เหตุผล 10 ข้อ ทำไมถึงควรมาเรียนต่อที่ญี่ปุ่น ??

shutterstock_229824850-scaled
คุณเคยคิดที่อยากจะมาเรียนต่อต่างประเทศหรือไม่? ในการมาเรียนต่อต่างประเทศที่ญี่ปุ่นนั้นมีเสน่ห์มากมายที่ไม่อาจหาได้จากที่อื่น หากคุณได้อ่านเหตุผลเหล่านี้แล้วอาจจะทำให้คุณอยากมาเรียนต่อที่ประเทศญี่ปุ่นขึ้นมาก็เป็นได้
Oyraa

1. คุณจะได้รับการศึกษาในระดับชั้นนำของโลก

s_1

ประเทศญี่ปุ่นมีมหาวิทยาลัยอยู่หลายแห่งและหลายสาขาวิชา คุณจะได้รับการศึกษาแบบระดับชั้นแนวหน้าของโลกโดยสถาบันที่ผลิตบุคลากรออกไปสู่สากลแล้วมากมายหลายท่าน ตัวอย่างเช่น บุคลากรที่ได้รับรางวัลโนเบลซึ่งมาจากกลุ่มประเทศที่ไม่ใช่สหรัฐอเมริกาและยุโรปถึง 22 คน นอกจากนี้ ยังมีถึง 17 คนที่ได้รับรางวัลในสาขาฟิสิกส์ เคมี และการแพทย์ด้วย

s_2

ญี่ปุ่นไม่ได้มีเพียงมหาวิทยาลัยเท่านั้น แต่ยังมีวิทยาลัยและโรงเรียนที่สอนเกี่ยวกับอาชีพเฉพาะทางอีกมากมายหลายแห่ง เป็นตัวเลือกสำหรับคนที่ต้องการศึกษาสาขาวิชาที่คนสนใจได้อย่างลึกซึ้งและกว้างขวาง

นอกจากนี้ การมาศึกษาในประเทศญี่ปุ่นยังเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุดสำหรับคนที่ต้องการจะฝึกฝนและพัฒนาภาษาญี่ปุ่นด้วย

2. ค่าใช้จ่ายไม่แพงอย่างที่คิด

pixta_14805410_S

สำหรับนักศึกษาในกลุ่มประเทศเอเชีย เมื่อเทียบกับค่าใช้จ่ายในการศึกษาต่อในประเทศทางยุโรปและสหรัฐอเมริกาแล้วจะถือว่าถูกกว่า อีกทั้งนักศึกษาต่างชาติยังสามารถทำงานพิเศษในประเทศญี่ปุ่นเพื่อเก็บเงินเป็นค่าเล่าเรียนและค่าใช้จ่ายในชีวิตประจำวันได้ด้วย งานพิเศษของที่นี่มีให้เลือกมากมาย และหากคุณเลือกทำในสิ่งที่คุณสนใจหรือชื่นชอบแล้วล่ะก็ บอกเลยว่าจะต้องมีประโยชน์ต่อการทำงานในอนาคตของคุณแน่ๆ

3. ได้มีเพื่อนเป็นชาวญี่ปุ่น

s_pixta_16136999_XL

นักศึกษาชาวญี่ปุ่นในมหาวิทยาลัยส่วนใหญ่จะเป็นมิตรกับนักศึกษาต่างชาติ และทางมหาวิทยาลัยเองก็อยากให้นักศึกษาต่างชาติคุ้นเคยกับชีวิตนักศึกษาของที่นี่โดยเร็ว จึงมักจะมีการจัดกิจกรรมแลกเปลี่ยนความสัมพันธ์และกิจกรรมอื่นๆ ร่วมกับนักศึกษาชาวญี่ปุ่นอยู่เสมอ

