พาไป “แกลมปิ้ง” ใน 7 จุดตั้งแคมป์สุดหรูของญี่ปุ่น

สถานการณ์การท่องเที่ยวในปัจจุบันกำลังหยุดชะงัก และการต้องอยู่ติดบ้านตลอดเวลาก็อาจทำให้ใครหลายๆ คนรู้สึกอึดอัด ถึงแม้ว่าปี 2020 จะเป็นปีที่แสนวุ่นวาย แต่คนที่อาศัยอยู่ในญี่ปุ่นอย่างพวกเราก็ยังโชคดีที่กิจการต่างๆ ในประเทศได้กลับมาเปิดให้บริการอีกครั้งแล้ว แถมยังมีแคมเปญ Go To Travel ที่ช่วยให้เราเดินทางท่องเที่ยวในประเทศได้อย่างง่ายดายในราคาที่ถูกขึ้นด้วย หากเราคอยระวังและรักษาระยะห่างทางสังคม (Social Distance) อย่างเคร่งครัด ก็คงพอจะออกไปไหนมาไหนได้บ้าง และหากคุณกำลังมองหาสถานที่เงียบๆ และห่างไกลจากผู้คนสำหรับออกเดินทางในช่วงสุดสัปดาห์ เราขอเสนอ 7 จุด แกลมปิ้งในเต็นท์สุดหรูทั่วญี่ปุ่น มีทั้งที่ที่อยู่ไม่ไกลจากโตเกียว ไปจนถึงฮอกไกโดเลยทีเดียว หาจุดแกลมปิ้งในฝันแล้วเตรียมตัวออกจากบ้านกันดีเลยกว่า

1. Wild Beach Seaside Glamping Park | ชิบะ

หากคุณอยากสัมผัสประสบการณ์การท่องเที่ยวสไตล์อเมริกันโดยไม่ต้องบินข้ามมหาสมุทรไปให้ไกล Wild Beach ก็อาจเป็นตัวเลือกที่เหมาะกับคุณก็ได้ ที่นี่ตั้งอยู่ในจังหวัดชิบะซึ่งอยู่ไม่ไกลจากโตเกียวแถมยังมีบริการเตาถ่านสำหรับปิ้งบาร์บีคิวแบบอเมริกันแท้ๆ แล้วยังมีเต็นท์และกระท่อมหลายหลายประเภทให้เลือกอีกด้วย

จุดแกลมปิ้งแต่ละที่จะมีบรรยากาศที่แตกต่างกันไป มีเต็นท์ไม้ ( Log Tent ผสมผสานระหว่างกระท่อมไม้กับเต็นท์) แคมป์ล่าสัตว์ (Hunting Camp ไม่ต้องเตรียมเอง มาถึงก็ย่างทานได้เลย) นอกจากนี้ ยังมีแกลมปิ้งคาบาน่า (ตกแต่งด้วยม่านผ้าฝ้ายเก๋ๆ ไฟแขวนด้านบน และการประดับภายในที่ราวกับโรงแรมชั้นสูง) โดยคุณสามารถดูภาพตัวอย่างเหล่านี้ได้บนเว็บไซต์

ภายในพื้นที่อันกว้างขวางนี้ยังมีร้านบาร์บีคิวพร้อมด้วยเมนูสเต็กสุดแหวกแนว (เหมาะมากสำหรับผู้ที่ไม่อยากมาย่างเอง) แล้วยังมีบริการบาร์บีคิวสำหรับคนที่มาทานอาหารอย่างเดียวโดยไม่อยู่ค้างคืนด้วย นอกจากนี้ หากใครอยากสัมผัสประสบการณ์แกลมปิ้งที่หรูหราขึ้นไปอีก เราขอแนะนำให้พักที่ Rhino Hotel ซึ่งได้รับการออกแบบให้เหมือนกับโมเต็ลสไตล์อเมริกัน

2. The Farm Camp | ชิบะ

อีกหนึ่งแคมป์ในชิบะซึ่งเดินทางไปโตเกียวต่อได้ง่ายๆ Farm Camp มีจุดเด่นเป็นประสบการณ์แกลมปิ้งที่ไม่มีใครเหมือนเพราะคุณจะได้พักอยู่ในพื้นที่ของฟาร์มจริงๆ!

Farm Camp มีกิจกรรมมากมายที่ออกแบบมาเพื่อให้ผู้เข้าพักได้เข้าถึงธรรมชาติและเพลิดเพลินไปกับวิถีชีวิตที่เรียบง่าย ไม่ว่าจะเป็นการเก็บผักในแปลงเพาะปลูก เรียนรู้ศาสตร์การเอาตัวรอดใต้ต้นไม้ ให้อาหารสัตว์ในสวนสัตว์จิ๋ว หรือแม้แต่ประดิษฐ์ของต่างๆ อย่างเทียนสมุนไพร รับรองว่าตอบโจทย์ผู้คนได้ทุกประเภทแน่นอน คุณสามารถเลือกได้ว่าจะพักด้วยความหรูหราระดับไหน เพราะที่นี่มีตัวเลือกที่หลากหลาย ตั้งแต่การพกเต็นท์มาเอง ไปจนถึงการเลือกพักในบ้านสุดหรูของทางแคมป์ นอกจากนี้ ภายในพื้นที่อันกว้างขวางนี้ยังมีโซนบาร์บีคิว คาเฟ่ และออนเซ็นแบบบ้านๆ ซึ่งช่วยเพิ่มระดับความผ่อนคลายขึ้นไปอีกระดับ 

3. Hoshinoya Fuji | ยามานาชิ

Hoshinoya Fuji ตั้งอยู่ในจังหวัดยามานาชิ ออกจากโตเกียวไปทางตะวันตกเพียงไม่กี่ชั่วโมง เป็นสถานที่ที่จะมอบประสบการณ์แกลมปิ้งสุดหรูหราอย่างที่คุณไม่เคยพบมาก่อน (เนื่องจากเป็นโรงแรมระดับ 4 ดาว!) พร้อมด้วยหนึ่งในวิวทิวทัศน์ที่โด่งดังที่สุดของญี่ปุ่น กระท่อมที่ตกแต่งแบบมินิมอลแต่ละหลังมาพร้อมกับเตียง 1 คู่ โต๊ะ เก้าอี้ และวิวสุดเพอร์เฟ็กต์ของภูเขาไฟฟูจิจากอีกฟากหนึ่งของทะเลสาบคาวากุจิ

เนื่องจากที่นี่ตั้งในป่าลึก แขกที่มาพักจึงสามารถเพลิดเพลินไปกับความเงียบสงบข้างๆ แคมป์ไฟหลังจากกิจกรรมมากมายในช่วงกลางวันได้ ไม่ว่าจะเป็นตัดฟืน ขี่ม้า พายเรือแคนู หรือแม้กระทั่งเรียนรู้ศาสตร์การรมควันเนื้อจากผู้เชี่ยวชาญ รีสอร์ทนี้ยังมีคอร์สอาหารมื้อค้ำให้เลือกมากมาย ทุกคอร์สจะมีเนื้อล่าใหม่สดๆ เป็นวัตถุดิบเสมอ

4. Hatsushima Island Resort | ชิสึโอกะ 

Hatsushima Island Resort ครบครันไปด้วยอาหารและกิจกรรมริมหาดทุกรูปแบบ ที่นี่ตั้งอยู่ทางใต้ของโตเกียวและอยู่ทางตะวันตกของจังหวัดชิสึโอกะ อยู่บนเกาะฮัตสึชิมะ ซึ่งเป็นเกาะเล็กๆ สำหรับการท่องเที่ยว รีสอร์ทแห่งนี้มีกิจกรรมกลางแจ้งให้ทำมากมาย ตั้งแต่ตกปลา การวิ่งลอยฟ้า (Zip Lining) ไปจนถึงคอร์สการผจญภัยบนต้นไม้

ผู้เข้าพักสามารถเลือกระดับความหรูหราของการเข้าพักได้ ไม่ว่าจะเป็นตู้เทรลเลอร์แบบมินิมอล (สำหรับบรรยากาศแคมป์ปิ้งแบบดั้งเดิมแต่ไม่ต้องเหนื่อยอะไรมาก) หรือวิลล่าที่ครบครัน (เพื่อให้หรูหราสมกับเป็นการแกลมปิ้ง) ในส่วนของมื้อค่ำและบาร์บีคิวก็มีให้เลือกหลากหลายเช่นกัน แม้กระทั่งอาหารทะเลสดใหม่และเมนูสไตล์เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ นอกจากนี้ ทางรีสอร์ทยังมีออนเซ็นท่ามกลางวิวทะเลสวยๆ ให้ใช้บริการอีกด้วย

5. Izu Shaboten Village | ชิสึโอกะ 

อีกหนึ่งจุดแกลมปิ้งที่ตั้งอยู่ในจังหวัดชิสึโอกะ มีจุดขายเป็นเต็นท์และกระท่อมสุดหรูพร้อมเครื่องปรับอากาศและสิ่งอำนวยความสะดวกมากมาย ผู้เข้าพักสามารถเลือกได้ว่าจะเข้าพักในห้องแบบตะวันตกหรือญี่ปุ่น หรือแม้แต่ห้องที่ผสมความเป็นตะวันตกและญี่ปุ่นเข้าด้วยกัน ซึ่งมาพร้อมกับเตียง, ฟูกญี่ปุ่น, “โคทัตสึ” (Kotatsu โต๊ะเตี้ยนั่งพื้น ติดฮีตเตอร์และคลุมด้วยผ้าห่มสำหรับนั่งอุ่นขาในฤดูหนาว)

