ญี่ปุ่นเริ่มนโยบาย “คิดเงินค่าถุงพลาสติก” ทั่วประเทศเมื่อวันที่ 1 กรกฎาคม 2020 เรื่องนี้จะส่งผลกับการใช้จ่ายของเราอย่างไร? และจะช่วยรักษาสภาพแวดล้อมได้จริงหรือ? ในบทความนี้จะพาไปดูข้อดีข้อเสียของการคิดเงินค่าถุงพลาสติกที่มีต่อชีวิตประจำวันของพวกเรากัน
ญี่ปุ่นเริ่มนโยบาย “คิดเงินค่าถุงพลาสติก” พร้อมกันทั่วประเทศในวันที่ 1 กรกฎาคม 2020
ปัจจุบันมีแนวคิด “ลดใช้พลาสติก” แพร่หลายไปทั่วโลกโดยมีจุดมุ่งหมายเดียวกันคือเพื่อรักษาสิ่งแวดล้อม ส่งผลให้กว่า 60 ประเทศจากทั่วโลกส่งเสริมการลดใช้ถุงพลาสติกตามร้านค้า หรือไม่ก็นำนโยบายคิดเงินค่าถุงพลาสติกเข้ามาใช้
จนในที่สุดเมื่อวันที่ 1 กรกฎาคม 2020 นี้ ญี่ปุ่นก็ได้เริ่มนโยบายคิดเงินค่าถุงพลาสติก โดยมีผลบังคับใช้กับร้านค้าเล็กใหญ่ทั่วประเทศ ทำให้ไม่มีการแจกถุงพลาสติกฟรีอีกต่อไป ทางเลือกสำหรับพวกเราคือ หากไม่จ่ายเงินเพื่อขอรับถุงพลาสติกแล้ว ก็จำเป็นต้องพกถุงผ้าหรือถุงพลาสติกมาเอง
นโยบายนี้เป็นไปเพื่อการลดพลาสติกเพื่อช่วยแก้ไขปัญหาสิ่งแวดล้อม แม้รอบตัวเราจะมีการใช้สินค้าพลาสติกอยู่มากมาย ไม่ว่าจะเป็นขวดน้ำหรือภาชนะใส่อาหาร แต่สิ่งแรกที่ควรหันกลับมามองคือพฤติกรรมการใช้ของใกล้ตัวอย่างถุงพลาสติก ซึ่งเป็นสิ่งที่ผู้อาศัยอยู่ในญี่ปุ่นทุกคนถูกเรียกร้องให้ใส่ใจกันมากขึ้น
ถุงพลาสติกหนึ่งใบคิดราคาเท่าไหร่? มาลองเปรียบเทียบจากร้านค้าใกล้ตัวเรากัน
ร้านสะดวกซื้อ
หนึ่งในสถานที่ที่เราใช้บริการบ่อยครั้งคงไม่พ้น ร้านสะดวกซื้อต่างๆ คงมีหลายคนที่อยากทราบราคาถุงพลาสติกของร้านเหล่านี้ ด้านล่างนี้เป็นราคาของสามบริษัทใหญ่ที่เราได้ยกมาเปรียบเทียบให้ดูกัน จะเห็นได้ว่ามีราคาอยู่ที่ประมาณ 3 เยน
– 7-Eleven: 3 เยนสำหรับไซส์ S, M, L, และไซส์กล่องข้าว, 5 เยนสำหรับไซส์ LL
– Lawson: ทุกไซส์ 3 เยน
– FamilyMart: ทุกไซส์ 3 เยน
ซูเปอร์มาร์เก็ต
สถานที่ที่ขาดไม่ได้ในการหาซื้อของกิน ของสด ด้านล่างนี้คือราคาถุงพลาสติกของสามซูเปอร์มาร์เก็ตรายใหญ่ที่มีสาขาอยู่ทั่วญี่ปุ่น ในกรณีที่ต้องซื้อของกินมาตุนไว้ คงหลีกเลี่ยงไม่ได้ที่จะต้องซื้อถุงไซส์ใหญ่ที่มีราคา 5 เยน
– AEON: ไซส์ M 2 เยน, ไซส์ L 3 เยน, ไซส์ LL 5 เยน (ไม่รวมภาษี)
– Ito-Yokado: ไซส์ S/M 3 เยน, ไซส์ L/LL 5 เยน
– Seiyu: ไซส์ข้าวกล่อง 2-5 เยน, ไซส์ของกินอื่นๆ 5 เยน
ร้านขายยา
ร้านขายยาจำหน่ายสินค้ามากมายที่จำเป็นต่อชีวิตประจำวัน มีตั้งแต่ของชิ้นเล็กๆ อย่างยาและเครื่องสำอาง ไปจนถึงของชิ้นใหญ่ๆ อย่างกระดาษชำระ น้ำยาทำความสะอาด และยาสระผม ทำให้มีถุงพลาสติกให้บริการในหลายขนาด หากซื้อของที่มีขนาดใหญ่ก็จะทำให้ต้องใช้ถุงพลาสติกมีราคาสูงขึ้นไปด้วย
– Matsumotokiyoshi: ไซส์ S 3 เยน, ไซส์ LLL 10 เยน
– cocokara fine: ไซส์ M 3 เยน, ไซส์ L 5 เยน, ไซส์ LL 10 เยน
– Sugi Pharmacy: ไซส์ SS 2 เยน, ไซส์ S 3 เยน, ไซส์ L 5 เยน
ข้อดีของการคิดเงินค่าถุงพลาสติกที่มีต่อชีวิตประจำวันของเรา
นโยบายคิดเงินค่าถุงพลาสติกที่นำเข้ามาใช้นี้ นอกจากจะส่งผลดีต่อสภาพแวดล้อมแล้ว จะส่งผลดีต่อชีวิตประจำวันของเราอย่างไรบ้างนะ?
หากไม่รับถุงพลาสติกจะได้รับ Eco Point สุดคุ้ม!
การปฏิเสธถุงพลาสติกอาจทำให้คุณได้รับของสมนาคุณสุดคุ้ม ตัวอย่างเช่นในกรณีของร้านสะดวกซื้อรายใหญ่อย่าง FamilyMart ได้ออกนโยบาย “FaMi eco vision 2050” เพื่อเป็นส่วนหนึ่งในการช่วยรักษาสิ่งแวดล้อม โดยผู้ที่ปฏิเสธถุงพลาสติกจะได้รับ Eco Point ใส่ในแอปชำระเงินของทางร้านที่ชื่อ “FamiPay” แต้มนี้เมื่อสะสมครบถึงระดับหนึ่ง ก็จะสามารถนำไปใช้เป็นคูปองแลกสินค้าที่กำหนดไว้ได้
ช่วยลดขยะที่เกิดจากถุงพลาสติก
เมื่อลดการใช้ถุงพลาสติกลงก็จะทำให้ขยะลดลงไปด้วยโดยปริยาย หากดูจากการประเมินของกระทรวงสิ่งแวดล้อม ก็จะพบว่าในบรรดาขยะพลาสติกที่ญี่ปุ่นสร้างขึ้นตลอด 1 ปี มีประมาณ 2-3% ที่เป็นถุงพลาสติก แม้ว่าจะเป็นตัวเลขที่ไม่มากนัก แต่ก็อาจจะเป็นก้าวเล็กๆ ที่ช่วยผลักดันการลดขยะพลาสติกก็เป็นได้
ช่วยลดปริมาณการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์
ก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ที่ปล่อยออกมาในขั้นตอนการผลิตและทำลายผลิตภัณฑ์พลาสติกอย่างถุงพลาสติกนั้น กล่าวกันว่าเป็นสาเหตุหลักของภาวะโลกร้อนเลยทีเดียว ปัจจุบันจึงเป็นหนึ่งปัญหาสิ่งแวดล้อมที่ถูกให้ความสำคัญมากที่สุด
แม้ว่าจะมีการคำนวณต่างๆ เกิดขึ้นมากมาย แต่หากดูตามผลสำรวจของกระทรวงสิ่งแวดล้อมแล้ว ก็จะพบว่าการลดถุงพลาสติก 1 ใบสามารถลดก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ได้ 61 กรัม ในกรณีที่แต่เดิมเคยใช้ถุงพลาสติกวันละใบ ใน 1 ปีก็จะสามารถลดก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ได้ถึง 22 กิโลกรัมเลยทีเดียว
ภาวะโลกร้อนถือเป็นภัยที่ส่งผลกระทบต่อชีวิตประจำของเรา ไม่ว่าจะเป็นเรื่องสภาพอากาศที่แปรผัน หรือสัตว์และพืชพรรณต่างๆ ที่กำลังมีความเสี่ยงที่จะสูญพันธุ์ไป จึงไม่ควรลืมว่าการลดถุงพลาสติกนั้น เปรียบเสมือนก้าวหนึ่งในการช่วยปกป้องโลกของเรา
ช่วยป้องกันมลพิษทางทะเล
ปัญหามลพิษทางทะเลเป็นต้นเหตุที่ทำให้เกิดการเสื่อมถอยของภูมิทัศน์ริมทะเล รวมถึงการที่สัตว์ทะเลและนกกินขยะเข้าไปโดยบังเอิญ เพื่อเป็นการแก้ไขปัญหานี้ นอกเหนือจากการทิ้งขยะไม่เป็นที่แล้ว การลดการใช้งานผลิตภัณฑ์พลาสติกก็เป็นเรื่องจำเป็นเช่นกัน หากปราศจากความร่วมมือของเราทุกคน ปัญหามลพิษทางทะเลก็ไม่อาจจะแก้ไขได้
ช่วยส่งเสริมความเอาใจใส่ในการรักษาสภาพแวดล้อม
การเริ่มปฏิบัติจากสิ่งที่เราทำได้ในชีวิตประจำวันนับว่าเป็นก้าวแรกสู่การปกป้องโลกของเรา นโยบายคิดเงินค่าถุงพลาสติกที่นำเข้ามาใช้ในครั้งนี้ช่วยเพิ่มความเอาใจใส่ต่อสิ่งแวดล้อม และอาจเป็นจุดเปลี่ยนช่วยให้เราหันกลับมาทบทวนไลฟ์สไตล์ของตัวเองก็เป็นได้
จะเห็นได้ว่าการคิดเงินค่าถุงพลาสติกนั้นเป็นก้าวแรกสู่การรักษาสภาพแวดล้อมของโลกอย่างไม่ต้องสงสัย ปัญหาระบบนิเวศอาจไม่ใช่สิ่งที่ทุกคนสามารถสัมผัสได้ในชีวิตประจำวัน แต่การเริ่มปฏิบัติจากเรื่องเล็กๆ น้อยๆ และเพิ่มความเข้าใจต่อการรักษาสภาพแวดล้อมนั้น นับว่าเป็นสิ่งที่จำเป็นต่อการปกป้องโลกของเราอย่างแน่นอน
ข้อเสียของการคิดเงินค่าถุงพลาสติก
อีกด้านหนึ่ง มาดูกันว่าการคิดเงินค่าถุงพลาสติกนี้จะส่งผลเสียอะไรบ้างกับชีวิตประจำวันของเรา
ภาระต่อเศรษฐกิจภาคครัวเรือน – การซื้อถุงสำหรับใช้ซ้ำและถุงสำหรับทิ้งขยะ
เมื่อจำเป็นต้องจ่ายเงินเพื่อถุงพลาสติก คงมีหลายคนที่หันมาซื้อถุงประเภทต่างๆ ที่สามารถใช้ซ้ำได้แทน แม้จะสามารถหาซื้อได้ในราคาที่ไม่แพงมาก แต่ก็ถือเป็นรายจ่ายอย่างหนึ่งอยู่ดี
นอกจากนี้ หลายคนที่เคยนำถุงพลาสติกที่แจกฟรีมาใช้เป็นถุงใส่ขยะ ก็ยังต้องเสียเงินซื้อถุงขยะเพิ่มอีกด้วย ทั้งในกรณีที่ลืมนำถุงผ้าติดตัวมา หรือเกิดอยากซื้อของขึ้นมาโดยไม่ได้วางแผนไว้ก่อน ก็จำเป็นต้องจ่ายเงินเพื่อขอรับถุงพลาสติกอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ แม้ว่าแต่ละครั้งจะเป็นจำนวนเงินที่ไม่ได้มากมายอะไรนัก แต่ก็อาจส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจครัวเรือนได้
ความจำเป็นในการดูแลรักษาความสะอาดของถุงสำหรับใช้ซ้ำ
เมื่อใช้ถุงซ้ำๆ ไปนานๆ เข้า ก็อาจเกิดสิ่งสกปรกและแบคทีเรียได้ เนื่องจากน้ำจากปลาหรือเนื้อสัตว์ หรือดินจากผักต่างๆ อาจจะเปื้อนถุงโดยที่เราไม่รู้ตัว การให้ความสำคัญกับความสะอาดจึงเป็นเรื่องจำเป็นอย่างยิ่ง วิธีรักษาความสะอาดถุงใช้ซ้ำมีดังนี้
– ล้างทำความสะอาดบ่อยๆ
– ใส่เนื้อสัตว์ ปลา และผัก ลงในถุงเล็กอีกชั้น
– แยกของเย็นกับของร้อนออกจากกัน
– แยกเป็นถุงสำหรับใส่อาหารและถุงสำหรับสินค้าทั่วไป
– ไม่ควรใส่อาหารไว้ในถุงนานจนเกินไป
การคิดเงินค่าถุงพลาสติกนั้นสร้างภาระให้กับผู้บริโภคอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ การเปลี่ยนแปลงของถุงพลาสติกซึ่งเป็นสิ่งใกล้ตัวนี้ อาจทำให้เราจำเป็นต้องเปลี่ยนไลฟ์สไตล์ไปเลยก็ได้
ถุงสำหรับใช้ซ้ำยอดนิยมในญี่ปุ่น! สวยงาม ใช้งานสะดวก
ถุงใช้ซ้ำรุ่นลิมิเต็ดขายเฉพาะในญี่ปุ่นของ LeSportsac
ถุงหูหิ้วรุ่นลิมิเต็ดสำหรับประเทศญี่ปุ่นโดยเฉพาะจาก LeSportsac แบรนด์กระเป๋าที่มีต้นกำเนิดอยู่ที่นิวยอร์ก เนื่องจากทำด้วยวัสดุที่คงทนและน้ำหนักเบา จึงสามารถใช้ซ้ำหลายๆ ครั้งได้ อีกทั้งยังมาพร้อมกับกระเป๋าซิป จึงสามารถพับเก็บและพกพาได้โดยไม่กินพื้นที่ มีให้เลือกด้วยกันทั้งหมด 4 สี ซึ่งล้วนแต่เป็นสีสบายๆ ที่เข้ากับของอื่นๆ ได้ง่ายทั้งนั้น
ราคา: 5,000 เยน (ไม่รวมภาษี)
กระเป๋าพับเก็บได้ของ Shupatto พร้อมลวดลายสไตล์ญี่ปุ่นแสนน่ารัก!
“กระเป๋าพับได้ Shupatto” รุ่นลายสไตล์ญี่ปุ่น สวยทั้งดีไซน์และใช้ง่ายสุดๆ ตกแต่งด้วยลวดลายญี่ปุ่นๆ อย่างซากุระ เทมาริ (ลูกบอลที่ใช้ในการละเล่นของญี่ปุ่น) และพัดญี่ปุ่น เป็นสินค้าชั้นดีที่พับเก็บได้เพียงแค่ดึงมุมทั้งสองด้านออกจากกัน เนื่องจากเป็นอุปกรณ์ที่ต้องใช้อยู่ทุกวัน จึงนับว่าเป็นเรื่องดีมากที่ไม่มีขั้นตอนยุ่งยากใดๆ ในการเก็บ การดีไซน์ที่ทำให้เห็นของภายในได้ยากก็เป็นจุดขายอีกอย่างหนึ่งเช่นกัน
ราคา: 1,980 เยน (ไม่รวมภาษี)
เดนิมฟุโรชิกิจากแบรนด์ Miyai พร้อมแฟชั่นดีไซน์หรู
ฟุโรชิกิ หมายถึงผ้าที่ห่อสิ่งของเพื่อการพกพาหรือเก็บรักษา ญี่ปุ่นใช้ฟุโรชิกิเป็นเครื่องมือในการห่อมาแต่โบราณ และสามารถนำมาประยุกต์ใช้เป็นถุงผ้าสวยๆ ได้เช่นกัน
“เดนิมฟุโรชิกิ” วางจำหน่ายโดยบริษัท Miyai (宮井) ทำขึ้นโดยใช้ผ้าเดนิมเลื่องชื่อของเมืองคุราชิกิในจังหวัดโอคายาม่า ยิ่งใช้ไปเรื่อยๆ เอกลักษณ์ของผ้าเดนิมก็จะยิ่งเด่นชัดขึ้น เนื่องจากถุงผ้าเป็นของที่ต้องใช้อยู่ทุกวันดังนั้นเรื่องสไตล์ของถุงก็เป็นเรื่องที่ต้องใส่ใจเช่นกัน
สามารถหาซื้อได้ที่ร้าน Mitsukoshi สาขาหลักนิฮงบาชิ บนชั้น 4 หรือสั่งผ่านทางออนไลน์ หากซื้อที่หน้าร้านจะมีการสอนวิธีพับฟุโรชิกิให้ด้วยนะ
ราคา: 15,950 เยน
การนำนโยบาย “คิดเงินค่าถุงพลาสติก” เข้ามาใช้ ทำให้เกิดผลกระทบต่อวิถีชีวิตของเราอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ สิ่งสำคัญก็คือควรให้ความสำคัญกับสิ่งแวดล้อมไปพร้อมๆ กับเลือกใช้งานถุงพลาสติกและถุงผ้าให้เข้ากับไลฟ์สไตล์ของเราเองจริงไหมคะ
เนื้อหาในบทความนี้ อัพเดทล่าสุด ณ วันที่เผยแพร่