บัตรโดยสาร Japan Rail Pass ถือเป็นหนึ่งในตัวช่วยสำหรับการท่องเที่ยวในญี่ปุ่นที่ทุกคนรู้จักกันดีที่สุด แต่ก็น่าเสียดายที่บัตรแสนสะดวกนี้มีไว้สำหรับนักท่องเที่ยวที่ถือวีซ่าท่องเที่ยวระยะสั้นเท่านั้น ผู้ที่อาศัยอยู่ในญี่ปุ่นอย่างเราจึงต้องจ่ายเงินมากโขหากต้องการจะเดินทางท่องเที่ยวภายในประเทศ
แต่ช้าก่อน!! คุณคิดว่าเราไม่มีทางเลือกอื่นแล้วจริงหรือ? ในบทความนี้ เราจะพาคุณไปรู้จักกับบัตรโดยสารท่องเที่ยวสุดคุ้มที่แม้แต่ผู้อยู่อาศัยในญี่ปุ่นก็สามารถซื้อได้ คุณจะได้เดินทางไปทั่วญี่ปุ่นอย่างอิสระในราคาสุดประหยัดสุดคุ้มค่า ไม่ว่าจะด้วยรถไฟหรือรถบัส!
บัตรโดยสาร “รถบัส” ที่ผู้อยู่อาศัยระยะยาวในญี่ปุ่นสามารถซื้อได้
・Willer Express Japan Bus Pass [งดให้บริการชั่วคราว]
Japan Bus Pass ที่ออกโดยบริษัท Willer Express เป็นบัตรโดยสารสำหรับท่องเที่ยวที่ผู้ถือพาสปอร์ตต่างชาติทุกคนสามารถซื้อได้ ไม่ว่าจะเป็นนักท่องเที่ยวระยะสั้นหรือผู้อยู่อาศัยระยะยาว บัตรนี้เปิดให้คุณสามารถนั่งรถบัสด่วนพิเศษของ Willer Express ได้ทุกสาย รวมถึงรถบัสนอน (Overnight Bus) ได้ในช่วงเวลา 3 – 7 วัน (ขึ้นอยู่กับพาสที่คุณซื้อ) ทั้งยังสามารถใช้งานได้แบบยืดหยุ่น คือ สามารถเลือกวันเดินทางเมื่อไรก็ได้ในช่วงเวลา 2 เดือนหลังการซื้อโดยไม่จำเป็นต้องเลือกวันที่ติดกัน
Japan Bus Pass ยังมีข้อได้เปรียบอีกอย่าง คือ สามารถใช้กับบริการรถบัสที่นอนค้างคืนได้ ช่วยให้คุณประหยัดทั้งเวลาและค่าโรงแรมไปในตัว
ประเภทของ Japan Bus Pass
Japan Bus Pass มีให้เลือกอยู่ 2 ประเภท คือ “Japan Bus Pass MON to THU Pass” และ “Japan Bus Pass All Day Pass” ทั้งสองประเภทนี้มีข้อแตกต่างกันเล็กน้อยที่คุณควรทำความเข้าใจก่อนเลือกซื้อ นั่นก็คือ Japan Bus Pass MON to THU Pass จะไม่สามารถใช้ได้ในวันศุกร์, เสาร์, อาทิตย์ รวมถึงวันหยุดโกลเด้นวีคหรือเทศกาลโอบ้ง (ตรวจสอบเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์ของ Willer Express) ในขณะที่ Japan Bus Pass All Day Pass สามารถใช้ในวันศุกร์, เสาร์, อาทิตย์ได้ แต่จะไม่สามารถใช้ในช่วงวันหยุดโกลเด้นวีคหรือเทศกาลโอบ้งได้เช่นกัน
บัตรโดยสารทั้ง 2 ประเภทมีอายุใช้งาน 2 เดือนนับจากวันที่ซื้อ ครอบคลุมทั้งประเภทที่นั่งแบบ STANDARD, RELAX, RELAX NEW, RELAX Extra Space (กว้างพิเศษ), RELAX with Private Monitor (พร้อมหน้าจอส่วนตัว), และ RELAX NEW with Toilet (พร้อมห้องน้ำ)
บัตรทั้ง 2 ประเภทเปิดโอกาสให้คุณนั่งรถบัสในเวลาใดก็ได้ โดยมีจำกัดอยู่ที่ 3 เที่ยวต่อวัน (บัสนอน 1 และบัสปกติ 2)
* รถบัสที่ออกช่วงเที่ยงคืนถึงตี 3 นับเป็นเที่ยวของวันก่อนหน้า
Japan Bus Pass ราคาเท่าไร?
Japan Bus Pass MON to THU Pass มีทั้งแบบ 3 วันในราคา 10,200 เยน, 5 วันในราคา 12,800 เยน และ 7 วันในราคา 15,300 เยน ในขณะที่ Bus Pass All Day Pass มีให้เลือกเพียงสองแบบ ได้แก่ 3 วันในราคา 12,800 เยนและ 5 วันในราคา 15,300 เยน
วิธีจองและใช้งาน Japan Bus Pass
ทีนี้ เราจะซื้อ Japan Bus Pass ได้อย่างไร? อันดับแรก คือ คุณต้องตรวจสอบเส้นทางการเดินรถที่ครอบคลุมบน เว็บไซต์ของ Japan Bus Pass ให้ดีเสียก่อน เมื่อแน่ใจแล้วว่าใช้ในแผนการเดินทางของคุณได้แน่ๆ ก็ให้ทำการซื้อโดยคลิกที่ลิงก์ “Get Japan Bus Pass” (ต้องสมัครเป็นสมาชิกของ Willer Express ก่อน) จากนั้นให้เลือกประเภทและจำนวนของบัตรโดยสารที่ต้องการซื้อ และเข้าสู่ขั้นตอนสุดท้าย คือ การชำระเงินโดยใช้บัตรเครดิต เมื่อเสร็จขั้นตอนในส่วนนี้แล้ว คุณจะสามารถเข้าไปที่หน้า “My Page” บนเว็บไซต์ของ Willer Express เพื่อทำการจองได้ รวมถึงสามารถเปลี่ยนหรือยกเลิกการจองผ่านส่วน Reservation Management ในหน้า My Page ได้อีกด้วย
อย่างไรก็ตาม คุณจำเป็นต้องซื้อบัตร 1 ใบ ต่อผู้โดยสาร 1 คน ในกรณีที่ซื้อให้คนหลายคน ทุกคนจะต้องมีเส้นการเดินทางเดียวกัน และผู้ซื้อก็จะต้องเดินทางไปกับคนอื่นๆ ตลอดทริปด้วย
* Japan Bus Pass งดให้บริการชั่วคราวเนื่องจากสถานการณ์โควิด-19
・Hokkaido Budget Bus Pass และ Hokkaido Inter City Bus Pass [งดให้บริการชั่วคราว]
Hokkaido Bus Pass มีทั้งหมด 2 แบบ ซึ่งอนุญาตให้ผู้ถือพาสปอร์ตต่างชาติสามารถซื้อได้ทั้งคู่ “Hokkaido Budget Bus Pass” ใช้เดินทางได้ทั่วฮอกไกโด มีทั้งแบบแพ็กเกจ 3 วันในราคา 11,000 เยนและ 5 วันในราคา 17,000 เยน ครอบคลุมพื้นที่ตอนกลางของเกาะฮอกไกโด เช่น ซัปโปโร, โอตารุ, ฟุราโนะ, บิเอ, อาซาฮิกาวะ และโนโบริเบตสึ รวมถึงรถบัสทางไกลไปยังละแวกอื่นๆ เช่น ฮาโกดาเตะ, โอบิฮิโระ, อาบาราชิ, มอนเบ็ทสึ และคุชิโระ (ตรวจสอบเส้นทางการเดินรถและละแวกที่ครอบคลุมทั้งหมดได้ที่นี่)
ในอีกด้านหนึ่ง “Hokkaido Inter City Bus Pass” จะครอบคลุมเพียงรถบัสบริเวณตอนกลางของฮอกไกโดเท่านั้น โดยสามารถตรวจสอบเส้นทางทั้งหมดได้ที่นี่ Hokkaido Inter City Bus Pass มีทั้งแบบ 3 วันในราคา 6,000 เยนและแบบ 5 วันในราคา 9,000 เยน
ในการซื้อบัตรโดยสารทั้ง 2 แบบนี้ คุณจำเป็นจะต้องมีแอคเคาท์บนเว็บไซต์ของบริษัทรถบัส, ซื้อตั๋วอิเล็กทรอนิกส์ล่วงหน้า แล้วนำตั๋วดังกล่าวไปแลกเป็นบัตรโดยสารตามจุดขายตั๋วของบริษัทในเมืองหลักๆ ของฮอกไกโด เช่น ซัปโปโร, ฮาโกดาเตะ, อาซาฮิคาวะ, อาบาราชิ หรือสนามบินชินชิโตเสะ (ตรวจสอบตำแหน่งจุดขายตั๋วและเวลาทำการทั้งหมดได้ที่นี่) ควรระวังไว้ด้วยว่าคุณไม่สามารถซื้อบัตรเหล่านี้ผ่านจุดขายตั๋วโดยตรง แต่จำเป็นต้องนำตั๋วอิเล็กทรอนิกส์มาแลกเท่านั้น ตั๋วอิเล็กทรอนิกส์นี้สามารถชำระเงินได้ผ่านทางบัตรเครดิต หรือ Alipay
* Hokkaido Bus Pass งดให้บริการชั่วคราวเนื่องจากสถานการณ์โควิด-19
・Sun Q Pass (คิวชู)
Sun Q Pass เป็นอีกหนึ่งบัตรโดยสารที่ผู้อยู่อาศัยในญี่ปุ่นสามารถซื้อได้ มีให้เลือก 4 รูปแบบ ดังนี้ :
1) Sun Q Pass Northern Kyushu + Shimonoseki ราคา 9,000 เยน มีอายุการใช้งาน 3 วันติดต่อกัน ครอบคลุมพื้นที่ 5 จังหวัด คือ ฟูกุโอกะ, ซากะ, นางาซากิ, โออิตะ, คุมาโมโต้ รวมถึงเมืองชิโมโนะเซกิ ที่คุณสามารถเดินทางไปได้ด้วยรถบัสสายด่วน, รถบัสในตัวเมือง และเรือเฟอร์รี่ (มีเส้นทางเดินเรือ 3 สาย: จากท่าเรือคาราโตะในชิโมโนะเซกิไปท่าเรือโมจิ, จากท่าเรือคุมาโมโต้ไปท่าเรือชิมาบาระ, และจากท่าเรือคุจิโนสึในมินามิชิมาบาระไปท่าเรือโอนิอิเคะในอามาคุสะ) ได้อย่างไม่จำกัด
2) Sun Q Pass Southern Kyushu ราคา 8,000 เยน ซึ่งถูกกว่ากันเล็กน้อย มีอายุใช้งาน 3 วัน ครอบคลุมเพียง 3 จังหวัด ได้แก่ คุมาโมโต้, มิยาซากิ, คาโกชิม่า บัตรนี้ให้สิทธิ์ในการใช้รถบัสสายด่วน, รถบัสในตัวเมือง และเรือเฟอร์รี่ได้อีก 1 สาย (จากท่าเรือคาโกชิม่าไปท่าเรือซากุระจิมะ)
3) 3-day Sun Q Pass All of Kyushu + Shimonoseki ในราคา 11,000 เยน สามารถใช้บริการรถบัสสายด่วน, รถบัสในตัวเมือง และเรือเฟอร์รี่ (มีเส้นทางเดินเรือทั้งหมด 4 สาย ซึ่งรวมเส้นทางของบัตรทั้งสองแบบด้านบนเข้าด้วยกัน) ครอบคลุมพื้นที่ใน 7 จังหวัด ได้แก่ ฟูกุโอกะ, ซากะ, นางาซากิ, โออิตะ, คุมาโมโต้, มิยาซากิ, คาโกชิม่า และเมืองชิโมโนะเซกิ
4) 4-day Sun Q Pass All of Kyushu + Shimonoseki ที่มีราคา 14,000 เยน และครอบคลุมเส้นทางเหมือนกับแบบ 3-day
นอกจากนี้ SUN Q Pass ยังมาพร้อมกับคูปอง 15 ใบที่คุณสามารถใช้กับสถานที่ท่องเที่ยว ร้านอาหาร และโรงแรมในคิวชูได้ (ตรวจสอบสิทธิพิเศษอื่นๆ ได้ที่นี่)
คุณสามารถซื้อ Sun Q Pass ได้ตามจุดขายตั๋วรถบัส (ตรวจสอบรายชื่อทั้งหมดได้ที่นี่) บริษัทนำเที่ยว และร้านสะดวกซื้อ หากซื้อที่บริษัทนำเที่ยวและร้านสะดวกซื้อ คุณจะได้เป็นตั๋วที่ต้องนำไปแลกเป็นบัตรโดยสารตามจุดขายตั๋วรถบัสในคิวชูอีกต่อหนึ่ง
สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ Sun Q Pass สามารถตรวจสอบได้ที่เว็บไซต์
บัตรโดยสาร “รถไฟ” ที่ผู้อยู่อาศัยระยะยาวในญี่ปุ่นสามารถซื้อได้
・JR Tokyo Wide Pass
JR Tokyo Wide Pass ใช้นั่งรถไฟอะไรได้บ้าง?
JR Tokyo Wide Pass เป็นบัตรโดยสารพิเศษสำหรับผู้ที่ถือพาสปอร์ตต่างชาติ สามารถใช้นั่งรถไฟได้อย่างไม่จำกัดตลอดระยะเวลา 3 วัน ครอบคลุมรถไฟสายท้องถิ่น, สายด่วน, สายด่วนพิเศษ และชินคันเซ็นที่ให้บริการโดย JR East ในภูมิภาคคันโต รวมถึงพื้นที่บางส่วนของนากาโน่, นีงาตะ, ยามานาชิ และชิสึโอกะ
บัตรนี้ยังครอบคลุมไปถึงรถไฟบางสายที่ไม่ใช่ของ JR East เช่น Tokyo Monorail, Izu Kyuko Line, Fujikyu Railway Line, Joshin Dentetsu Line, Saitama New Urban Transit, Rinkai Line, รถไฟสายด่วนพิเศษ Direct JR/Tobu ระหว่าง Shinjuku กับ Tobu-Nikko และ Kinugawa Onsen, Tobu Railway ระหว่าง Tobu-Nikko กับ Kinugawa Onsen
* สามารถใช้ JR TOKYO Wide Pass กับรถไฟของ Tobu Railway ได้ในกรณีที่รถไฟออกหรือสิ้นสุดการให้บริการที่สถานีรถไฟ JR เท่านั้น
ใช้ JR Tokyo Wide Pass ได้ที่ไหนบ้าง?
JR Tokyo Wide Pass จะช่วยให้คุณสามารถเดินทางไปยังสถานที่ยอดนิยมหลายแห่ง ที่จริงแล้วในคันโตก็มีสถานที่ท่องเที่ยวทางวัฒนธรรมและธรรมชาติอยู่มากมาย คุณสามารถใช้เวลาช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์ไปเพลิดเพลินในเมืองเก่าแก่ที่มีเสน่ห์ของญี่ปุ่นอย่างคามาคุระ, คาวาโกเอะ, นิกโก้ และดื่มด่ำผ่อนคลายไปกับออนเซ็นในคินูกาวะ คุซัตสึ และอาตามิ หรือเที่ยวชมความยิ่งใหญ่ของธรรมชาติในป่าคารุอิซาว่า, สวน Hitachi Seaside Park, หน้าผาในคาบสมุทรอิสุ กับภูเขาไฟฟูจิและทะเลสาบทั้ง 5 ที่อยู่โดยรอบ นอกจากนี้ หากเป็นฤดูหนาว คุณก็สามารถไป Gala Yuzawa เพื่อสัมผัสแดนมหัศจรรย์ท่ามกลางหิมะได้อีกด้วย
ซื้อ JR Tokyo Wide Pass ได้ที่ไหน?
คุณสามารถซื้อ JR Tokyo Wide Pass ได้ที่สนามบินนาริตะและฮาเนดะ รวมถึงสถานีรถไฟโตเกียว, ชินากาว่า, ชินจูกุ, ชิบูย่า, อิเคะบุคุโระ, อุเอโนะ, โยโกฮาม่า และมิโตะ ในจุดนี้ขอให้จำไว้ด้วยว่าคุณจำเป็นต้องแสดงพาสปอร์ตและระบุวันที่จะใช้งานในระหว่างการซื้อ วันเริ่มใช้งานจะต้องอยู่ภายใน 1 เดือนหลังซื้อ และไม่สามารถขอเปลี่ยนได้ในภายหลัง นอกจากนี้ รถไฟบางสายยังจำเป็นต้องจองที่นั่งล่วงหน้า จึงควรสอบถามจากนายสถานีเอาไว้ด้วย ในกรณีที่คุณต้องทำการจอง คุณสามารถเดินเรื่องได้โดยไม่เสียค่าใช้จ่ายตามจุดขายตั๋วของ JR, เครื่องจำหน่ายตั๋วสำรองที่นั่ง หรือผ่านเว็บไซต์ของ JR East
JR Tokyo Wide Pass ราคาเท่าไร? คุ้มหรือไม่?
JR Tokyo Wide Pass ราคาเพียง 10,180 เยน* และ 5,090 เยนสำหรับเด็กอายุ 6 – 11 ปี บัตรโดยสารนี้คุ้มค่ามากเมื่อเทียบกับค่าโดยสารรถไฟปกติ ตัวอย่างเช่น ทริปไป – กลับชิโมดะจะมีค่าเดินทางประมาณ 12,500 เยน ในขณะที่ทริปไปกลับคุซัตสึออนเซ็นและคารุอิซาว่ามีราคาเท่าๆ กันอยู่ที่ประมาณ 12,000 เยน จะเห็นได้ว่าบัตรโดยสารนี้ช่วยประหยัดไปได้มาก นี่ยังไม่นับระยะเวลาใช้งานที่ยาวต่อเนื่อง 3 วันและสิทธิ์ในการนั่งรถไฟชินคันเซ็นด้วย
* มีค่าโดยสารเพิ่มเติมหากนั่งรถชมวิวของ Fujisan Express และ Fuji Tozan Densha
・JR Hokkaido Free Pass
Hokkaido Free Pass มีไว้สำหรับผู้อยู่อาศัยในญี่ปุ่น สามารถใช้สิทธิ์นั่งรถไฟของ JR (ยกเว้น Hokkaido Shinkansen) และรถบัสของ JR* ในฮอกไกโดได้อย่างไม่จำกัดตลอดระยะเวลา 7 วัน แม้ว่าจะไม่มีให้ใช้บริการในช่วงฤดูท่องเที่ยวอย่างปีใหม่, โกลเด้นวีค, โอบ้ง และมีการจำกัดสิทธิ์ในการสำรองที่นั่งได้เพียง 6 ครั้ง แต่บัตรโดยสารนี้ก็ยังสะดวกมากอยู่ดีหากคุณวางแผนที่จะเที่ยวทางไกลในฮอกไกโด เพราะมีราคาเพียง 27,430 เยน และสามารถหาซื้อได้ตามสถานีหลักทุกแห่งของ JR
* ยกเว้น Twinkle Bus และรถบัสที่ออกจากซัปโปโรไปอาซาฮิกาวะ, มอนเบ็ทสึ, โอบิฮิโระ, คิโรโระ และเอริโมะ
・Nikko Pass
Tobu Railway ให้บริการ Nikko Pass อยู่ 2 แบบ แบบแรกคือ Nikko Pass World Heritage Area ที่มีอายุใช้งานต่อเนื่อง 2 วัน ราคา 2,040 เยน ครอบคลุมรถไฟไป – กลับระหว่างสถานีอาซากุสะในโตเกียวและนิกโก้, ให้สิทธิ์นั่งรถบัสในย่านใจกลางนิกโก้อย่างไม่จำกัด รวมถึงรถไฟระหว่างนิกโก้กับคินูกาวะออนเซ็นด้วย
อีกแบบหนึ่ง คือ Nikko Pass All Area ที่มีอายุใช้งานต่อเนื่อง 4 วันในราคา 4,600 เยน (20 เมษายน – 30 พฤศจิกายน) หรือ 4,230 เยน (1 ธันวาคม – 19 เมษายน) นอกจากรายการในแบบแรกแล้วยังครอบคลุมถึงรถบัสระหว่างนิกโก้กับโอคุนิกโก้, เรือชมวิวในทะเลสาบจูเซนจิ และ Akechidaira Ropeway บัตรโดยสารทั้ง 2 แบบนี้ยังให้ส่วนลดในสถานที่ท่องเที่ยว ร้านอาหาร และร้านค้าบางแห่งในพื้นที่ด้วย
อย่างไรก็ตาม Nikko Pass ไม่อนุญาตให้คุณลงที่สถานีอื่นระหว่างอาซากุสะกับนิกโก้ (ยกเว้นสถานีโตเกียวสกายทรีและสถานีโทชิกิ) แต่ก็ครอบคลุมรถไฟสายด่วนและสายท้องถิ่น (มีค่าโดยสารเพิ่มเติมสำหรับสายด่วนพิเศษ) บัตรทั้ง 2 แบบสามารถซื้อได้ที่ Tobu Tourist Information Center ในสถานีอาซากุสะและอิเคะบุคุโระ หรือจะซื้อจากเว็บไซต์ของ Tobu Railway ก็ได้เช่นกัน
・Odakyu Enoshima Kamakura Free Pass
Odakyu Enoshima Kamakura Free Pass เป็นบัตรโดยสาราคาประหยัดสำหรับทริปไป – กลับบนรถไฟสาย Odakyu Line ระหว่างสถานีชินจูกุหรือสถานีมาจิดะไปยังสถานีฟุจิซาวะ รวมถึงสิทธิ์ในการนั่งรถไฟสาย Enoden Line และ Odakyu Line อย่างไม่จำกัดระหว่างสถานีฟุจิซาวะกับสถานีคาตาเสะเอโนะชิมะ มีอายุใช้งาน 1 วัน ส่วนราคานั้นจะแตกต่างกันไปตามสถานีที่ออกเดินทาง เช่น จากชินจูกุ 1,520 เยน จากมาจิดะ 1,060 เยน และฟุจิซาวะ 660 เยน (หากต้องการใช้บริการรถไฟสาย Romancecar ก็จำเป็นต้องซื้อตั๋ว Limited Express Romancecar แยกต่างหาก)
บัตรโดยสารนี้ยังให้ส่วนลดในสถานที่ต่างๆ เช่น ร้านอาหาร และจุดท่องเที่ยวในเอโนะชิมะอย่าง Enoshima Lighthouse Observation Tower และ Enoshima Iwaya Cave บัตรรถไฟนี้สามารถหาซื้อได้ที่ Odakyu Sightseeing Service Center ในสถานีชินจูกุ และ เครื่องจำหน่ายตั๋วของ Odakyu ในสถานีชินจูกุ
・Hakone Free Pass
หากมี Hakone Free Pass คุณจะสามารถนั่ง Hakone Tozan Train, Hakone Tozan Cablecar, Hakone Ropeway, Hakone Sightseeing Cruise, Hakone Tozan Bus (รวมถึง Kanko Shisetsu Meguri Bus), Odakyu Hakone Highway Bus และ Tokai Bus ได้อย่างไม่จำกัด บัตรโดยสารนี้ยังมาพร้อมกับส่วนลดตั๋วไป – กลับจากสถานีชินจูกุ มีให้เลือกทั้งแบบสองวันและแบบสามวัน แบบ 2 วัน หากออกจากสถานีชินจูกุจะมีราคาอยู่ที่ 5,700 เยน, ออกจากมาจิดะ 5,420 เยน และออกจากโอดาวาระจะอยู่ที่ 4,600 เยน ในขณะที่แบบ 3 วัน หากออกจากสถานีชินจูกุจะมีราคาอยู่ที่ 6,100 เยน, ออกจากมาจิดะ 5,820 เยน และออกจากโอดาวาระจะอยู่ที่ 5,000 เยน (หากต้องการใช้บริการรถไฟสาย Romancecar ก็จำเป็นต้องซื้อตั๋ว Limited Express Romancecar แยกต่างหาก)
บัตรนี้ยังให้ส่วนลดตามสถานที่ต่างๆ ในละแวกฮาโกเน่ เช่น ออนเซ็น, ร้านอาหาร, ร้านค้า รวมถึงพิพิธภัณฑ์, สวนสาธารณะ และสถานที่ทางประวัติศาสตร์อย่าง Hakone Open Air Museum, ปราสาทโอดาวาระ, ศาลเจ้าฮาโกเน่ และพิพิธภัณฑ์สมบัติของศาลเจ้า คุณสามารถซื้อ Hakone Free Pass ได้ที่ Odakyu Sightseeing Service Center และเครื่องขายตั๋วอัตโนมัติในชินจูกุ หรือตามศูนย์บริการข้อมูลนักท่องเที่ยวและเครื่องขายตั๋วในสถานีเหล่านี้
・JR Aozora Free Pass (ละแวกนาโกย่า)
JR Aozora Pass ให้สิทธิ์นั่งรถไฟสายท้องถิ่นในตัวเมืองนาโกย่าอย่างไม่จำกัดในวันเสาร์ – อาทิตย์และวันหยุดประจำชาติ บัตรโดยสารนี้ราคา 2,620 เยน มีจำหน่ายอยู่ที่ทุกสถานีที่บัตรนี้ครอบคลุม ถือเป็นราคาที่คุ้มค่าหากคุณวางแผนที่จะเดินทางไป – กลับระหว่างนาโกย่ากับบริเวณอื่นๆ อย่างหุบเขาคิโสะ (นาคาสึกาวะและคิโสะฮิราซาวะ), เกโระออนเซ็น, คาบสมุทรชิมะ (อิเสะ, โทบะ, มัตสึซากะ) และกิฟุ (มิโนะและเมืองกิฟุ)
・Koyasan World Heritage Ticket
บัตรโดยสาร Koyasan World Heritage Ticket ครอบคลุมทริปไป – กลับระหว่างนัมบะหรือชินอิมามิยะไปยังสถานีโคยะซังของภูเขาโคยะที่เดินทางได้ด้วยรถไฟสาย Nankai Railway (รวมถึง Koyasan Cablecar ระหว่างสถานีโกคุราคุบาชิกับสถานีโคยะซัง) พร้อมสิทธิ์นั่งรถบัสได้ไม่อั้นเป็นระยะเวลา 2 วันในบริเวณภูเขาโคยะ (Nankai Rinkan Bus ยกเว้นสาย Tateri Line, Koya Ryujin Line, Koya Niutsuhime Line) บัตรโดยสารนี้ยังให้ส่วนลดสำหรับสถานที่ท่องเที่ยวบางแห่ง (วัดคงโกบุจิ, ศาลาคอนโดะ, เจดีย์คอนปอนไดโตะ, พิพิธภัณฑ์เรโฮคัง) และร้านขายของฝากที่ร่วมรายการ
Koyasan World Heritage Ticket สามารถหาซื้อได้ตามสถานีหลักๆ ของ Nankai Line รถไฟสายปกติ 3,080 เยน และสายด่วนพิเศษ 3,630 เยน
เที่ยวญี่ปุ่นโดยไม่ต้องกลัวหมด!
เราหวังเป็นอย่างยิ่งว่าบทความนี้จะให้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์สำหรับทริปครั้งต่อไปของคุณ ถึงแม้ว่าคุณจะเป็นผู้อยู่อาศัยในญี่ปุ่น ก็ยังมีบัตรโดยสารที่แสนสะดวกเหล่านี้ที่จะช่วยประหยัดค่าเดินทางให้คุณได้ หากบัตรที่กล่าวมานี้ยังไม่พอ เราขอแนะนำให้ตามไปอ่านบทความเกี่ยวกับ JR EAST Welcome Rail Pass 2020 ที่เพิ่งออกใหม่เมื่อเร็วๆ นี้ หรือไม่ก็สามารถตรวจสอบข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ Seishun 18 Kippu ที่วางจำหน่ายเป็นฤดูกาลได้ค่ะ
หากมีคำถาม คำแนะนำ หรือข้อเสนอแนะใดๆ เกี่ยวกับบทความของเรา สามารถติดต่อและติดตามเราผ่านทางเฟซบุ๊กได้เลย !
ข้อมูลในบทความเป็นข้อมูล ณ วันที่เผยแพร่
เนื้อหาในบทความนี้ อัพเดทล่าสุด ณ วันที่เผยแพร่