ช่วงกลางวัน ผู้เข้าพักสามารถเดินไปชมสวนสัตว์ Izu Shaboten และธีมปาร์คที่อยู่ใกล้ๆ กันได้ และในยามค่ำคืน คุณก็จะได้เพลิดเพลินไปกับบรรยากาศแคมป์ปิ้งแท้ๆ มีการนั่งล้อมรอบกองไฟและย่างมาร์ชเมลโล่ทานกันหลังมื้ออาหารค่ำ

6. First Class Backpackers Inn | เฮียวโกะ  

First Class Backpackers Inn ในจังหวัดเฮียวโกะมีให้คุณเลือกระหว่างเต็นท์ชิลๆ สไตล์โบฮีเมี่ยนกับกระท่อมไม้ที่ดูน่าอยู่น่านอน แขกที่เข้าพักสามารถเลือกได้ว่าจะเข้าร่วมประสบการณ์ผจญภัยอย่าง SUP (บอร์ดยืนพาย) หรือจะไปนั่งชิลที่บาร์ริมหาดในช่วงค่ำ (หรือเลือกทำทั้ง 2 กิจกรรมเลยก็ได้!) สำหรับผู้ที่อยากได้ประสบการณ์บาร์บีคิวด้วย ทางโรงแรมก็มีโซนบาร์บีคิวสุดพรีเมียมที่มาพร้อมกับวิวคลื่นทะเลคอยให้บริการอยู่ด้วย และหากคุณต้องการบรรยากาศแคมป์ปิ้งแบบดั้งเดิม ที่นี่ก็มีเต็นท์สไตล์คลาสสิกให้เช่าเช่นกัน

7. Niseko Cottage Bongo Square | ฮอกไกโด 

สัมผัสประสบการณ์แคมป์ปิ้งเย็นๆ ใน Niseko Cottage Bongo Square ไม่ไกลจากจุดท่องเที่ยวกีฬาฤดูหนาวยอดนิยม จุดแกลมปิ้งนี้ตั้งอยู่ใกล้กับ Niseko Village หนึ่งในสกีรีสอร์ทชื่อดังในฮอกไกโด ภายในเต็นท์ครบครันไปด้วยอุปกรณ์ที่จำเป็นสำหรับให้ความอบอุ่นในฤดูหนาว รวมถึงเตาถ่านสำหรับบาร์บีคิวท่ามกลางอากาศเย็นๆ นอกจากนี้ บริเวณใกล้กันก็มีออนเซ็นหลายแห่งที่มีวิวแบบฮอกไกโด ซึ่งคุณสามารถไปใช้บริการได้ด้วย  

ออกไปแกลมปิ้งกันเถอะ!

ไม่ว่าคุณจะชอบคลื่นทะเลริมหาด เส้นทางเดินป่า หรือลมเย็นๆ ตามภูเขา รับรองว่าจะต้องมีจุดแกลมปิ้งสักแห่งใน 7 จุดเหล่านี้ที่สามารถช่วยให้คุณผ่อนคลายทั้งกายและใจได้แน่นอน ถึงแม้ว่าแกลมปิ้งทุกที่ที่เราได้กล่าวถึงไปนี้ต่างก็มีบริการร้านอาหารและคอร์สมื้อค่ำมากมายให้เลือก แต่เราก็ขอแนะนำให้คุณเช็กล่วงหน้าว่าควรเตรียมอะไรไปเองด้วย ตัวอย่างเช่น จุดแกลมปิ้งบางแห่งอาจบอกให้คุณเตรียมถ่านและอุปกรณ์การปิ้งเข้าไปเองหากคุณต้องการใช้บริการบาร์บีคิว นอกจากนี้ บางแห่งก็อาจมีมาตรการเพิ่มเติมเพื่อรับมือกับสถานการณ์โควิด-19 ด้วย

ข่าวดีอีกเรื่องหนึ่ง คือ แกลมปิ้งบางแห่งก็เข้าร่วมในแคมเปญ Go to Travel ด้วยเหมือนกัน เป็นโอกาสดีที่จะทำให้เราได้ประหยัดงบในการท่องเที่ยวไปในตัว คุณสามารถตรวจสอบข้อมูลทั้งหมดได้จากเว็บไซต์ของจุดตั้งแคมป์แต่ละแห่ง

สุดท้ายนี้ สิ่งที่สำคัญที่สุดก็คือ เพลิดเพลินไปกับประสบการณ์แกลมปิ้งของคุณให้เต็มที่!

หากมีคำถาม คำแนะนำ หรือข้อเสนอแนะใดๆ เกี่ยวกับบทความของเรา สามารถติดต่อและติดตามเราผ่านทางเฟซบุ๊กได้เลย !

เนื้อหาในบทความนี้ อัพเดทล่าสุด ณ วันที่เผยแพร่