แนะนำ Tokyo Tech มหาวิทยาลัยสายเทคฯ ขวัญใจนักเรียนต่างชาติ

tokyo tech sunset
Oyraa

Tokyo Institute of Technology (東京工業大学) หรือที่เรียกกันติดปากว่า Tokyo Tech เป็นหนึ่งในมหาวิทยาลัยระดับท็อปของประเทศญี่ปุ่นในด้านวิทยาศาสตร์ วิศวกรรมศาสตร์ และเทคโนโลยี เรียกได้ว่าหากบอกคนญี่ปุ่นว่าจบมาจากที่นี่ ก็จะได้ยินเสียงอุทานพร้อมคำชื่นชมว่าหัวดีอยู่เนืองๆ

นอกจากความโดดเด่นในด้านวิชาการแล้ว Tokyo Tech ยังมีนักเรียนต่างชาติกว่า 1,700 คน จาก 78 ประเทศทั่วโลก ซึ่งนับว่าเป็นสัดส่วนที่สูงมากๆ กล่าวได้ว่ามาเรียนที่นี่ที่เดียวจะได้เพื่อนจากทั่วทุกมุมโลกเลยทีเดียว หากอยากรู้ว่าอะไรดึงดูดให้นักเรียนจากทั่วโลกต้องมาเข้าเรียนที่นี่ ก็มาหาคำตอบไปพร้อมๆ กันเลย!

ประวัติของ Tokyo Institute of Technology

ผู้ก่อตั้ง Tokyo Institute of Technology

Tokyo Institute of Technology เดิมชื่อว่า Tokyo Vocational School (東京職工学校) เป็นโรงเรียนวิชาชีพระดับแนวหน้าที่ก่อตั้งขึ้นในปี 1881 เพื่อพัฒนาบุคลากรที่มีความสามารถในการพัฒนาเทคโนโลยีสำหรับอุตสาหกรรมในยุคใหม่ รองรับความต้องการหลังการปฏิวัติอุตสาหกรรมเมจิและการเปิดประเทศของญี่ปุ่น โดยได้เลือกย่านคุระมาเอะ (蔵前) ใกล้กับแม่น้ำสุมิดะเป็นที่ตั้งโรงเรียน

Tokyo Vocational School ได้พัฒนาบุคลากรคุณภาพเข้าสู่วงการวิทยาศาสตร์และวิศวกรรมญี่ปุ่นเรื่อยมา ถึงขนาดที่มีคำพูดว่า “เห็นปล่องควันที่ไหนจะเห็นคนคุระมาเอะที่นั่น (煙突のある所蔵前人あり)” เป็นการสื่อว่าบุคลากรจากโรงเรียนได้เข้าไปมีส่วนร่วมในอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ของญี่ปุ่นทั่วทุกหัวระแหง

เหตุการณ์แผ่นดินไหวครั้งใหญ่ในปี 1923 ทำให้โรงเรียนได้รับความเสียหายอย่างหนัก จึงได้ย้ายมาตั้งใหม่ในย่าน Ookayama ซึ่งเป็นที่ตั้งของวิทยาเขตหลักของมหาวิทยาลัยในปัจจุบัน ต่อมาได้แปรสถานะเป็นมหาวิทยาลัยที่มีการรับรองใบปริญญา และในปี 1946 ก็ได้เปลี่ยนชื่อมาเป็น Tokyo Institute of Technology หรือเรียกสั้นๆ ว่า Tokyo Tech ดังเช่นปัจจุบัน

Tokyo Institute of Technology

ปัจจุบัน Tokyo Tech มีทั้งหมด 3 วิทยาเขต ได้แก่

  1. วิทยาเขต Ookayama (大岡山) ถือเป็นวิทยาเขตหลักที่จัดการเรียนการสอนทั้งภาคทฤษฎีและภาคปฏิบัติของนักเรียนระดับปริญญาตรี รวมถึงเป็นที่ตั้งของห้องแล็ปนักศึกษาระดับปริญญาโทและปริญญาเอกจำนวนหนึ่งด้วย
  2. วิทยาเขต Suzukakedai (すずかけ台) เน้นการทำวิจัยของนักศึกษาทุกระดับชั้น
  3. วิทยาเขต Tamachi (田町) ตั้งอยู่บริเวณตอนกลางของจังหวัดโตเกียว เป็นที่ตั้งของโรงเรียนสาธิตซึ่งอยู่ภายใต้การกำกับดูแลของทางมหาวิทยาลัย