เราสามารถดูมหาวิทยาลัยเคโอ (Keio University) เป็นตัวอย่างได้ ที่นี่ไม่มีการแยกคณะหรือสาขาการเรียนสำหรับนักศึกษาต่างชาติโดยเฉพาะ แต่ให้นักศึกษาจากทุกประเทศมาเรียนในคณะหรือสาขาเดียวกับชาวญี่ปุ่น อีกทั้งยังมีการจัดกิจกรรมแลกเปลี่ยนความสัมพันธ์กับนักศึกษาชาวญี่ปุ่นมากกว่าที่อื่นด้วย ถือว่าเหมาะกับคนที่ชอบทำกิจกรรมแลกเปลี่ยนมากๆ เลยล่ะ

4.เปิดโลกวัฒนธรรมของ “เซอร์เคิล” ในญี่ปุ่น

s_pixta_7041985_L

มหาวิทยาลัยญี่ปุ่นจะมีวัฒนธรรมที่เรียกว่า “เซอร์เคิล” อยู่ เป็นการรวมตัวของกลุ่มนักศึกษาที่มีความสนใจเหมือนๆ กัน เมื่อเทียบกับ “ชมรม” ทั่วไปแล้ว เซอร์เคิลจะให้ความสำคัญเรื่องความสัมพันธ์และการสื่อสารระหว่างนักศึกษามากกว่า

โดยทั่วไปแล้ว เซอร์เคิลจะมีการแบ่งเป็นเซอร์เคิลกีฬา (เช่น เทนนิส ฟุตบอล คาราเต้) และเซอร์เคิลวัฒนธรรม (เช่น ดนตรี ถ่ายภาพ ภาษา) นอกจากนี้ ฝั่งวัฒนธรรมก็มักจะมีกลุ่มเฉพาะทางต่างๆ อย่างเซอร์เคิลอนิเมะ ละครคาบุกิ รถไฟ ฯลฯ ที่เกี่ยวข้องกับประเทศญี่ปุ่นด้วย ในมหาวิทยาลัยเคโอนั้นมีเซอร์เคิลและชมรมที่ได้รับการยอมรับถึง 474 กลุ่มเลยทีเดียว รับรองว่าจะทำให้คุณได้พบกับสิ่งที่ตัวเองสนใจอย่างแน่นอน

นอกจากนี้ หากเป็นมหาวิทยาลัยญี่ปุ่นที่อยู่ในชุมชนเมือง ก็จะมีการจัดเซอร์เคิลร่วมกับมหาวิทยาลัยแห่งอื่นด้วย กิจกรรมเช่นนี้มักจะมีนักศึกษามหาวิทยาลัยอื่นมาเข้าร่วมกันเป็นจำนวนมาก ถือเป็นโอกาสดีที่จะสร้างมิตรภาพร่วมกับนักศึกษาต่างมหาวิทยาลัย

ดังนั้น เราจึงอยากแนะนำให้คุณเข้าร่วมกับเซอร์เคิลดังกล่าว บอกเลยว่าคุณจะได้สนุกไปกับการผูกมิตรกับชาวญี่ปุ่นและพัฒนาทักษะที่เกี่ยวข้องกับสิ่งที่คุณสนใจได้มากขึ้นด้วย

5. โรงอาหารที่มีอาหารหลากหลายเมนู ทั้งราคาถูกและมีคุณค่าทางโภชนาการ

s_pixta_16136972_XL

ในมหาวิทยาลัยมักจะมีโรงอาหารสำหรับนักศึกษาโดยเฉพาะ นอกจากอาหารญี่ปุ่นแสนอร่อยแล้วก็ยังมีอาหารฝรั่งและอาหารจีนที่สามารถซื้อได้ในราคาถูก อีกทั้งยังมีโรงอาหารของมหาวิทยาลัยที่คุณสามารถทานอาหารเช้าได้ในราคาแค่ 100 เยนด้วย! อาหารเหล่านี้ถูกจัดเตรียมอย่างพิถีพิถันใส่ใจในเรื่องของความสมดุลทางโภชนาการ ซึ่งถือว่าดีต่อสุขภาพของนักศึกษาต่างชาติที่มักจะรับประทานอาหารที่มีสารอาหารไม่ครบ

ยิ่งไปกว่านั้น เมื่อไม่กี่ปีที่ผ่านมาก็มีมหาวิทยาลัยที่หันมาพัฒนาความพร้อมในด้านต่างๆ ให้กับโรงอาหารของมหาวิทยาลัยด้วย ตัวอย่างเช่น มีร้านอาหารชื่อดังมาเปิด, มีอาหารเป็นคอร์สและอาหารฮาลาล ฯลฯ

6. มีความสัมพันธ์อันแน่นแฟ้นกับเครือข่ายนักศึกษาที่สำเร็จการศึกษาไปแล้ว เมื่อเข้าสู่วัยทำงาน

เครือข่ายนักศึกษาที่จบไปแล้วจะมีความสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้นมาก ถึงแม้จะแยกย้ายกันไปทำงานแล้ว แต่ก็ยังสามารถสานต่อความสัมพันธ์ในชีวิตการทำงานและเรื่องส่วนตัวกันได้ง่ายๆ

สำหรับช่วงเวลาของการหางาน ญี่ปุ่นก็มักจะมีวัฒนธรรมอันเป็นเอกลักษณ์อย่างการเยี่ยมเยียนรุ่นพี่ที่จบมาจากมหาวิทยาลัยเดียวกัน ซึ่งถึงแม้จะไม่เคยพบกันมาก่อน แต่ก็สามารถให้คำปรึกษาเกี่ยวกับการหางานได้อย่างจริงใจ และในบางครั้ง การไปเยี่ยมเยียนรุ่นพี่ที่บริษัทก็อาจจะทำให้ได้รับการแนะนำให้รู้จักกับฝ่ายบุคคลของบริษัทด้วยก็ได้

สำหรับมหาวิทยาลัยเคโอ ทางนิตยสาร Fortune500 ได้ยกย่องให้เป็นสถาบันที่สร้างบุคลากรระดับ CEO ได้มากเป็นอันดับ 9 ของโลก อีกทั้งยังผลิตผู้บริหารที่ทำงานในบริษัทมหาชนมากเป็นอันดับที่ 1 ของประเทศญี่ปุ่นด้วย รุ่นพี่ที่มีบทบาทในโลกธุรกิจและเครือข่ายอันแน่นแฟ้นนี้ถือเป็นดาวเด่นเลยทีเดียว

7. ประเทศญี่ปุ่นทั้งปลอดภัย สะอาด และมีสิ่งอำนวยความสะดวกในการดำรงชีพเพียบพร้อม

pixta_11439801_S

ญี่ปุ่นถือเป็นประเทศที่มีความปลอดภัยดีมากในระดับโลก และเป็นเมืองที่มีความสะอาด สามารถอาศัยอยู่ได้ง่ายๆ

ในเขตเมืองหลวง หากที่อยู่อาศัยตั้งห่างจากสถานีในระยะเดินเกิน 10 นาที ค่าเช่าบ้านก็จะไม่ได้แพงอะไร และโดยส่วนใหญ่ก็มักจะมีร้านสะดวกซื้อที่เปิด 24 ชั่วโมง และตู้ขายของอัตโนมัติอยู่ใกล้ๆ ด้วย ดังนั้น หากคุณต้องการซื้อของอะไรนิดๆ หน่อยๆ ก็จะไม่ลำบากเลย

8. เข้าถึงการรักษาพยาบาลได้ง่าย และได้รับการรักษาในราคาถูก

s_pixta_10842936_M

ประเทศญี่ปุ่นสามารถเข้ารับการรักษาทางการแพทย์ได้ง่าย อีกทั้งยังมีระบบประกันสุขภาพแห่งชาติ (เป็นกฎบังคับสำหรับคนที่อาศัยอยู่ในญี่ปุ่นเกิน 1 ปี) เมื่อทำประกันนี้แล้ว คุณก็จะเสียค่ารักษาทางการแพทย์ที่ต้องจ่ายเองแค่ 30% เท่านั้น เทียบกับสหรัฐอเมริกาหรือที่อื่นๆ แล้วถือว่าไม่แพงเลย

ยิ่งไปกว่านั้น มหาวิทยาลัยเคโอก็มีศูนย์ดูแลสุขภาพอยู่ในบริเวณมหาวืทยาลัยด้วย คุณสามารถเข้ารับการรักษาเบื้องต้น ปรึกษาเรื่องสุขภาพ หรือรับการตรวจอาการต่างๆ ได้ฟรี ทำให้นักศึกษาต่างชาติรู้สึกอุ่นใจได้

9. สนุกไปกับวัฒนธรรมญี่ปุ่น อาหารญี่ปุ่น และฤดูกาลทั้งสี่

Mt.Fuji with cherry blossoms

นักศึกษาที่มาศึกษาต่อในประเทศญี่ปุ่นนั้น ส่วนใหญ่จะมีความสนใจในวัฒนธรรมญี่ปุ่น อาหารญี่ปุ่นเลิศรสแสนอร่อย และฤดูกาลทั้งสี่อันสวยงาม เมื่อมาศึกษาต่อที่ญี่ปุ่นแล้ว คุณจะสามารถสนุกกับสิ่งเหล่านี้ได้ในชีวิตประจำวันเลยล่ะ

นอกจากนี้ เมื่อคุณอยู่ในประเทศญี่ปุ่นแล้วก็จะสามารถท่องเที่ยวไปยังที่ต่างๆ ในประเทศได้ง่ายขึ้นด้วย

10. รับประสบการณ์วัฒนธรรมล้ำหน้าในระดับโลก

pixta_13857695_S

โตเกียวมีทั้งอาหาร แฟชั่น ศิลปะ และวัฒนธรรมปลีกย่อยต่างๆ ที่ล้ำหน้าไปในระดับโลกมารวมตัวกัน คุณจะสามารถเก็บเกี่ยวประสบการณ์เหล่านี้ได้เต็มที่ ระหว่างที่ใช้ชีวิตอยู่ในมหานครทางธุรกิจที่ติดอันดับโลก ที่นี่ยังมีพื้นที่ธรรมชาติอยู่มากมาย มีวัดและศาลเจ้าที่เป็นทิวทัศน์ทางประวัติศาสตร์ กับสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ อีกมากมาย เช่น โตเกียวสกายทรี, โตเกียวทาวเวอร์ ฯลฯ

มหาวิทยาลัยเคโอมีแคมปัสอยู่ในบริเวณใจกลางเมืองโตเกียว และเป็นมหาวิทยาลัยที่อยู่ใกล้โตเกียวทาวเวอร์มากที่สุด หากคุณมีเวลาว่างหรือมีวันหยุดก็สามารถสนุกไปกับวัฒนธรรมที่และสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ ได้

ส่งท้าย

เป็นอย่างไรบ้างกับข้อมูลที่เรานำมาเสนอในวันนี้? บอกเลยว่าการมาศึกษาต่อในประเทศญี่ปุ่นจะทำให้คุณได้รับทั้งการศึกษาที่เพียบพร้อม และประสบการณ์ในการใช้ชีวิตและสัมผัสกับวัฒนธรรมญี่ปุ่นอย่างแท้จริง อีกทั้งยังเหมาะกับคนที่กำลังคิดจะหางานทำในบริษัทญี่ปุ่นด้วย

นอกจากนี้ เรายังได้เตรียมวิชาภาษาญี่ปุ่นไว้ให้คุณเพื่อให้สามารถใช้ในการเรียนรู้และทำความเข้าใจวัฒนธรรมสังคมของชาวญี่ปุ่นได้ อีกทั้งยังเป็นการเพิ่มโอกาสในการทำงานที่ญี่ปุ่นให้กับคุณด้วย หากสนใจก็สามารถตามไปอ่านเพิ่มเติมในเว็บไซต์ด้านล่างนี้ได้เลย

หากมีคำถาม คำแนะนำ หรือข้อเสนอแนะใดๆ เกี่ยวกับบทความของเรา สามารถติดต่อและติดตามเราผ่านทางเฟซบุ๊กได้เลย !

เนื้อหาในบทความนี้ อัพเดทล่าสุด ณ วันที่เผยแพร่

Oyraa
0 Shares: