สำหรับคนที่อาศัยอยู่ในญี่ปุ่น การทำความเข้าใจระบบสวัสดิการที่ทั่วถึงของประเทศนี้นับว่าเป็นเรื่องที่สำคัญมาก เพราะเป็นระบบที่ออกแบบมาเพื่อช่วยเหลือทุกคน ไม่ว่าจะเป็นคนญี่ปุ่นหรือชาวต่างชาติ โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากคุณวางแผนที่จะแต่งงานมีลูกกับคนญี่ปุ่น ที่นี่มีสวัสดิการสำคัญๆ หลายอย่างที่คุณสามารถขอรับได้อย่างง่ายดาย หากอยากรู้ว่ามีอะไรบ้างก็ไปตามดูกันเลย!
ประเทศญี่ปุ่นมีสวัสดิการและเงินอุดหนุนหลากหลายประเภทให้กับทุกคนแบบที่เรียกได้ว่า แทบในทุกช่วงวัยของชีวิต ตั้งแต่เกิดจนตาย
อัตราการเกิดที่น้อยในประเทศญี่ปุ่นเป็นปัญหาสังคมที่รู้กันอย่างกว้างขวาง ต้นเหตุของปัญหานี้มาจากการที่ผู้คนจำนวนมากเลือกที่จะอยู่เป็นโสดและไม่มีลูก คนหนุ่มสาวที่เลือกจะไม่แต่งงานมีมากขึ้นเรื่อยๆ และถึงแม้จะแต่งงานก็ไม่ค่อยอยากมีลูกกัน
จากการสำรวจอัตราการเกิดของประชากรญี่ปุ่นที่จัดทำโดยสถาบันวิจัยด้านประชากรและความมั่นคงทางสังคมแห่งชาติ ทำให้เราทราบว่าอุปสรรคชิ้นสำคัญที่ทำให้ 40% ของชายและหญิงโสดวัย 18 – 34 ปี เลือกที่จะไม่แต่งงาน คือ ภาระค่าใช้จ่าย ส่งผลให้คนจำนวนมาก (ชาย 21.2% หญิง 15.3%) เลิกคิดที่จะแต่งงานไปโดยปริยาย เพื่อแก้ไขปัญหานี้ ญี่ปุ่นจึงได้ออกมาตรการสวัสดิการช่วยเหลือดังต่อไปนี้ขึ้นมา:
เงินช่วยเหลือคู่บ่าวสาวอายุน้อย
เพื่อส่งเสริมการแต่งงานและการมีลูกของคนหนุ่มสาว ในปี 2018 รัฐบาลญี่ปุ่นได้ออกมาตรการเงินช่วยเหลือตามพื้นที่เพื่อหวังจะกระตุ้นอัตราการเกิดของประชากรญี่ปุ่น คู่รักที่มีอายุต่ำกว่า 34 ปี ณ วันที่แต่งงาน สามารถขอรับเงินสนับสนุนสำหรับจัดงานแต่งงานและเริ่มชีวิตใหม่ได้ คู่บ่าวสาวที่มีรายได้ต่อปีรวมกันไม่ถึง 3.4 ล้านเยน (หลังหักภาษีแล้ว) จะสามารถขอรับเงินอุดหนุนได้สูงสุดถึง 300,000 เยน สำหรับนำไปซื้อหรือเช่าบ้าน รวมถึงมีการสนับสนุนค่าใช้จ่ายในการย้ายบ้านด้วย เงินในส่วนนี้แม้แต่ผู้ที่ไม่ได้แต่งงานเป็นครั้งแรกก็สามารถขอได้ หากคู่บ่าวสาวยังไม่เคยได้รับเงินส่วนนี้มาก่อน
อีกเรื่องหนึ่งที่ควรทราบไว้ คือ ระบบสวัสดิการดังกล่าวนี้ยังไม่ครอบคลุมทั่วญี่ปุ่น ปัจจุบันระบบนี้ครอบคลุมแค่เพียง 257 เมืองจาก 1,724 เมืองทั่วญี่ปุ่นเท่านั้น คุณสามารถขอรับคำปรึกษาหรือรายละเอียดเพิ่มเติมได้จากหน่วยงานรัฐในพื้นที่ของคุณ
เงินช่วยเยียวยาภาวะมีบุตรยาก
หากฝ่ายใดผ่ายหนึ่งเป็นหมันหรือมีบุตรยาก อาจจำเป็นต้องมีการเยียวยาต่างๆ เช่น ทำเด็กหลอดแก้ว หรือช่วยปฏิสนธิ ในกรณีดังกล่าว รัฐจะมีเงินช่วยเหลือเพิ่มเติมให้ 150,000 เยน ซึ่งสามารถขอรับได้ปีละ 2 ครั้ง เนื่องจากประกันสุขภาพในญี่ปุ่นไม่ครอบคลุมกระบวนการเหล่านี้
เงินช่วยเหลือกรณีลาคลอด เพื่อสนับสนุนให้ผู้หญิงวัยทำงานจัดการงานและชีวิตครอบครัวได้อย่างสมดุล
ญี่ปุ่นมีระบบสวัสดิการการคลอดและเลี้ยงดูบุตรที่ค่อนข้างจะพัฒนาแล้ว ซึ่งรวมถึงผลประโยชน์ที่ดีคุณสำหรับคุณแม่มือใหม่ในวัยทำงานมากๆ
ระยะเวลาในการลาคลอดของญี่ปุ่นอยู่ที่ 98 วัน ซึ่งรวมถึง 6 สัปดาห์ก่อนคลอดและ 8 สัปดาห์หลังคลอด หากบริษัทปฏิเสธที่จะจ่ายเงินเดือนให้ในช่วงที่ลาหยุด ก็สามารถไปขอรับเงินอุดหนุนจากรัฐเป็นจำนวน 2 ใน 3 ของเงินเดือนได้ และหากทางบริษัทจ่ายเงินให้แต่ไม่ถึงจำนวนที่กำหนดไว้ รัฐก็จะช่วยทดแทนในส่วนที่ขาดนี้ให้กับคุณ
เงินช่วยเหลือกรณีลางานเพื่อเลี้ยงดูบุตร เพื่อสนับสนุนให้มีลูกหลายคน
หลังหมดช่วงลาคลอด พ่อแม่มือใหม่สามารถขอลางานเพื่อไปเลี้ยงลูกได้ นับตั้งแต่หมดระยะการลาคลอดจนถึงวันที่ทารกอายุครบ 1 ขวบเป็นครั้งแรก คนเป็นแม่สามารถรับเงินอุดหนุนเป็นจำนวน 67% ของเงินเดือนในขณะที่ลางานมาเลี้ยงดูลูกในช่วง 180 วันแรก และจากนั้นก็จะลดเหลือ 50% สำหรับช่วงเวลาที่เหลือ พ่อที่ลางานมาเลี้ยงลูกก็สามารถขอรับเงินในส่วนนี้ได้เช่นกัน โดยจะได้รับเป็นจำนวน 50% ของเงินเดือน ตัวอย่างเช่น พ่อที่มีเงินเดือน 8,000 เยนต่อวัน จะได้รับเงินอุดหนุนประมาณ 1.2 ล้านเยนหากลาเป็นระยะเวลา 10 เดือน ผู้ที่มีเงินเดือนสูงกว่านี้ก็จะได้รับเงินอุดหนุนที่มากขึ้นตามไปด้วย โดยมีจำนวนสูงสุดอยู่ที่ 215,000 เยนต่อเดือน
นอกจากนี้ รัฐบาลญี่ปุ่นยังให้เงินอุดหนุนในการเลี้ยงดูลูกแบบรายเดือนให้กับครอบครัวที่มีเด็กอายุต่ำกว่า 12 ปีด้วย โดยอยู่ภายใต้เงื่อนไขว่าจะต้องเป็นครอบครัวที่มีรายได้ในครัวเรือนไม่ถึงจำนวนขั้นต่ำที่กำหนดไว้ (ประมาณ 8 ล้านเยน ในกรณีที่ไม่มีญาติพี่น้องที่ต้องดูแล) เงินอุดหนุนรายเดือนที่ทางรัฐจะจ่ายให้ต่อเด็ก 1 คน มีรายละเอียดดังนี้:
0 – 3 ขวบ: 15,000 เยนต่อคน
3 ขวบ – จบชั้นประถม: 10,000 เยนสำหรับลูกคนแรก 10,000 เยนสำหรับลูกคนที่ 2 และ 15,000 เยนสำหรับลูกคนที่ 3 ขึ้นไป
เด็กวัยมัธยมต้น: 10,000 เยน
เงินก้อนช่วยเหลือการคลอดบุตร เพื่อสิ่งเสริมการตั้งครรภ์
บรรดาแม่ๆ ในญี่ปุ่นสามารถขอรับเงินอุดหนุน 420,000 เยนได้หลังคลอดลูก ในกรณีที่เป็นลูกแฝด จำนวนเงินก็จะเพิ่มขึ้นเท่าตัวเป็น 840,000 เยน เงินอุดหนุนนี้มีชื่อว่า เงินก้อนมอบเพื่อช่วยเหลือการคลอดและเลี้ยงดูบุตร ไม่ว่าจะเป็นคนสัญชาติใดก็สามารถขอรับได้หากคุณอาศัยอยู่ในญี่ปุ่นและมีคุณสมบัติตรงตามเกณฑ์ดังต่อไปนี้:
1. เข้าร่วมในแผนประกันสุขภาพ ไม่ว่าจะเป็นของรัฐหรือผู้ว่าจ้าง
2. ตั้งครรภ์เป็นเวลานานกว่า 85 วัน (ถึงแม้ว่าการตั้งครรภ์จะจบลงด้วยการแท้ง คลอดก่อนกำหนด ทารกเสียชีวิตระหว่างคลอด หรือการแท้งโดยประสงค์ก็ตาม)
เงินจำนวนนี้สามารถโอนเข้าธนาคารโดยตรงเพื่อรองรับค่าใช้จ่ายที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต หรือจะโอนเข้าบัญชีโดยตรงเพื่อนำไปชำระค่าใช้จ่ายย้อนหลังก็ได้ สำหรับผู้ที่เข้าร่วมแผนประกันสุขภาพกับฝ่ายผู้ว่าจ้าง เงินอุดหนุนในส่วนนี้ก็อาจมีจำนวนมากขึ้นได้อีก
เงินส่งเสริมพิเศษ เพื่อสนับสนุนการคลอดบุตร
บางพื้นที่ในญี่ปุ่นยังมีมาตรการกระตุ้นเพิ่มเติมเพื่อส่งเสริมการมีบุตรด้วย โดยส่วนใหญ่จ่ายเป็นเงินสดซึ่งจะมีจำนวนแตกต่างกันไปในแต่ละพื้นที่ เริ่มตั้งแต่ 10,000 เยนไปจนถึง 1 ล้านเยน ตัวอย่างเช่น จังหวัดฟุกุชิมะโจในเกาะฮอกไกโดจะมอบเงินสนับสนุนให้ผู้อยู่อาศัยเป็นจำนวน 50,000 เยนสำหรับลูกคนแรก 200,000 เยนสำหรับลูกคนที่สอง และ 1 ล้านเยนสำหรับลูกคนที่สาม
ในกรณีนี้ 30% ของเงินที่ได้รับจะมาในรูปของคูปองที่สามารถใช้ได้ในพื้นที่เท่านั้น เราแนะนำให้คุณลองเช็กจากหน่วยงานรัฐในพื้นที่ของคุณว่ามีมาตรการกระตุ้นเหล่านี้หรือไม่
เงินช่วยเหลือค่าเลี้ยงดูอื่นๆ สำหรับพ่อแม่เลี้ยงเดี่ยวและครอบครัวที่ขาดแคลน
นอกจากผลประโยชน์ต่างๆ ข้างต้น ยังมีเงินอุดหนุนอื่นๆ ที่มอบให้กับพ่อแม่เลี้ยงเดี่ยวด้วย มีเงินช่วยเหลือรายเดือนหลากหลายระดับ ตั้งแต่ 40,000 ไปจนถึง 60,000 เยน สำหรับลูกคนแรก คนที่สอง และคนที่สามไปจนกว่าจะมีอายุ 18 ปี ส่งผลให้ผู้ที่เลี้ยงลูกด้วยตัวเองในญี่ปุ่นไม่จำเป็นต้องกังวลเรื่องค่าใช้จ่ายอะไรมากนัก
นอกจากเงินช่วยเหลือขั้นพื้นฐานนี้แล้ว เด็กวัยเรียนที่มาจากครอบครัวที่มีรายได้น้อยยังสามารถเข้าร่วมมาตรการช่วยเหลือเพื่อลดค่าเทอมและค่าใช้จ่ายอื่นๆ ได้ และในส่วนของครอบครัวที่มีเด็กทุพพลภาพ ก็สามารถขอรับเงินช่วยเหลือค่าเลี้ยงดูพิเศษอีก 33,800 เยนต่อเดือนสำหรับคนที่อาการไม่หนักมาก และ 50,750 เยนต่อเดือนสำหรับคนที่อาการค่อนข้างหนัก
โบนัส: รางวัลสำหรับการเป็นพ่อสื่อแม่สื่อ
“ค่าตอบแทนพ่อสื่อแม่สื่อ” เป็นระบบที่น่าสนใจที่ถูกนำมาใช้ในพื้นที่ชนบทบางแห่งของญี่ปุ่น ปัจจุบันคนหนุ่มสาวไม่ค่อยอยากอาศัยอยู่ตามชนบทหรือสถานที่ที่ห่างไกลจากเมืองใหญ่ เมื่อเข้าสู่วัยพึ่งพาตัวเอง คนหนุ่มสาวหลายคนจึงเดินทางออกจากบ้านเกิดไปอยู่ในเมือง ส่งผลให้เกิดความไม่สมดุลของจำนวนประชากรในญี่ปุ่น รวมถึงการถดถอยของธุรกิจในพื้นที่ชนบท สำหรับย่านชนบทที่ประสบปัญหาการลดลงของประชากรเช่นนี้ เป็นเรื่องยากมากที่จะแนะนำชาย – หญิงที่อยากแต่งงานให้รู้จักกัน บางเมืองจึงมีนโยบายมอบเงินค่าตอบแทนให้กับคนที่เป็นพ่อสื่อแม่สื่อ ซึ่งมีตั้งแต่ 50,000 ไปจนถึง 200,000 เยน
ตัวอย่างหนึ่งของระบบนี้ คือ หมู่บ้านทาเคโคซุเกะในจังหวัดยามานาชิ ตั้งอยู่ที่ต้นสายของแม่น้ำทามะและห้อมล้อมไปด้วยภูเขา ใกล้กับบริเวณโอคุทามะของโตเกียว ในหมู่บ้านที่ตั้งอยู่ในระดับความสูงเดียวกับโตเกียวสกายทรีนี้ พ่อสื่อแม่สื่อที่ประสบความสำเร็จในการจับคู่คนหนุ่มสาวในหมู่บ้าน จะสามารถขอรับเงินรางวัล 200,000 เยนจากทางรัฐบาลได้ โดยมีเงื่อนไขว่าหนุ่มสาวคู่นั้นต้องมีความประสงค์ที่จะอาศัยอยู่ในหมู่บ้านอย่างถาวร ดังนั้นเงินรางวัลนี้จึงอาจไม่ง่ายอย่างที่คุณคิดก็ได้!
เนื้อหาในบทความนี้ อัพเดทล่าสุด ณ วันที่เผยแพร่