่ถูกพิจารณาให้อยู่ในตำแหน่งบริหาร จึงค่อนข้างเสียโอกาสได้รับค่าแรงเพิ่มจากการเลื่อนตำแหน่งเป็นผู้จัดการ และมักจะถูกละเลยเมื่อมีการตัดสินใดๆ เกี่ยวกับการกำหนดค่าแรงโดยทั่วไป นอกจากนี้ ญี่ปุ่นยังนิยมจ้างคนหนุ่มสาวมากกว่าแรงงานที่มีอายุ ผู้หญิงที่จำเป็นต้องออกจากงานไปเลี้ยงลูกจึงกลับเข้ามาทำงานใหม่ได้ยาก และถึงจะได้งานก็มักจะประสบปัญหาเรื่องค่าแรงที่ไม่เท่าเทียมกับประสบการณ์ที่ตนมีด้วย
เกร็ดความรู้อื่นๆ เกี่ยวกับข้อมูลค่าแรง
ขนาดของบริษัทก็สำคัญ
โดยทั่วไปแล้ว ยิ่งบริษัทที่คุณทำงานมีขนาดใหญ่เท่าไร ค่าแรงก็มักจะดีตามไปด้วย แม้ว่าบริษัททุกขนาดจะมีค่าแรงเริ่มต้นในระดับที่พอๆ กัน แต่เมื่อเริ่มมีการปรับค่าแรงขึ้น บริษัทใหญ่ๆ ก็มักจะมีอัตราการขึ้นเงินที่ดีกว่าและให้ความมั่นคงได้มากกว่า
ทำงานในโตเกียว ได้เงินดีกว่า
เมื่อนำเรื่องสถานที่เข้ามาพิจารณาด้วย โตเกียวก็จัดว่าเป็นพื้นที่ที่จ่ายค่าแรงดีที่สุด โดยมีค่าเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 3,790,000 เยนต่อปี ด้วยความที่เป็นศูนย์กลางการคมนาคมและเป็นเมืองใหญ่อันดับต้นๆ ของประเทศ โตเกียวจึงเต็มไปด้วยสำนักงานใหญ่และสำนักงานสาขาของบริษัทนับพัน รองลงมาจากโตเกียว คือ โยโกฮาม่า เมืองใหญ่อันดับสองของญี่ปุ่นที่ตั้งอยู่ในจังหวัดคานากาวะ บริเวณทางใต้ของโตเกียว ซึ่งมีค่าแรงเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 3,411,000 ต่อปี เมื่อมองออกไปนอกภูมิภาคคันโต โอซาก้าเป็นผู้นำสูงสุดด้วยค่าแรงเฉลี่ยประมาณ 3,322,000 เยนต่อปี ซึ่งนับว่าใกล้เคียงกับโตเกียวและโยโกฮาม่า
ยิ่งอายุมาก ยิ่งทำเงินได้เยอะ
ในทุกบริษัทและทุกอุตสาหกรรม อายุและประสบการณ์มีบทบาทสำคัญมากในเรื่องค่าแรง คนอายุประมาณ 20 ปีที่เพิ่งเข้าทำงานใหม่ๆ จะมีค่าแรงเฉลี่ยต่ำที่สุด และจะค่อยๆ ไต่ระดับขึ้นไปเรื่อยๆ จนสิ้นสุดอยู่ที่ประมาณกลางหรือปลาย 50 ปี เป็นกรณีที่เกิดขึ้นจริงทั้งในหมู่ผู้ชายและผู้หญิง
เมื่อผู้ทำงานมีอายุถึง 60 และ 70 ปี ค่าแรงก็จะเริ่มลดลงอีกครั้ง และจะไปสิ้นสุดอยู่ที่ระดับเดียวกับตอนเข้าทำงานใหม่ๆ เมื่ออายุประมาณ 20 ปี สิ่งนี้เป็นผลมาจากการที่บริษัทญี่ปุ่นส่วนใหญ่กำหนดให้พนักงานต้องเกษียณเมื่ออายุถึง 60 ปี
อย่างไรก็ตาม เนื่องจากระบบเงินบำนาญของญี่ปุ่นจะเริ่มให้เงินก็ต่อเมื่ออายุถึง 65 ปี แรงงานหลายคนจึงเลือกทำการเกษียณแบบครึ่งทาง โดยแทนที่จะทำงานเต็มเวลาเหมือนเดิม แรงงานจะทำสัญญาแบบปีต่อปีตั้งแต่อายุ 60 ไปจนถึง 65 ภายใต้ข้อแลกเปลี่ยน คือ ได้รับค่าตอบแทนที่น้อยกว่าเดิม
ค่าตอบแทนสำหรับแรงงานต่างชาติในญี่ปุ่น (รายได้ต่อปี)
แม้ว่าข้อมูลที่เราได้กล่าวถึงในย่อหน้าก่อนๆ จะช่วยให้เราเห็นภาพคร่าวๆ เกี่ยวกับค่าตอบแทนเฉลี่ยในญี่ปุ่น แต่ข้อมูลดังกล่าวส่วนใหญ่เป็นกรณีของคนญี่ปุ่นทำงานให้กับบริษัทญี่ปุ่น สำหรับชาวต่างชาติที่ทำงานในญี่ปุ่นก็จะมีค่าแรงที่แตกต่างไปเล็กน้อย
โดยเฉลี่ยชาวต่างชาติที่มาทำงานโดยทั่วไปจะได้ค่าตอบแทนประมาณ 2,231,000 เยนต่อปี มีอายุเฉลี่ย 33.4 ปี และทำงานต่อเนื่องประมาณ 3 ปี หากคุณทำงานด้านเทคนิคหรือสายงานเฉพาะทาง ก็มีโอกาสที่จะได้ค่าตอบแทนสูงกว่า อยู่ที่ประมาณ 3,243,000 เยนต่อปี ในขณะที่กรณีของการฝึกงาน ค่าตอบแทนของคุณก็จะตกลงไปอยู่ที่ประมาณ 1,569,000 เยนต่อปี
ค่าตอบแทนของครูสอนภาษาอังกฤษในญี่ปุ่น
ชาวต่างชาติที่สามารถพูดภาษาอังกฤษได้ที่เลือกมาทำงานในญี่ปุ่น ส่วนใหญ่แล้วจะเข้ามาทำงานในตำแหน่งครูสอนภาษาอังกฤษ หากไม่เป็นครูในบริษัทเอกชน ก็จะเป็นครูผู้ช่วยภาษา (ALT) ตามโรงเรียนญี่ปุ่น
ค่าตอบแทนสำหรับครูที่ผ่านโปรแกรม JET
ค่าตอบแทนสำหรับครูสอนภาษาอังกฤษและ ALT จะแตกต่างกันไปตามบริษัทและโปรแกรม หากคุณได้งานจากทางรัฐผ่านทางโปรแกรม JET คุณก็จะมีโอกาสได้รับค่าแรงในระดับที่สูงกว่าค่าเฉลี่ย ในปี 2020 ครูโปรแกรม JET มีค่าตอบแทนเริ่มต้นที่ 3,600,000 เยนต่อปีโดยเฉลี่ย และเมื่อย่างเข้าปีที่สี่หรือห้า ค่าตอบแทนก็จะเลื่อนขึ้นเป็นประมาณ 3,960,000 เยนต่อปี
ค่าตอบแทนสำหรับครูที่ไม่ได้ผ่านโปรแกรม JET
ALT ที่ไม่ได้ทำงานให้กับรัฐบาลจะได้รับค่าตอบแทนในระดับเดียวกับค่าเฉลี่ยของแรงงานต่างชาติ งานสอนที่ดีที่สุดสำหรับครูที่ไม่ได้ผ่านโปรแกรม JET คือ สอนวิชาภาษาอังกฤษสำหรับใช้ในธุรกิจ ซึ่งมีค่าตอบแทนใกล้เคียงกับงานจากรัฐบาลเลยทีเดียว ในกรณีที่ทำงานกับบริษัทจัดหา ALT ภาคเอกชน คุณจะได้รับค่าแรงประมาณ 2,400,000 เยนต่อปี และจะเพิ่มขึ้นทุกๆ ปีจนไปสิ้นสุดอยู่ที่ประมาณ 2,700,000 เยน
ในส่วนของงานสอนภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสารก็มีค่าตอบแทนที่ใกล้เคียงกัน โดยเริ่มต้นที่ประมาณ 2,500,000 เยน และไปสิ้นสุดที่ประมาณ 3,000,000 เยนต่อปี ปิดท้ายด้วยงานติวเตอร์ที่สอนแบบตัวต่อตัว ซึ่งจะใช้ระบบการจ่ายค่าตอบแทนแบบรายชั่วโมงแทน โดยจะทำเงินได้ประมาณ 3,000 เยนต่อชั่วโมง และมีชั่วโมงทำงานแปรผันไปตามจำนวนนักเรียน
สำหรับข้อมูลโดยละเอียดเกี่ยวกับงานสอนภาษาอังกฤษในญี่ปุ่น สามารถอ่านได้ที่ บทความนี้
ค่าตอบแทนที่คุณจะได้จากการทำงานในญี่ปุ่น
เมื่อพูดถึงการทำงานในญี่ปุ่น ค่าตอบแทนโดยเฉลี่ยจะเริ่มต้นที่ประมาณ 2,500,000 เยนต่อปี หากงานแรกของคุณคือการสอนภาษาอังกฤษ และวางแผนจะทำงานนี้ต่อไปอีกหลายปี คุณก็สามารถคาดหวังการขึ้นเงินเดือนที่ค่อนข้างเร็วได้ แต่ก็จะแผ่วลงเร็วเช่นกันเมื่อจำนวนเงินขึ้นไปถึงระดับสูงสุดของอุตสาหกรรมการสอนภาษาอังกฤษแล้ว
ในจุดนี้ เราขอแนะนำให้คุณมองหางานในสายงานอื่นๆ ที่ต่อยอดไปจากการสอนภาษาได้ เช่น การทำงานให้กับบริษัทใหญ่ๆ ในด้านไฟแนนซ์, ข้อมูล, การศึกษา หรือการวิจัย งานเหล่านี้จะทำให้คุณได้รับค่าตอบแทนที่ดีกว่ามาก แถมยังมีโอกาสและตัวเลือกในการเลื่อนขั้นมากกว่าอีกด้วย
แม้เงินที่ได้อาจจะดูไม่มาก แต่ค่าแรงพื้นฐานในญี่ปุ่นก็สามารถขยับไปได้อีกไกล!
เราหวังว่าบทความนี้จะช่วยให้คุณเห็นภาพคร่าวๆ ของค่าตอบแทนจากการทำงานในญี่ปุ่น หากคุณประหยัดค่าใช้จ่ายเข้าไว้ และเข้าร่วมสวัสดิการสังคมต่างๆ อย่างประกันสุขภาพ รวมถึงการจ่ายภาษีอีกมากมาย ในระยะยาวคุณสามารถใช้ชีวิตในญี่ปุ่นได้อย่างสบายๆ แน่นอน!
หากมีคำถาม คำแนะนำ หรือข้อเสนอแนะใดๆ เกี่ยวกับบทความของเรา สามารถติดต่อและติดตามเราผ่านทางเฟซบุ๊กได้เลย !
Title image: metamorworks / Shutterstock
เนื้อหาในบทความนี้ อัพเดทล่าสุด ณ วันที่เผยแพร่