เป้าหมายของมหาวิทยาลัย

Tokyo Institute of Technology sakura

Tokyo Tech มีเป้าหมายในการสร้างบุคลากรทางด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีระดับแนวหน้าให้กับสังคมโลก โดยแม้จะเป็นมหาวิทยาลัยสายวิทยาศาสตร์ แต่บัณฑิตของที่นี่จะต้องมีความรู้ทั้งในทางศิลปศาสตร์ (Liberal Arts) สังคมศาสตร์ และมนุษยศาสตร์ควบคู่ไปด้วย

นอกจากนี้อีกหนึ่งภารกิจของมหาวิทยาลัย คือ การบุกเบิกงานวิจัย และยกระดับการศึกษาด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี โดยมีเป้าหมายสูงสุด คือ การมีส่วนร่วมในการสร้างโลกที่ยั่งยืนและพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชากรโลก

คณะที่เปิดสอน

Tokyo Institute of Technology ห้องเรียน

Tokyo Tech มีโปรแกรมเปิดสอนตั้งแต่ระดับปริญญาตรี ปริญญาโท และปริญญาเอก โดยสำหรับนักเรียนในระดับปริญญาตรี เมื่ออยู่ชั้นปีที่ 1 ทุกคนจะสังกัดคณะ แต่จะยังไม่สังกัดภาค และต้องเรียนรายวิชาพื้นฐานตามหลักสูตรที่กำหนดไว้ในชั้นปีที่ 1 จากนั้น จะมีการแบ่งเข้าสังกัดภาคเมื่อขึ้นปี 2 โดยคณะที่เปิดสอนจะแบ่งออกเป็น 6 คณะใหญ่ๆ (School) ในแต่ละคณะก็จะมีภาคแยกย่อยลงไปลงไปอีก

ผู้อ่านสามารถกดที่ชื่อภาคเพื่ออ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์ของมหาวิทยาลัย ส่วนในระดับปริญญาโทและปริญญาเอก วิชาเอก (Major) ที่เปิดสอนจะแยกย่อยลงไปกว่าระดับปริญญาตรี รายละเอียดสามารถอ่านเพิ่มเติมได้ในลิงก์ด้านล่างที่ tsunagu Local ได้รวบรวมมาให้แล้ว

1. คณะวิทยาศาสตร์ (School of Science)

ประกอบด้วยภาคต่างๆ ดังนี้:

สำหรับวิชาเอกในระดับปริญญาโทและปริญญาเอกของคณะวิทยาศาสตร์สามารถอ่านเพิ่มเติมได้ ที่นี่

2. คณะวิศวกรรมศาสตร์ (School of Engineering)

ประกอบด้วยภาคต่างๆ ดังนี้:

สำหรับวิชาเอกในระดับปริญญาโทและปริญญาเอกของคณะวิศวกรรมศาสตร์สามารถอ่านเพิ่มเติมได้ ที่นี่

3. คณะวัสดุศาสตร์และเทคโนโลยีเคมี (School of Materials and Chemical Technology)

ประกอบด้วยภาคต่างๆ ดังนี้:

สำหรับวิชาเอกในระดับปริญญาโทและปริญญาเอกในคณะวิศวกรรมศาสตร์สามารถอ่านเพิ่มเติมได้ ที่นี่

4. คณะคอมพิวเตอร์ (School of Computing)

ประกอบด้วยภาคต่างๆ ดังนี้:

สำหรับวิชาเอกในระดับปริญญาโทและปริญญาเอกในคณะวิศวกรรมศาสตร์สามารถอ่านเพิ่มเติมได้ ที่นี่

5. คณะวิทยาศาสตร์ชีวภาพและเทคโนโลยี (School of Life Science and Technology)

มีเพียงภาคเดียว คือ

สำหรับวิชาเอกในระดับปริญญาโทและปริญญาเอกในคณะวิศวกรรมศาสตร์สามารถอ่านเพิ่มเติมได้ ที่นี่

6. คณะสังคมและสิ่งแวดล้อม (School of Environment and Society)

ประกอบด้วยภาคต่างๆ ดังนี้:

สำหรับวิชาเอกในระดับปริญญาโทและปริญญาเอกในคณะวิศวกรรมศาสตร์สามารถอ่านเพิ่มเติมได้ ที่นี่

จุดเด่นของ Tokyo Tech

หากจะพูดถึงจุดเด่นของ Tokyo Tech สองสิ่งที่จะนึกขึ้นมาเป็นอย่างแรกคงจะเป็นความโดดเด่นทางด้านวิชาการและความหลากหลายของนักเรียน

Tokyo Institute of Technology ห้องแลป

ในด้านวิชาการ Tokyo Tech ถูกจัดอันดับให้เป็นมหาวิทยาลัยอันดับ 3 ของญี่ปุ่นและอันดับ 56 ของโลกโดย QS World Ranking โดยส่วนที่ทำได้โดดเด่นเป็นพิเศษ คือ จำนวนการถูกอ้างอิงของงานวิจัยต่อจำนวนบุคลากร (Citations per Faculty) และจำนวนนักเรียนและบุคลากรชาวต่างชาติ (International Orientation)

นอกจากนี้ ยังมีบุคลากรที่ได้รับรางวัลโนเบลถึง 2 ท่าน ได้แก่ Yoshinori Ohsumi อาจารย์ประจำ Cell Biology Center, Institute of Innovative Research ได้รับรางวัลโนเบลสาขาการแพทย์ในปี 2016 และ Hideki Shirakawa ศิษย์เก่า ได้รับรางวัลโนเบลสาขาเคมีในปี 2000

tisa welcome party

อีกหนึ่งจุดเด่นของที่นี่ คือ ความหลากหลายของนักเรียน เพราะที่นี่มีนักเรียนต่างชาติกว่า 1,700 คนจาก 78 ประเทศทั่วโลก คิดเป็นกว่า 15% ของจำนวนนักเรียนทั้งหมด เรียกได้ว่าถึงมาเป็นนักเรียนต่างชาติก็ไม่ต้องกลัวว่าจะรู้สึกแปลกแยก เพราะทุกคนมาจากต่างที่ต่างวัฒนธรรม และพร้อมจะแลกเปลี่ยนเรียนรู้ซึ่งกันและกันนั่นเอง

ทางมหาวิทยาลัยยังมีสิ่งอำนวยความสะดวกและการสนับสนุนหลายอย่างให้นักเรียนต่างชาติสามารถหาเพื่อนและใช้ชีวิตได้ง่ายขึ้น ไม่ว่าจะเป็นคลาสเรียนภาษาญี่ปุ่น ที่มีให้เลือกลงตั้งแต่ระดับเริ่มต้นเรียนตัวอักษรไปจนถึงระดับสูงอย่างการเขียนเชิงวิชาการ และการวิเคราะห์วรรณกรรมกันเลยทีเดียว

Tokyo Institute of Technology hub-ics

นอกจากนี้ ยังมีห้อง HUB-ICS ซึ่งเป็นพื้นที่ภาษาอังกฤษให้นักเรียนต่างชาติได้มาทำความรู้จักกัน และยังเป็นการเปิดโอกาสให้นักเรียนชาวญี่ปุ่นได้เข้ามาฝึกฝนภาษาอังกฤษกันด้วย โดยจะมีกิจกรรมรายสัปดาห์ เช่น English Café ให้ผู้เข้าร่วมมาแลกเปลี่ยนกันในประเด็นที่ตัวเองสนใจเป็นภาษาอังกฤษ และ Japanese Café ให้นักเรียนต่างชาติได้เข้ามาฝึกฝนพูดภาษาญี่ปุ่นกับนักเรียนเจ้าของภาษา รวมถึงกิจกรรมที่ให้นำเสนอเรื่องราวเกี่ยวกับประเทศตัวเองและเรียนรู้วัฒนธรรมประเทศอื่นๆ บอกเลยว่าหากใครกลัวเหงา เข้ามาที่นี่ก็จะได้เพื่อนกลับไปแน่นอน

นอกจากคอมมูนิตี้นักเรียนต่างชาติแล้ว ที่ Tokyo Tech ยังมีนักเรียนไทยอยู่กว่า 150 คน ทั้งระดับปริญญาตรี ปริญญาโท และปริญญาเอก ยิ่งการมาเรียนต่างบ้านต่างเมืองทำให้เราโหยหาเพื่อนที่สามารถระบายอะไรให้ฟังในภาษาบ้านเกิดได้มากเท่าไร ก็ยิ่งทำให้มิตรภาพของคนไทยที่นี่เหนียวแน่นกันมากขึ้นเท่านั้น เรียกได้ว่าอยู่กันเหมือนครอบครัวใหญ่ เวลามีปัญหาอะไรก็จะได้พี่น้องชาวไทยนี่แหละที่เข้ามาช่วยเป็นคนแรกๆ เสมอ

โปรแกรมภาษาอังกฤษสำหรับนักเรียนต่างชาติ

มหาวิทยาลัยมีโปรแกรมภาษาอังกฤษสำหรับนักเรียนต่างชาติที่ไม่รู้ภาษาญี่ปุ่น 2 โปรแกรมได้แก่

1. Global Scientists and Engineers Program (GSEP)

Global Scientists and Engineers Program หรือ GSEP เป็นโปรแกรมระดับปริญญาตรีที่มุ่งเน้นการสร้างบุคลากรที่มีความรู้ในหลากหลายแขนง พร้อมที่จะบูรณาการต่อยอดและทำงานร่วมกับผู้คนจากหลากหลายศาสตร์ด้วยวิสัยทัศน์ที่เป็นสากล

โดยแต่ละปีจะเปิดรับนักเรียนจำนวน 10 – 20 คนจากหลากหลายประเทศ จำนวนหนึ่งจะได้รับทุนจากรัฐบาลญี่ปุ่นในการยกเว้นค่าแรกเข้า ค่าเทอมเต็มจำนวน และมีค่าใช้จ่ายในชีวิตประจำวันให้เดือนละ 120,000 เยน ส่วนที่เหลืออาจได้รับการลดหย่อนค่าเทอมครึ่งจำนวน และสามารถยื่นขอทุนอื่นๆ ได้อีกหลังจากเข้ามาเรียนแล้ว ปัจจุบันมีนักเรียนไทยที่เป็นศิษย์เก่าและศิษย์ปัจจุบันรวม 5 รุ่น จำนวนกว่า 30 คน

สำหรับรายละเอียดเพิ่มเติมของโปรแกรมสามารถอ่านเพิ่มเติมได้ ที่นี่

2. International Graduate Program (IGP)

International Graduate Program หรือ IGP เป็นโปรแกรมระดับปริญญาโทขึ้นไป โดยโปรแกรมทั้งหมดจะสอนเป็นภาษาอังกฤษ ให้นักเรียนต่างชาติที่มีความสามารถและความตั้งใจแต่ไม่มีความรู้ภาษาญี่ปุ่นสามารถสมัครได้อย่างไม่ต้องกังวลเรื่องกำแพงภาษา โดยสาขาที่เปิดรับมีหลากหลาย ผู้ที่สนใจสมัครจะต้องส่งอีเมลแนะนำตัวและติดต่อกับอาจารย์ที่ต้องการให้เป็นที่ปรึกษางานวิจัยก่อนสมัคร ผู้สมัครยังสามารถยื่นสมัครทุนเพื่อลดหย่อนค่าเรียนหรือรับค่าใช้จ่ายในชีวิตประจำวันได้อีกด้วย

สำหรับรายละเอียดเพิ่มเติมของโปรแกรมสามารถอ่านเพิ่มเติมได้ ที่นี่

กิจกรรมเด่น: งานเทศกาลประจำปี “โคไดไซ”

Tokyo tech Fes. kodaisai

หากใครเคยดูหรืออ่านการ์ตูนญี่ปุ่นอาจจะพอคุ้นเคยกับภาพของงานเทศกาลโรงเรียนประจำปีอยู่บ้าง ที่ Tokyo Institute of Technology ก็มีงานเทศกาลมหาวิทยาลัยเช่นกัน โดยมีชื่อเฉพาะที่คนในเรียกกันคือ “โคไดไซ (工大祭)” ซึ่งมาจากชื่อย่อมหาวิทยาลัยรวมกับคำว่าเทศกาลนั่นเอง โดยปกติงานจะจัดในช่วงสุดสัปดาห์ของเดือนตุลาคม โดยมหาวิทยาลัยจะให้วันศุกร์ก่อนงานและวันจันทร์หลังงานเป็นวันหยุดเพื่อให้นักเรียนได้เตรียมงานและเก็บกวาดหลังเลิกงาน

kodaisai ซุ้มคนไทย

งาน 2 วันนี้จะเปิดโอกาสให้แต่ละชมรมได้มาออกบูธแนะนำชมรมและทำกิจกรรมร่วมกัน ส่วนชมรมไหนที่มีการแสดง เช่น ชมรมดนตรีต่างๆ ก็มีพื้นที่ให้ได้นำการแสดงมาโชว์ให้คนนอกชมรมได้ชมเช่นกัน

นอกจากนี้ กลุ่มนักเรียนต่างชาติต่างๆ ก็สามารถรวมตัวกันเพื่อออกบูธกันได้ ซึ่งกลุ่มนักเรียนไทยเองก็มีบูธของตัวเอง โดยทุกปีมักเป็นบูธอาหารไทยให้ชาวญี่ปุ่นและชาวต่างชาติได้มาลิ้มลองกัน เรียกได้ว่ามางานนี้งานเดียวจะได้ทั้งชิมอาหารจากทั่วโลก ทำกิจกรรมและเล่นเกมสนุกๆ รวมถึงรับชมการแสดงคุณภาพของนักเรียนหลากหลายกลุ่ม นั่นเป็นเหตุผลให้งานนี้ไม่เพียงแต่ได้รับความนิยมในหมู่นักเรียน แต่ยังเป็นที่สนใจจากเด็กๆ ที่ใฝ่ฝันอยากเข้าเรียนที่นี่ และคนนอกที่อาศัยอยู่ในบริเวณใกล้เคียงมหาวิทยาลัยด้วยเช่นกัน

สำหรับในเชิงวิชาการ ช่วง 2 วันนี้จะเป็นวันที่แต่ละห้องแลปและหน่วยวิจัยเปิดห้องให้บุคคลภายนอกได้เข้ามาทัศนศึกษา และสอบถามข้อสงสัยจากนักเรียนและอาจารย์ได้โดยตรง เรียกได้ว่าเป็นโอกาสดีสำหรับทั้งนักเรียนปัจจุบันที่ยังมองหาหัวข้อวิจัยที่เหมาะกับตน และเหล่านักเรียนมัธยมที่สนใจเข้าเรียนที่นี่อีกด้วย

Tokyo Institute of Technology ในหลายฤดูกาล

Tokyo Tech ยังมีมุมถ่ายรูปสวยๆ หลายมุม ที่บรรยากาศจะเปลี่ยนแปลงไปตามฤดูกาล วันไหนที่อากาศดีก็จะเห็นทั้งนักเรียนและบุคคลภายนอกสะพายกล้องมาเก็บภาพกันจนชินตา วันนี้ tsunagu Local ก็ได้เก็บภาพสวยๆ บางส่วนมาฝากด้วย!

Tokyo Institute of Technology sakura
Tokyo Institute of Technology ฤดูใบไม้ร่วง
Tokyo Institute of Technology ฤดูหนาว
Tokyo Institute of Technology ฤดูหนาว

เป็นอย่างไรบ้างสำหรับมหาวิทยาลัย Tokyo Institute of Technology หรือ Tokyo Tech ที่ได้แนะนำไปในบทความนี้ สำหรับใครที่ชอบสายวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี มีความฝันว่าอยากจะเรียนในมหาวิทยาลัยที่เปิดกว้างและหลากหลาย โดยหวังจะได้ทั้งความรู้ ได้รู้จักเพื่อนๆ และอาจารย์จากทั่วโลก พร้อมได้รับใบปริญญาจากมหาวิทยาลัยระดับแนวหน้าของญี่ปุ่น บอกได้เลยว่าไม่ผิดหวังแน่นอน

ส่วนใครที่อยากหาข้อมูลเกี่ยวกับมหาวิทยาลัยชื่อดังอื่นๆ ในญี่ปุ่นอีกก็สามารถตามไปอ่านบทความแนะนำ“มหาวิทยาลัย Hitotsubashi” มหาลัยสายศิลป์ชื่อดัง และ “มหาวิทยาลัยโทโฮคุ” มหาลัยอันดับ 1 ของญี่ปุ่น กันต่อได้เลย!

เนื้อหาในบทความนี้ อัพเดทล่าสุด ณ วันที่เผยแพร่

Oyraa
1 Shares: